ทุกครั้งที่ไม่สบายก็จะมาอ้อนให้ช่วยรักษา เมื่อหายดีก็จะหายหน้าออกไปเดียวต่อ

หากเพราะด้วยคำว่าศักดิ์ศรีของแต่ละคนไม่เท่ากัน โดยกับเจ้าเหมียวซึ่งเราไม่รู้ได้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ หากเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของแมวตัวผู้แล้วด้วย พวกเขาก็จะไม่ชอบให้ใครมาข้ามถิ่นพวกเขาอยู่แม้แต่เดินผ่านก็ไม่ได้ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเพราะเช่นไร เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Puwadol Tesasilp ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าชาลี ซึ่งเจ้าชาลีเป็นแมวจรที่มากินแล้วก็จะไป ถ้ามาหาให้อยู่หลายวันแสดงว่าไม่สบายหรือเจ็บ ชอบมาอ้อนให้ทายาให้ป๋มหน่อย ทาเบตาดีนจนหายดีแล้วก็ออกไปซ่าไปเดียวต่อ ด้วยชาลีเองใช้ชีวิตมาด้วยศักดิ์ศรีสูงเพราะจะไม่ชอบอยู่บ้านนั่งๆนอนๆกินไปวันๆ ชาลีจะชอบเป็นเจ้าถิ่นคุมซอยไม่ชอบให้ใครเขามาหนามหน้า ด้วยเป็นแม่ตัวผู้และชอบออกไปเที่ยวแม้มีแมวส้มมาชาลีก็จะเข้าไปใส่เดียวไม่ห่วงตัว พอเจ็บทีไรก็แวะมาหา ให้ช่วยรักษาจนหายดีก็ออกไปต่อที่ไหนไม่รู้ ซึ่งตัวผู้โพสต์เองก็รักษาและเลี้ยงชาลีมาหลายรอบหมดเบตาดีไปหลายของแล้วแต่ชาลีก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเป็นแมวบ้านเหมือนกับใครเขา แต่ชาลีเองก็จะมาหาเขาเวลาหิวก็เลยจะได้พบเจอกันบ่อยๆหน่อย แม้ว่าอยากจะได้มาเลี้ยงมาครอบครองแต่ชีวิตของชาลีเองก็อยู่มาได้ด้วยศักดิ์ศรีเขาจึงไม่นำชาลีเข้าบ้านหรือไปทำหมัน เลยปล่อยให้คุมซอยและพร้อมบวกกับทุกตัวต่อไป ซึ่งก็ถือเป็นชีวิตจิตใจที่เขาได้อยู่และเติบโตมา ซึ่งแมวแต่ละตัวก็มีนิสัยแตกต่างกันแม้เราอยากจะให้เขาอยู่ในบ้านก็กลัวว่าเขาจะไม่เป็นตัวเอง ที่มา Puwadol Tesasilp

ชอบมายืนจ้องต้องเรียกให้เข้าถึงจะเข้ามา เหมือนว่าต้องรอได้รับอนุญาติจากแม่ก่อน

หากเพราะด้วยพื้นฐานของแต่ละชีวิตมีมาไม่เหมือนกัน เราต่างทีต่างทางได้มาพบกันเลยต่างนิสัยแม้แต่ตัวของแมวเองก็ตามเพราะหากต่างคนเลี้ยงดูต่างพ่อแม่มาเลยนิสัยต่างกัน และหากเป็นแมวจรแล้วพวกเขาก็จะฟังที่เราพูดรู้เรื่องมากกว่าแมวที่อยู่แต่ในบ้านและถูกเลี้ยงดูมา เพราะจากการเรียนรู้และคอยฟังภาษามนุษย์ตอนอยู่ภายนอกบ้านว่าเขาจะมาทำอะไรเราหรือเขาคุยอะไรกัน พวกเขาจึงจะเข้าใจมากกว่าตัวอยู่ในบ้านและชอบทำหูทวนลม เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tanyarat Chinvongprom ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวของเธอ โดยเรื่องมีอยู่ว่าเมื่อเวลาได้เข้าห้องและยามจะเข้านอนหากว่าเธอไม่เอ่ยชื่อหรืออนุญาติให้น้องเข้า เขาก็จะนั่งเฝ้าจ้องมองอยู่แต่ภายนอกประตู เพราะเธอได้ทำประตูเอาไว้ให้กับน้องได้เข้าออกอย่างสบายใจ แต่ทว่าหากไม่ได้รับอนุญาติจากผู้เป็นแม่แล้ว น้องก็จะไม่ยอมเข้ามาเองต้องเรียกทุกครั้งแม้ยามจะปิดไฟนอนน้องก็จะนั่งคอยอยู่ตลอดถ้าเราไม่ยอมเรียกเขาเหมือนว่าเราไม่อนุญาติให้น้องได้เข้ามา น้องก็จะนั่งจองอยู่อย่างงั้นตลอดคืน เธอจึงได้มาโพสต์เรื่องราวความมีมารยาทของน้องลงในกลุ่ม ทาสแมว Official และบอกกับเพื่อนๆไว้ว่าแม้แต่แมวเองก็ยังมีนิสัยต่างกันแมวของเธอเป็นแมวน่ารักและพูดรู้เรื่องมากๆ หากว่าคอยพูดหรือคอยบอกคอยสอนเขาแต่ยังเล็กพวกเขาก็จะเข้าใจและรู้เรื่องในสิ่งที่เราได้พล้ำสอน จึงอยากฝากเอาไว้ว่าพวกเขาก็เหมือนกับเด็กหากเลี้ยงแล้วก็ต้องใส่ใจและสอนให้ดี ที่มา Tanyarat Chinvongprom

เห็นชอบออกไปเล่นนอกบ้านหายไปเป็นวัน ข้างบ้านเลยจัดเอาหลานมาให้ดูถึงในบ้าน

เพราะคนที่ได้เลี้ยงจะเข้าใจเมื่อพวกเขาได้ถึงวัยเป็นหนุ่มเป็นสาวก็จะชอบออกไปเที่ยวเล่นตามประสา ซึ่งตัวทาสก็ไม่ว่าเห็นชอบออกไปเที่ยวเล่น แต่การจะปล่อยให้พวกเขาออกไปก็อาจจะเป็นปัญหาตามมาได้ เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะต้องไปพบเจอกับอะไรบ้าง เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้มใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Achara Bunpa ได้โพสต์เรื่องราวเมื่อเจ้าเหมียวของเขาชอบออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านอยู่เป็นประจำและเวลาได้ออกหรือหายไปทีก็หายไปเป็นวัน ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้กังวลใจเพราะข้างบ้านเองก็เป็นทาสแมวเหมือนกันกับเขา และน้องก็ชอบออกไปเล่นกับแมวของข้างบ้านอยู่แล้ว แต่มาพักหลังนี้น้องไม่ค่อยจะออกไปข้างบ้านจึงได้จัดของขวัญชิ้นใหญ่มาเซอรไพรส์ให้ถึงในบ้านเธอ เพราะข้างบ้านได้เอาเจ้าเหมียวตัวน้อยที่มีลายเหมือนกับแมวของเขาเอง เพราะว่าน้องไปทำเขาท้องและก็หายไปไม่มารับเลี้ยงดูเลย งานเลยออกที่เจ้าเหมียวตัวป่วนเพราะสีของลูกแมวที่ได้มาเป็นสีเดียวกับเจ้าเหมียวเอง ด้วยเจ้าเหมียวก็มีชื่อว่าพี่เก้า และเขาก็มาขอกำลังใจกับเพื่อนๆในกลุ่มให้พี่เก้าที เพราะหน้าพี่เก้าตอนที่รู้ตัวว่ามีลูกก็เหมือนหมดอาลัยเหลือเกิน เธฮจึงได้มาโพสต์เรื่องราวลงในกลุ่ม ทาสแมว offical เพื่อที่จะบอกกับเพื่อนๆว่าหากจะปล่อยให้พวกเขาไปนอกบ้านก็ควรที่จะให้อยู่ในการดูแลหรือสายตาของเราเอง ไม่อย่างงั้นอาจจะได้หลานเพิ่มมาเช่นเดียวกับตัวเธอและต้องมานั่งเลี้ยงลูกให้เจ้าเหมียวของตัวเองอีก เพราะแม้ตัวพี่เก้าเองจะไม่ค่อยแน่ใจว่าใช่ลูกตัวเองมั้ยแต่ DNAขนที่อยู่บนตัวของเจ้าเหมียวตัวน้อยก็ไม่ผิดไปแน่ๆ ที่มา Achara Bunpa

นั่งเฝ้าร้องหาทาสหลังตัวถูกเทไว้กลางถนน พร้อมกะบะทรายและของใช้ของตัวเอง

คงจะไม่ได้มีเพียงแค่บ้านเราที่มนุษย์เกิดไม่รับผิดชอบต่อหนึ่งชีวิตอยากจะได้มารับเลี้ยง เมื่อได้เห็นเป็นภาระจึงนำไปไว้ตามสถานที่ต่างๆเพราะจากก่อนอยากจะได้จึงรับมาแต่เมื่อไม่เห็นค่าแม้ในตาก็ไม่แม้ยอมมองแม้ในต่างประเทศเองก็ตาม เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า Malee & Friends. ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวที่มีอายุ 1 ขวบที่ถูกเจ้าของนำมาเทไว้อยู่กลางถนนพร้อมกับกระบะทรายแมวและของใช้ส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งใครกันช่างทำได้ลงคอโดยเรื่องเกิดขึ้นที่นิวยอร์ก โดยเจ้าของเก่าได้เอาแมวมาปล่อยเอาไว้กลางถนนบรูคลิน พร้อมกับข้าวและของใช้ต่างๆที่เป็นของเจ้าเหมียว ซึ่งหลังจากการถูกเทเจ้าเหมียวก็ยังคงนั่งเฝ้าของใช้ของตัวเองเอาไว้ด้วยคงจะคิดว่าเขาจะกลับมารับตัวแม้จะหวาดกลัวต่อรถที่วิ่งผ่านไปมา แต่ก็ยังโชคดีที่มีคนกวาดถนนและคนที่ได้เห็นเหตุการณ์ช่วยกันตามหาผู้เป็นเจ้าเหมียวที่วิ่งหายไป ซึ่งเจ้าเหมียวจึงได้ถูกตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Nostrand ตามชื่อของถนนที่วิ่งหายไป โดยภายหลังจากากรค้นหาไม่กี่วัน นอสเทรดถูกพบว่าซ่อนตัวอยู่ในส่วนหลังบ้านแห่งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าทีก็รีบนำเจ้าเหมียวไปตรวจไมโครชิพเพื่อเช็คดูว่าใครเป็นเจ้าของน้องที่ใจร้าย แต่ผลก็ไม่เป็นไปตามที่ได้คิดเพราะนอสเทรดเป็นแมวที่ไม่มีไมโครชิพ แต่ข่าวดีก็คือเจ้าเหมียวเองก็ยังมีสุขภาพที่แข็งแรงแถมยังเป็นแมวจิตใจดีและได้รับการดูแลจากทีมงาน Flatbush area for cats หรือ fat...

ถูกเขานำมาเทลงถังไว้เหมือนไม่มีใจด้วยไร้ชีวิต ตัวก็นิดกอดกันกลมระงมร้องหาผู้เป็นแม่

หากวันนี้ไม่มีกินไม่มีสุขแม้อิ่มท้องเมื่อตัวนอนไร้บ้านไร้ที่หลบอาศัย ด้วยเกิดเป็นจรทุกข์ยากร้อนจำทนไปลำบากใคร่เข้าใกล้ใครเขาก็รังแก เมื่อตัวแม่เป็นจรไร้ที่ให้ลูกได้ซุกหัวลำพังตัวต้องออกหาเลี้ยงชีวิตน้อยๆหลายชีวิตตาดำๆ จำให้ลูกอยู่กับลำพังถูกเขาเทใส่ถังเดินหาลูกไม่มีเจอ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เจ็ก บางปลา บารมีหลวงปู่แขก ได้โพสต์เรื่องราวเมื่อเขาได้พบเจอน้องตัวน้อยๆถูกเขานำมาเทไว้ใส่ถังขยะเหมือนด้วยไร้ชีวิตตัวก็นิดกอดกันไว้กลม ดิกด้วยตัวยังสั่นไหวร้องระงมหาแม่ให้ช่วยให้ตัวได้ปลอดภัย ไม่รู้ใจทำได้ใยทำไมทำได้ถึงลงคอ เมื่อเห็นแม่มาให้กำเนิดไว้ในบ้านเขาตัวคงเอามาเทไว้ให้สิ้นใจหนอ คนหนอคนใจร้ายทำได้ลงคอตัวน้อยหนอจะอยู่อย่างไรหากไม่มาได้พบเจอ พยายามส่งเสียงน้อยๆเรียกร้องหาแม่เมื่อตัวแพ้ถูกเขารังแกทำอย่างที่แม่เคยสอน กอดกันไว้ให้ความอบอุ่นแม้ตัวท้อแม่จ๋าหนอกลับมาช่วยพวกหนูให้รอดพ้นที ซึ่งผู้โพสต์ก็ได้เดินไปเห็นเลยเข้าช่วยเหลือเอาไว้ เพราะคนดูด้วยใจไม่ใช่ด้วยหน้าตาเขาคงกะจะให้ขยะเทลงไปทับให้สิ้นใจหนา บุญบาปว่าทำเช่นไรก็คงได้เช่นกัน ซึ่งตอนนี้น้องอยู่ที่วัดบางปลาจังหวัดสมุทรสาคร โดยหากเพื่อนๆอยากรับไปเลี้ยงต่อก็ติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์เลย ที่มา เจ็ก บางปลา บารมีหลวงปู่แขก https://www.facebook.com/100021810084110/videos/847123326024662/

หนุ่มกุมขมับหลังจัดทริปออกไปกลางเต็นท์ในป่า นอนกระดิกขากำลังหลับถูกงับจม

เพราะเมื่อเราได้เริ่มทำงานอย่างหนักหนวงหรือต้องเป็นพนักงานประจำทำออฟฟิศเลยไม่มีเวลาให้เราได้หยุดพักผ่อน และเมื่อได้หยุดพักผ่อนในวันหยุดยาวเราก็มักจะหาสถานที่ออกไปพักผ่อนเพื่อหลีกหนีจากเมื่อกรุงที่มีความแออัด และกิจกรรมยอดนิยมในช่วงนี้ก็คงจะเป็นการกลางเต็นท์ในป่าที่ได้บรรยากาศและรับลมชมวิวกับธรรมชาติแต่ทว่าหากเราเป็นทาสแมวแล้วไปที่ไหนก็มักจะพบเจอกับแมว เช่นเดียวกับหนุ่มคนนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tanin Sritawatpongsa ได้โพสต์เรื่องราวเมื่อเขาได้ไปกลางเต็นท์ในป่าณจุดกลางเต็นท์ที่มีนักท่องเทียวมาท่องเที่ยวรับกับธรรมชาติ แต่แล้วเมื่อเวลา 3 ทุ่มเขาได้หลับไปและต้องสะดุ้งตื่นตอน 5 ทุ่มครึ่งอย่างไวมาก เพราะเขารู้สึกเหมือนได้มีอะไรมางับที่นิ้วเท้าเลยได้เปิดไฟดู ปรากฏว่าเขาถูกงับจากสัตว์บางชนิดเข้าทะลุเข้ามาในเต็นท์ จึงได้ออกไปถามพี่ๆว่าได้เห็นตัวอะไรเข้ามาในเต็นท์ของเขาบ้างหรือป่าวเพราะเขาถูกงับ ซึ่งพี่ๆที่อยู่เต็นท์ข้างๆก็ได้บอกว่าเห็นแมวตัวสีดำเดินออกจากเต็นท์ของเขาไป ใช่แล้วเขาถูกเจ้าเหมียวมางับเข้าให้ทะลุเต็นท์ที่กำลังนอนหลับอย่างสบายโดยคิดว่าเขาคงจะนอนหลับและดันไปกระดิกเท้าไปมาเจ้าเหมียวจึงคิดว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆและงับเข้าให้อย่างเต็มเปา เขาเองจึงได้มาโพสต์ลงในกลุ่ม จุดกลางเต็นท์และสอนบทเรียนไว้ว่าอย่าได้นอนกระดิกขาเมื่อไปนอนกลางเต็นท์ดูธรรมชาติ ที่มา Tanin Sritawatpongsa

เปิดผลชันสูตรสาเหตุการสิ้นใจของเจ้าสัวล่าสุด หลังทราบว่าน้องสู้ยิบตาทำเจ้าของร้องไห้ไม่หยุดและยังทำใจไม่ได้

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 แฟนเพจเฟสบุ๊ก : มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ได้เผยเรื่องราวอัพเดทล่าสุดของน้องเจ้าสัวหลังน้องสิ้นใจอยู่ในป่า และนี่ก็คือผลชันสูตรสาเหตุการสิ้นใจของน้องเจ้าสัว ซึ่งทางเจ้าของเมื่อได้รู้ข่าวก็ยังทำใจไม่ได้และยังคงร้องไห้ไม่หยุด . โดยทางแฟนเพจได้โพสต์ระบุว่า เจ้าสัวถูกงูฟัดจนสิ้นใจครับ และมีดินโคลนที่เต็มช่องปากคาดว่าคงจะตะเกียกตะกายจนขาดใจ การจากไปของน้องเป็นเหตุผลตอกย้ำที่น้องเป็นแค่สัตว์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ได้แต่ใช้หลักฐานชิ้นส่วนของตัวเองเป็นหลักฐานและพยาน ให้มนุษย์อย่างเราประกอบข้อกล่าวหาด้วยการเทสัตว์ในสถานที่ที่ไม่มีสวัสดิภาพสัตว์ที่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้สัตว์ต้องพบเจอกับสิ่งต่างๆได้ แต่ที่ WDTเสียใจเป็นที่สุดก็คือการกระทำของคนในสังคมของเรา แค่ช่วยเหลือ…ให้แมวหลงทางตัวหนึ่งได้หลบซ่อนอยู่อย่างนั้น น้องก็จะไม่ต้องสิ้นใจแบบนี้ ทางเจ้าของน้องเจ้าสัวได้กล่าวว่า ผลชันสูตรออกแล้วค่ะ ตอนนี้ยังเสียใจและร้องไห้อยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสียใจจริงๆ บีมพูดไม่ออกเลย...

จากอดีตคนไม่รักไม่เคยชอบ วันนี้เงินคนแก่ออกตามว่าหายไปไหน

เพราะเพื่อนๆหลายคนที่อยากจะเลี้ยงแมวแต่ติดว่าทางบ้านไม่ชอบหรือไม่อยากให้เลี้ยง เพราะคนสูงอายุส่วนมากจำต้องผ่านการสูนเสียหรือจากลามา จึงไม่อยากจะสร้างความเจ็บปวดในจิตใจให้แก่ตัวเองจึงไม่อยากจะให้เลี้ยง หรือเป็นเพราะเหตุผลอื่นเช่นไม่ชอบขนแมวไม่ชอบแมวหรือบางรายก็เป็นภูมิแพ้จึงไม่อยากจะให้ลูกหรือหลานเลี้ยงเลย เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า กฤษณะ น้อยวงศ์ ได้โพสต์เรื่องราวเมื่อแม่ของเขาชอบมาบ่นให้เขาฟัง ด้วยเมื่อเงินคนแก่ที่ได้มาจากภาครัฐออกมาไม่เกิน 3 วันก็หมดและจะโทรมาบ่นให้ฟังอยู่ตลอด ซึ่งเขาก็พยายามถามแม่ว่าเงินหายไปไหนทำไมเงินที่ออกมาแม่ใช้ไปทีเดียวหมด และแม่ก็ได้บอกกับเขามาว่าก็ไอ้กัสมันกินเยอะ ไอ้กัสที่แม่พูดก็คือแมวด้วยจากก่อนหน้าเคยจะเอามาเลี้ยงแต่ก็โดนปฏิเสธมาตลอด และเมื่อได้เลี้ยงแล้วลองใกล้ชิดปล่อยให้อยู่กันลำพังสัมผัสก็เกิดหลงรักซื้อขนมซื้ออาหารให้กินจนอิ่มอ้วนเป็นแมวน่ารัก และยังมีป้อนขนมให้ดูว่าเงินหายไปไหน เขาจึงมาบอกไว้ว่าถ้านำมาเลี้ยงและเมื่อให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกันความผูกพันธุ์หรือความรักก็จะเกิดเมื่อได้เฝ้าดูพวกเขาเจริญเติบโตก็เหมือนกับลูกตัวน้อยที่ได้เรียนรู้จากผู้เป็นแม่อย่างเราเอง โดยหากบ้านไหนคนที่บ้านไม่ชอบก็ลองให้พวกเขาเปิดใจดู ที่มา กฤษณะ น้อยวงศ์

ขณะกู้ภัยแห่งหนึ่งจับแมวไปเทป่า แต่กู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ทุ่มเต็มตัวเพื่อให้รอดชีวิต

หากชีวิตได้มีความเมตตาต่อสัตว์เมื่อได้เติบโตมาด้วยกันหรือถูกเลี้ยงดูมากับพวกเขาด้วยยังเยาว์วัย ทำให้มีจิตใจเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกแม้เห็นยามเจ็บเล็กน้อยก็คอยช่วยเหลือ จึงได้มาทำงานด้านอาสาด้วยใจรักต่างจากเรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นเมื่อไม่นาน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า สยาม คิดตี้ โมเช่ จันทรสกุล ได้โพสต์เรื่องราวหลังกู้ภัยคนนึงได้พยายามลงไปช่วยเหลือน้องแมวที่ได้ติดอยู่ในโคลนโดยได้บะรุข้อความว่า ในขณะที่กู้ภัยแห่งหนึ่งจับแมวไปปล่อยไว้ในป่า แต่กู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ชลบุรีกลับทุ่มเต็มตัวเพื่อจะช่วยเหลือลูกแมวตัวน้อยตกลงไปในทะเลโคลน ด้วยบินโดนใช้เชือกโรยตัวคลานลงไปในโคลน เป็นเวลากว่า 30 นาทีทำให้เขาเกือบถอดใจหาเพราะหาน้องไม่เจอ ด้วยน้องแมวกับโคลนเป็นสีคล้ายกัน พอดีเห็นลูกตาของน้องเป็นสีเหลือในระยะหลายเมตร เลยช่วยชีวิตเอาไว้ได้เมื่อเช้าวันนี้เวลา 09.00น. ซึ่งก็ขอชื่นชมและขอบคุณที่ได้ทำหน้าที่ได้อย่างดีงาน และขอให้หน่วยกู้ภัยมังกรชลบุรีเจริญขึ้นๆไป เพราะจากเรื่องเมื่อได้เกิดขึ้นทำให้คนไทยหลายคนเข้าใจกู้ภัยและมองกู้ภัยในแง่ลบ แต่เมื่อพี่กู้ภัยคนนี้ได้เข้าช่วยเหลือน้องด้วยความเต็มใจเราจึงได้เห็นว่ากู้ภัยหรืออาสาสมัครเองก็ยังมีความมีน้ำใจและเต็มใจที่จะช่วยเหลือทุกชีวิตบนโลกให้ปลอดภัย ที่มา สยาม คิดตี้ โมเช่ จันทรสกุล

ชอบมานั่งบนรั้วบ้านมานั่งดูกว่าเจ้าบ้านจะกินหมด เหลือค่อยลงมากินต่อเมื่อตัวไร้บ้านให้อยู่

หากยามชีวิตด้วยไร้ที่ให้หมายตัวจำต้องวายดิ้นรนหาประทังหิว ยามเมื่อเกิดมาไร้ใครเขาให้กินเทียวต้องหาเลี้ยงเดินเร่ไร้จุดหมาย เดินมาเห็นเข้ามีบ้านมีคนให้อาหารได้อบอุ่นตัวก็อุ่นเฝ้านั่งรอให้ไม่คอยหายรอเขากินข้าวเหลือจำทุกข์คลาย เหลือเพียงไหนขอกินต่อให้ประทังพอ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Oat Pakkawat ได้โพสต์เรื่องราวเมื่อเขาได้พบน้องชอบมานั่งบนรั้วของบ้านตัว มานั่งมองเฝ้าดูทุกวันว่าเจ้านายบ้านฉันกินข้าวหมดหรือยัง ทางฝั่งของเจ้าบ้านก็ชอบจะกินเหลือตลอด พอกินเสร็จจึงจะยอมลงมากินต่อวันไหนกินหมดไม่เหลือก็จะไม่ลงมากิน ต้องเทไว้ให้แล้วจะลงมากินตอนคนไม่อยู่ ด้วยตัวที่ไร้บ้านจึงไม่มีใครเขาให้ข้าวให้ได้อิ่มท้องจึงต้องอดทนรอเขากินข้าวมให้อิ่มพอตัวจึงได้กินที่เหลืออยู่ ด้วยเป็นจรจึงไร้ไม่ไว้ใจใครเขาเข้าใกล้ก็ไม่ได้เดินหนีเพราะกลัวจะถูกทำร้าย จับไม่ได้เลยดูทำหน้าก็เห็นใจเลยแอบให้อาหารได้พออิ่ม เข้าใกล้ได้มากก็แค่รั้วด้วยตัวชอบมานอน ซึ่งทางฝั่งเจ้าของบ้านเองก็มีน้ำใจเห็นมานั่งรอกินทีไรก็เหลือเอาไว้ให้กินตลอด ด้วยน้องทางเจ้าบ้านเป็งก็เป็นแมวผู้หญิงและตัวน้องได้มาหาก็เป็นผู้ชายคงจะมาตามจีบสาวบ้านนี้อยู่ จึงอยากจะให้เห็นใจเมื่อได้พบเจอแมวจรหากไม่รักไม่ชอบก็อย่าไปไล่หรือทำอะไรพวกเขาเลยแค่ข้าวหนึ่งมื้อให้ได้อิ่มก็หายากมากจึงไม่รู้ว่าอีกกี่วันจะได้กินอิ่มท้อง ที่มา Oat Pakkawat