สาวรู้สึกผิดขอโทษลูกจนน้ำตานอง หลังเอ่ยปากพูดออกมาแล้วแมวได้ยินจนทำให้ตรอมใจและป่วยแบบไม่ทราบสาเหตุ

เพราะสิ่งมีชีวิตบนโลกนั้นก็มีหัวใจเหมือนกับเราทุกๆคน ซึ่งในบางครั้งเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงแมวเองก็จะคิดว่าพวกเขานั้นไม่ค่อยจะรู้เรื่องรู้ราวสักเท่าไหร่นัก อาจจะเพราะด้วยการที่พวกเขาไม่ค่อยจะเชื่อฟังเราในเวลาที่เราสั่งให้พวกเขาทำในสิ่งต่างๆ แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว เจ้าเหมียวของคุณก็มีหัวใจไม่ต่างจากสุนัขเลยแม้แต่น้อง เช่นเดียวกับเรื่องรางนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เขารักมาโพสต์ลงในกลุ่ม ทาสแมวV2 หลังจากที่เธอนั้นได้เลี้ยงเจ้าเหมียวตัวน้อยตัวนี้มาตั้งแต่ยังเล็กและเคยบอกเอาไว้ว่าน้องลายสวยและตัวเล็กสุดทั้งๆที่เป็นพี่คนโต เธอจึงรักและสงสารน้องเมื่อใครเอ่ยปากขอก็จะไม่ให้ตัวนี้เพราะจะเก็บเอาไว้เลี้ยงเอง จนมาช่วงที่เธอนั้นได้กลับบ้านมาในช่วงโควิด ลูกพี่สาวที่เป็นญาติของเธอได้มาขอน้องแมวไปเลี้ยงเธอจึงบอกยกให้ แต่ทว่าจู่ๆน้องก็กลับมาป่วยแบบไม่มีสาเหตุ ไม่ยอมกินอะไรสักอย่างเอาแต่นอนซมไม่ลุกไปไหน เธอจึงได้เอ่ยปากขอโทษแล้วบอกกับน้องแมวว่าแม่จะไม่ยอมยกลูกให้กับใครอีกแล้ว แม่ขอโทษนะลูกนะ หลังจากเอ่ยคำนี้ออกไปได้ไม่นานสัก 10-15 นาทีผ่านไปน้องกลับลุกเดินมากินน้ำเลยค่ะ จากที่นอนซมมาหลายวันอยู่ๆก็ลุกมานอนบนตักเรา งานนี้เลยทำเอาผู้เป็นเจ้าของถึงกับน้ำตาไหลออกมา แถมยังรู้สึกผิดเอามากๆด้วย โดยตอนนี้น้องก็เริ่มที่จะกินอาหารได้บ้างแล้ว เธอจึงอยากฝากใครหลายๆคนที่ได้เลี้ยงแมวว่าจะพูดหรือทำอะไรก็อยากจะให้นึกถึงจิตใจของน้องด้วยเพราะพวกเขาก็ฟังภาษาเราและมีหัวใจเหมือนกับเราทุกคน ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดกเกาะยาว เดกโล้ะโป๊ะ

ตกจากหลังคายืนตัวสั่นขนฟูด้วยความกลัวถูกหมาเดินวนเวียน ได้แต่หันซ้ายหันขวาผวาหาผู้เป็นแม่

เพราะชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้จึงทำให้หลายๆชีวิตต้องเกิดมาดิ้นรนกับสิ่งที่ต้องเจอ ซึ่งในหลักศาสนานั้นอาจจะเรียกว่าชะตากรรม และก็ไม่ใช่คนเพียงเท่านั้นที่ต้องเกิดมามีชะตากรรมแม้แต่สัตว์ตัวเล็กๆก็ต้องดิ้นรนไม่แพ้กับมนุษย์อย่างเราๆเลย เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Katai Nilsil ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องเขา ซึ่งน้องนั้นตกลงมาจากหลังคาหน้าเซเว่นแห่งหนึ่ง โดยน้องเกือบจะถูกรถที่มาสั่งของที่เซเว่นทับ แถมบริเวณดังกล่าวยังมีหมาจรที่เฝ้าอยู่หน้าเซเว่นคอยวนเวียนอยู่แถวนั้น น้องตกลงมายืนขู่ด้วยความกลัวจนตัวสั่น หันมองซ้ายขวามองหาผู้เป็นแม่ แต่ทว่าก็ไร้วี่แววของผู้แม่เห็นแล้วก็สุดจะน่าเวทนาเป็นอย่างมาก ผู้โพสต์จึงปล่อยให้น้องอยู่เพียงลำพังไม่ได้ จึงได้รับน้องมาไว้ดูแลเป็นการชั่วคราว เพราะถ้าปล่อยให้น้องอยู่แบบนั้นต่อไปคงจะไม่รอดแน่ อีกทั้งเฝ้ารอแม่แมวก็ไร้วี่แววของผู้เป็นแม่แต่อย่างใด ผู้โพสต์จึงอยากให้เพื่อนๆในโลกออนไลน์ช่วยหาบ้านให้กับน้องทีเพราะเนื่องด้วยตัวผู้โพสต์เองก็เต็มอัตรา เพราะที่บ้านของเธอก็มีแมวอยู่แล้วถึง 3 ตัวจึงไม่สามารถจะรับน้องมาดูแลเพิ่มได้อีก อีกทั้งพื้นที่ที่ผู้โพสต์อยู่ก็มีพื้นที่ที่จำกัดเป็นอย่างมากเลยไม่สะดวกที่จะเลี้ยงน้องจึงได้นำมาแค่ดูแลเพียงชั่วคราวเพียงเท่านั้น โดยเธอได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ พัฒนาการ 37 ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Katai Nilsil 

เพราะชีวิตต้องดิ้นรน กระเสือกกระสนหาที่ปลอดภัยให้ลูกทำหน้าที่สุดท้ายก่อนที่แม่จะจากไป

หากเราจะเอ่ยถึงหัวอกคนเป็นแม่นั้นคงจะไม่มีอะไรมาเทียบทัดความรักอันยิ่งใหญ่ของผู้เป็นแม่ที่มีต่อลูก และทุกคนก็คงจะเข้าใจความหมายของความรักของแม่นั้นดี เพราะทุกคนที่เกิดมาย่อมมีแม่ที่คอยรักและดูแลเราจนเติบใหญ่จนบางครั้งการเสียสละอันยิ่งใหญ่นั้นก็ยังคงจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ไอ แอม กระต่าย ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยๆเหล่านี้ หลังจากที่เขานั้นได้พบน้องแอบอาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำในแคมป์คนงาน ซึ่งคนงานในแคมป์แห่งนี้ได้เล่าว่าแม่แมวนั้นมาแอบคลอดลูกเอาไว้ ในท่อระบายน้ำเพราะคิดว่ามันจะเป็นที่ปลอดภัยที่สุดของลูกน้อย แต่ทว่าไม่กี่วันต่อมาแม่แมวกลับสิ้นใจไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเด็กๆแถวนั้นชอบมาเล่นแถวนี้จึงทำให้ได้เจอกับลูกแมวและผู้โพสต์ก็ไปเจอเข้า ซึ่งเจ้าเหมียวก็ส่งเสียงร้องกันยกใหญ่เพราะหิวนมจากผู้เป็นแม่ เขาจึงได้ทำการถ่ายรูปและนำมาโพสต์ขอความช่วยเหลือลงในกลุ่มเพราะน้องๆยังต้องการนมจากผู้เป็นแม่ ซึ่งในเวลาต่อมาก็ได้มีผู้รับเลี้ยงน้องๆทั้งหมดแล้ว โดยน้องๆนั้นได้อยู่ที่ บางนา-ตราดกม.35 โดยทางผู้โพสต์สามารถขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราขอชื่นชมความรักของผู้เป็นแม่ที่มีต่อน้องๆเพราะคิดว่าที่นี้คงจะปลอดภัยที่สุดถ้าลูกๆได้แอบอาศัยอยู่แบบนี้และคงคิดว่าสาเหตุของการสิ้นใจของแม่แมวน่าจะเกิดมาจากการที่ออกไปหาอาหารมาให้กับเด็กๆ ซึ่งทางเราก็หวังว่าพวกน้องๆจะได้รับความรักความอบอุ่นจากผู้เป็นเจ้าของใหม่และบ้านหลังใหม่ที่จะมาเติมเต็มแทน ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไอ แอม กระต่าย

สาวสุดทนโพสต์แฉ หลังพาแมวไปหาหมอทั้งจิกทั้งกดหัว พนักงานพูดจาไม่รู้เรื่องแถมทำท่าทางรังเกียจ

เพราะด้วยการเลี้ยงแมวหรือสัตว์ต่างๆนั้นก็เหมือนกับเราได้เลี้ยงเด็กตัวน้อยๆ เพราะด้วยความรักความเอาใจใส่ที่มอบให้พวกเขาทำให้เรานั้นเกิดความห่วงใย แม้เพียงจะไม่สบายเพียงเล็กน้อยคนที่เป็นเจ้าของอย่างเราๆก็คงจะปล่อยไว้ไม่ได้และรีบพาไปหาหมอ แต่ทว่าการที่เราพาแมวไปหาคุณหมอแล้วกลับต้องเจอกับการบริการที่ไม่ดีหรือการที่มีคนมาทำไม่ดีกับสัตว์เลี้ยงของเรา เป็นใครก็คงจะไม่ชอบกันทั้งนั้นแหละใช่มั้ย เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Warisa Mint ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวที่เขานั้นได้พบเจอมาลงในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เขานั้นสุดจะทนกับการบริการของโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง ซึ่งเธอได้เล่าว่าตั้งแต่เดินเข้าไปในคลินิกเลยคะ พูดจาก็แย่ตั้งแต่สอบถามเรามาตราฐานร้านอยู่ที่ไหน ให้พนักงานที่เป็นคนงานชาวพม่ามาเจาะน้ำเกลือ แทงเข้าแทงออกหลายบรอบ ซึ่งน้ำเกลือก็ไม่เข้า หยดตามมือของคนจับแถมยังเลอะตัวน้องจนเปียกชุ่ม แล้วพนักงานก็พูดอีกด้วยว่านี่แหละเดียวก็ซึมเข้าตามผิวหนัง คืออะไรแบบนี้ก็ได้หรอ แถมยังจับน้องแรงมากกดหัวน้องจิกน้อง หมอคือแทบจะไม่มีบทสนทนาใดๆ ไม่พูดไม่อธิบายไม่แนะนำใดๆเลย สรุปก็คือไม่ได้อะไรกลับมาให้แต่ยามากิน โดยหมอนั้นมีบทบาทแค่ว่าเข้ามาฉีดยาให้แล้วเดินออกไปซึ่งที่เหลือก็คือพนักงานคนงานพม่าที่พูดไทยไม่ชัด พูดภาษาอะไรก็ไม่รู้ และยังไม่หมดแค่นี้ยังมีการเอาปรอดวัดไข้มาวัดน้องทางก้นและก็มีอึออกมา พออึออกมาก็แสดงท่าทีที่รังเกี้ยจ แบบนี้คือมันเกินไปไหมถ้าไม่มีจิตใจบริการไม่รู้ว่าจะมาทำงานด้านนี้ทำไม ซึ่งทั้งนี้จากโพสต์ดังกล่าวก็ได้มีเพื่อนๆในกลุ่มต่างพากันคาดเดาว่าเป็นคลีนิกไหนในย่านบางบัวทองเพราะจะได้ไม่ไปใช้บริการที่นี้อีก...

สาวเล่าประสบการณ์โดนแมวแปลกหน้า อย่าได้คิดชะล่าใจภัยร้ายกว่าที่คิด

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Paeng Tharatchaya ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นถูกแมวแปลกหน้างับเข้า หลังโดนงับเธอก็ไปหาหมอหมดเงินไปหลายพันแต่แผลก็อาการหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอได้เปลี่ยนโรงพยาบาลเพื่อรักษาเพราะวันเวลาก็ผ่านไปหลายวันแล้วยังไม่หายปวดสักที . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แมวงับอย่าคิดว่าเรื่องนิดเดียว สวัสดีค่ะ วันนี้มาแชร์ประสบการณ์การโดนแมวงับค่ะ โดยปกติแล้วเราเลี้ยงแมวอยู่หลายตัว ไม่มีตัวไหนดุเลยค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่าเราไปช่วยเพื่อนทำร้านอาบน้ำตัดขนสัตว์ แล้วเราโดนแมวของลูกค้าเพื่อนงับมาค่ะ น้องเป็นแมวพันธุ์เปอร์เซียตัวผู้ตัวใหญ่ ซึ่งตอนนั้นเค้าน่าจะตื่นเต้น เราเลยเข้าไปอุ้มน้องเขากะว่าจะปลอบแต่แล้วนางก็เกิดตกใจอะไรก็ไม่รู้แว้งกลับมางับเรา ซึ่งในตอนนั้นกำลังอุ้มเค้าอยู่ด้วย แมวไม่ได้ผิดอะไร เราสิผิดที่ไม่ระวังตัวเอง พอหลังจากโดนงับแล้ว เราก็ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดในทันที บีบๆมีโลหิตไหลออก จากนั้นก็ไป โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางนาเพื่อล้างแผล ที่โรงพยาบาลก็ล้างแผลให้แบบเอาน้ำเกลือเช็ดๆ...

ไม่เคยคิดว่าจะเจอกับตัวเอง หลังได้รับของขวัญชิ้นใหญ่มาวางซบไว้ที่กลางหลังในตอนตื่น

เพื่อนๆหลายคนที่ไม่ได้เลี้ยงแมวนั้นก็อาจจะไม่เข้าใจคำจำกัดความของคำว่า ทาสแมว กันสักเท่าไหร่นักเพราะด้วยเหตุผลที่ว่าแมวนั้นจะคิดว่าพวกเขานั้นเป็นนายเราและมนุษย์อย่างเราๆเป็นทาสของพวกเขานั้นเอง พวกเขาจึงมักจะทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้องอยู่เสมอๆ เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ice'ice Yapha ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่ทราบซึ้งและสุดฮาจนน้ำตาแทบจะไหลหลังจากที่ในเช้าวันนึงเธอได้ตื่นขึ้นมา ซึ่งเป็นเช้าวันปกติทั่วๆไปแต่แล้วสิ่งที่เธอได้พบเธอกับได้เห็นของขวัญชิ้นใหญ่ ที่เจ้าเหมียวสุดที่รักนั้นได้นำมามอบให้ แต่ก็ไม่ได้มอบให้แบบธรรมดาเพราะน้องเล่นเอามาวางไว้ให้ถึงบนที่นอน ซึ่งเป็นจุดที่เธอนอนและเป็นกลางหลังของเธอ ใช่แล้วละเจ้าเหมียวสุดที่รักได้นำของขวัญชิ้นใหญ่มามอบให้กับเธอโดยการที่เอาซุกไว้ที่กลางหลัง ซึ่งเธอถึงกับแทบจะร้องไห้ออกมาไม่ใช่เพราะความซาบซึ้งแต่อย่างใด แต่เพราะสิ่งที่เจ้าเหมียวนำมามอบให้นั้นเป็นหนูที่สิ้นใจ อาจจะเพราะด้วยน้องเห็นว่าช่วงนี้แม่ไม่ค่อยออกไปทำงานจึงกลัวว่าแม่จะไม่มีอะไรกินก็เป็นได้ น้องเลยจัดสรรหาอาหารมาให้แบบเสร็จสรรพ และด้วยความตื้นตันใจของเธอเธอจึงได้นำเรื่องราวอันสุดซึ้งนี้มาโพสต์บอกเล่าให้กับเพื่อนในกลุ่มทาสแมวให้ได้ฟังกัน จนทำให้กลายเป็นเรื่องที่ชวนฮา เพราะสีหน้าและแววตาของน้องที่ดูอ่อนวอนว่าถ้าแม่ไม่กินให้หมดหนูคงจะเสียใจแย่เลย งานนี้ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ต่อไปนั้นจะเป็นอย่างไรแต่ถึงอย่างไรแม่ก็คงจะไม่กินแน่ๆฮ่าๆ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Ice'ice Yapha

อุทาหรณ์เตือนใจนอนร่วมกับแมวเด็ก หลังได้รับน้องมาเลี้ยงก็มีความสุขมากๆแต่พอตกดึกกลับต้องพบเจอเรื่องราวที่ทำให้ตกใจตื่น

เพราะการที่เราได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นทำให้เราได้อะไรหลายๆอย่างมากกว่าที่คิด ซึ่งหากใครที่ไม่เคยเลี้ยงก็จะไม่เข้าใจว่าเราจะเลี้ยงไปทำไมให้เป็นภาระ แต่ทว่าสิ่งที่แรกมานั้นมันมีค่ามากกว่านั้นเยอะมาก ทั้งเรื่องของความรักและความผูกพันทั้งในเรื่องของความเหงาเมื่อต้องอยู่ตัวคนเดียวพวกเขาก็จะคอยเป็นกำลังใจให้กับเราอยู่เสมอ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า เค บางบอน ได้โพสต์เตือนเพื่อนๆในกลุ่มทาสแมว official เพื่อจะเตือนภัยเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงแมวเด็ก โดยเรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่เขานั้นได้รับเจ้าเหมียวตัวน้อยตัวนี้มาเลี้ยงเมื่อวาน ตลอดเวลาที่ได้มาอยู่กับน้อง 1 วัน 12 ชั่วโมง เขานั้นก็โคตรที่จะมีความสุขเพราะน้องแข็งแรงดี ขี้เล่นกำลังซนเพราะด้วยความเป็นเด็ก แต่ทว่าเมื่อคืนที่ผ่านมานี้ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขานั้นแทบจะหลับไม่ลง เพราะด้วยความที่น้องยังตัวเล็กมากๆ เขาก็กลัวว่าเขานั้นจะนอนทับน้อง จึงให้น้องนอนที่หัวเตียงและก็เฝ้ารอดู จนกระทั่งน้องหลับไปเขาถึงจะนอนหลับตาม ด้วยเวลาผ่านไปปกติจนถึงเวลาตี 3 เขานั้นก็ตกใจตื่นด้วยหัวใจที่แต้นแรงแบบสุดขีดราวกับเหมือนผีหลอก เขานั้นได้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดของห้องนอน...

ที่ห้องเลี้ยงหมา2ตัวกับแมวอีก1ตัว แต่จู่ๆแมวกลับท้องปริศนาทั้งๆที่เลี้ยงระบบปิดอยู่บนคอนโดสูง12ชั้น

เพราะแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่พวกเราจะไม่มีวันเข้าใจพวกเขา ถ้าหากเราไม่ทำความรู้จักลักษณะนิสัยของแมวแต่ละตัวให้ดี อาจจะเป็นเพราะด้วยพวกเขานั้นมีการแสดงออกหรือความต้องการในการแสดงออกต่างๆไม่เหมือนกับสุนัข จึงทำให้มนุษย์อย่างเราๆนั้นเข้าใจเขายากมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nonnaphat Nilkhamon ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้หลังจากที่วันนี้อยู่ๆน้องก็คลอดลูกออกมา ทั้งๆที่ผู้เป็นเจ้าของนั้นเลี้ยงน้องในระบบปิดและอยู่บนคอนโดสูงถึง 12 ชั้นโดยย้อนไปก่อนหน้านี้น้องมีอาการกินเยอะผิดปกติ ซึ่งในตอนแรกผู้เป็นเจ้าของก็คิดว่าน้องคงจะอ้วนโดยเขาเองก็ดีใจถือว่าเขานั้นเลี้ยงน้องมาดี กะว่าในวันพรุ่งนี้ว่างจะพาน้องไปฉีดวัคซีนประจำปี แต่ในวันนี้จู่ๆน้องก็มีอาการหอบลิ้นห้อยซึ่งในตอนแรกเขาก็คิดว่าน้องคงจะร้อนเลยรีบเปิดแอร์ แต่พอเวลาผ่านไปก็เห็นน้ำใสๆบนเตียงนึกว่าฉี ก็ทำความสะอาดซักพักมีอะไรโผล่มาซึ่งเขาก็ยังคิดว่านางป่วยเป็นอะไรซักอย่าง โดยในตอนนั้นเค้าก็เครียดมากเพราะมีเคอร์ฟิวและหาคลีนิคไม่ได้ด้วย แต่แล้วสักพักนึงผ่านไปเจ้าเหมียวตัวเล็กก็ออกมา เห้ยลูกแมว มาจากไหนมาได้ยังไงซึ่งเขานั้นถึงกับรนเพราะทำอะไรไม่ถูก จนตั้งสติได้ก็โทรหาแม่และขอคำแนะนำจากพี่ๆในกลุ่มจนทั้งหมดก็ออกมาลืมตาดูโลกทั้ง 4 ตัว แต่ก็ยังคงงงอยู่ว่าน้องนั้นไปท้องมาตอนไหนเพราะเลี้ยงในระบบปิดอยู่บนคอนโดสูงถึง 12 ชั้นเลี้ยงร่วมกับสุนัขอีก 2 ตัวตัวผู้...

จากคนที่เคยบอกว่าไม่ให้เลี้ยง ถ้าเอามาจะนำไปปล่อย แต่ในวันนี้กลับมานั่งแกะก้างปลาจนเหลือแต่เนื้อเพื่อให้แมวกิน

เพราะคนเรานั้นมีความชอบไม่เหมือนกัน อาจจะเพราะด้วยการเลี้ยงดูหรือสภาวะของสังคมที่ได้พบเจอทำให้มีความชอบแตกต่างกันไป แต่ทว่ายิ่งถ้าเป็นผู้สู้งอายุหรือคนเป็นพ่อเป็นแม่ของเราแล้วยิ่งหนักเพราะส่วนมากพวกเขาก็จะไม่ค่อยอยากที่จะเลี้ยง ซึ่งด้วยภาระที่จะตามมาและความผูกพันที่จะต้องเจอทำให้พวกเขานั้นไม่ค่อยอยากที่จะเลี้ยงสัตว์ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sirinuch Pothikan ที่ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของคุณแม่ของเขา ผู้ที่เคยบอกว่าไม่ให้เลี้ยงแมว เพราะขนของน้องเยอะและมันจะทำให้เข้าปอด ซึ่งทางคุณแม่เองยังเคยพูดเอาไว้ด้วยว่าถ้าใครเอามาเลี้ยงจะเอาไปปล่อยเพราะไม่ชอบขนแมวมันเข้าปอด แต่เมื่อได้ยินคำพูดในวันนั้นกลับตัดภาพมาในวันนี้เห็นคุณแม่นั่งแกะปลานั่งหลังขดหลังแข็งเอาก้างปลาออกจนเหลือแต่เนื้อล้วนๆเพื่อเอาไว้ให้เหล่าเจ้าเหมียวได้กิน เท่านั้นยังไม่พอเมื่อแมวร้อนก็จะเปิดแอร์ให้กับแมว แต่เมื่อลูกร้อนกลับไม่คิดแม้จะเปิด แถมใครกันที่เรียกลูกว่ามันเรียกแมวว่าลูก ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็ยังได้ย้ำบอกด้วยว่าในตอนนี้ที่บ้านของเธอนั้นมีแมวทั้งหมด 9 ตัวและก็ไม่เคยมีจริงๆกับคำว่าตัวสุดท้าย เพราะมักจะมีแมวงอกออกมาเสมอ ซึ่งจากในวันแรกที่ไม่ยอมให้เลี้ยงแบบหัวเด็ดทีนขาดแต่ในวันนี้แม่กลับลืมคำพูดเหล่านั้นพร้อมกับรักแมวมากกว่าลูกไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวสุดฮาที่หลายๆคนเองก็คงจะได้รับรู้เมื่อคนเป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเรานั้นได้เลี้ยงแมว อาจจะเพราะด้วยความผูกพันที่เลี้ยงมาและด้วยเจ้าเหมียวนั้นก็เหมือนกับเด็กเล็กๆทำให้พ่อแม่เรานั้นรักพวกเขาเหมือนกับลูก ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sirinuch Pothikan

พบร่างพี่เตี้ยแล้ว ถูกพบในป่าข้างทางหลังตรวจสอบจากไมโครชิพพบว่าเป็นร่างของพี่เตี้ยจริง

ถือเป็นอีกหนึ่งชีวิตที่ทำเอาเหล่าคนรักหมาใจสลาย หลังทางแฟนเพจได้โพสต์อัพเดทลงในโลกออนไลน์ว่าพบพี้เตี้ยมช. ที่ไร้ลมหายใจจริง โดยมีคนพบพี่เตี้ยอยู่ที่ป่าข้างทาง และทางแอดมินก็ได้เข้าไปดูร่างของพี่เตี้ยแล้วและยืนยันว่าเป็นพี่เตี้ยจริง เพราะตรงกับไมโครชิพที่ติดอยู่กับพี่เตี้ย . โดยทางแฟนเพจได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า ขอแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องพี่เตี้ยนะคะ ทางเพจได้รับแจ้งว่าเจอร่างสุนัขที่ป่าข้างทาง มีลักษณะคล้ายพี่เตี้ย เราจึงให้ทางแอดมินไปตรวจสอบ ร่างสุนัขดังกล่าวคาดว่าได้เสียมาหลายวันแล้ว และมีลักษณะคล้ายพี่เตี้ยจริง จึงให้ทางสัตวแพทย์นำเครื่องสแกนไมโครชิปมาตรวจสอบอีกครั้ง (ไมโครชิปใช้สำหรับยืนยันตัวตนของสัตว์เท่านั้น ไม่สามารถระบุพิกัดตำแหน่งของน้องได้) และยืนยันได้ว่าคือพี่เตี้ยจริง ตอนนี้ร่างของพี่เตี้ยได้ถูกส่งมอบให้ทางคณะสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุการจากไปต่อไป หลังจากชันสูตรเสร็จแล้ว เรื่องการจัดการร่างของพี่เตี้ย ทางเพจจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามาด้วยนะ และขออภัยสำหรับความล่าช้าในการแจ้งข่าวนี้นะคะ ทางเราพึ่งจัดการเรื่องพี่เตี้ยกับทางคุณหมอเสร็จเรียบร้อยค่ะ หมายเหตุ: ร่างพี่เตี้ยไม่ได้ถูกถุงห่อหุ้มตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้แต่อย่างใดนะ   ที่มา เตี้ย...