โซเชียลฮาตรึมหลังทาสติดป้ายตามหาน้องแมว แต่พอเจอตัวแล้วฮาหนักกว่าเดิม

เพราะเราเลี้ยงดูยามห่างหายหน้าก็จะเป็นห่วงเป็นใยเขา ด้วยเลี้ยงเขาเหมือนกับลูกกับหลานใจคนเป็นพ่อแม่ก็เป็นห่วงและเฝ้าตามแม้ไร้รูปยังวาดมาติดป้ายตามหา แต่คนเห็นป้ายเขาก็ตลกและหัวเราะให้เพราะน้องหน้าตาไม่พอใจหรือคนวาดไม่สวยเอง เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า กุ้ง อิสรียา ได้โพสต์เรื่องราวเจ้าของแมวมิ้วในต่างประเทศหลังได้ประกาศตามหาน้องแมวหาย แต่เป็นการวาดรูปด้วยคงเพราะไม่ได้มีรูปถ่ายหรือมีรูปน้องเอาไว้เลย เจ้าตัวเลยต้องวาดและมาติดป้ายตามหาน้องแมวแทน แต่เมื่อใครมาเห็นรูปวาดที่ผู้เป็นเจ้าของได้ติดป้ายตามหาแล้วเขาก็หัวเราะ เพราะหน้าตาน้องคงจะไม่เหมือนกับในรูปวาดเลยแม้แต่น้อย แม้คนเดินผ่านมาเห็นป้ายเขาก็ยังตลกใส่แต่พอน้องกลับมาแล้วเขาเลยถ่ายคลิปเอาไว้และมันก็ตลกหนักกว่าเก่า เพราะหน้าตาของน้องแมวของเขา เหมือนกับในรูปมากด้วยสีหน้าและท่าทางแม้แต่ความไม่พอใจตอนเจอเจ้าของแล้วเรียกได้ว่าถอดออกมาเหมือนกับในรูปวาดเลย ซึ่งผู้โพสต์เลยเอามาลงในคลิปฮาฮาน้องหมาน้องแมวและบอกว่าเจ้าของตามหาน้องแมววาดรูปน้องได้เหมือนมากๆ ก็เรียกความน่ารักและความฮาได้เป็นอย่างดี แม้แต่การที่เราจะให้พวกเขาออกมาเดินเล่นบ้างให้แก้เบื่อแต่เราก็ควรจะอยู่ดูแลความปลอดภัยของพวกเขาให้ดีและพยายามหาทางไม่ให้พวกเขาหลุดหรือหนีออกมาด้วยตัวเองจะดีมาก เพราะภัยจากโลกกว้างมันเยอะมากกว่าเราคิดไว้ ที่มา กุ้ง อิสรียา

หายออกจากบ้านไปแรมปีไม่เห็นหน้า วันนี้เขาพากลับมายังจำแม่ได้น้ำตาไหล

แม้ทุกครั้งที่เราบอกอยากจะให้เลี้ยงดูแลเขาเอาไว้ในบ้าน เพราะตอนหายไม่เห็นหน้าคนที่เสียใจมากก็คือเราคนเป็นพ่อแม่ซึ่งเลี้ยงดูเขามา เลยอยากจะให้รักษาและเลี้ยงดูให้เขาอยู่ในสายตาไม่คาดไป เพราะยามหายไปหัวอกคนเลี้ยงก็จะคิดถึงมาตลอดแม้จะหายไปแรมปีก็ยังไม่มีวันลืม เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ลูกตูน น้องตาล ได้โฑสต์เรื่องราวหลังได้น้องแมวกลับมา 1 ตัวแล้วจากกันไป 1 ปีเจ้าคาเฟ(ชื่อของน้องแมว)เหลือแต่เจ้าคาฟิวเมื่อไหร่จะได้คืนจากกันไป 1 ปีเขายังจำเราได้ด้วยดีใจมากจนน้ำตาแม่ไหลออกมาเลย เพราะเลี้ยงดูเขามาแต่ยังเล็กๆ และที่น้องหายไปน้องมุดออกไปใต้ตึกแล้วเป็นเวลาตอนเธอติดโควิทเลยไม่สามารถจะออกไปตามหาน้องได้ น้องเลยไปอาศัยอยู่อีกซอยเขาก็เลี้ยงดูน้องเอาไว้เป็นอย่างดี ก็เลยโชคดีเพราะได้น้องกลับมาบ้านอย่างปลอดภัยแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้แมวกลับคืนมา เพราะบางคนหายแล้วก็เหมือนเป็นการบอกลาไปตลอดกาลเลยก็มี เพราะน้องแมวหรือสุนัขเองก็เหมือนกับเด็กยามเขาออกมานอกบ้านแล้วไม่รู้จักหรือแผลกที่ก็จะไม่รู้ทางกลับบ้านหรือแม้แต่ภัยจากรถถนนแม้แต่คนใจร้ายก็มี ไหนจะหมาแมวจรอีกมากมาย ทางที่ดีเลี้ยงเอาไว้ในบ้านก็จะปลอดภัยกว่าแม้จะต้องแลกมาด้วยอิสระของพวกเขาแต่ถ้าเราปล่อยพวกเขาเป็นเวลาและให้อยู่ในสายตาก็พวกเขาก็คงจะพอใจและปลอดภัยกว่าที่เราจะให้พวกเขาออกไปอย่างอิสระเลย แม้จะมีการเถียงกันเรื่องของการเลี้ยงแมวแบบปล่อยแต่ถ้าคุณคิดว่าปล่อยออกไปแล้วเขาสิ้นใจมันคุ้มก็เอาเลย ที่มา ลูกตูน น้องตาล

เหลือไว้แค่ความทรงจำกับภาระอันใหญ่หลวง แม้จะลำบากหรือต้องอดก็จะสู้ไปด้วยสุดกำลังที่มี

ยามเคยอยู่ร่วมกันมีทุกข์และสุขแม้อดทุกข์เฝ้าทนมาใจยังหาย ต้องลาแล้วจากไปไม่มีวันกลับกลายแม้ใจหายยังอดทนสู้ตลอดมา ก่อนเป็นคนเก็บมาเลี้ยงเพราะสงสาร 14 สิงหาเขาจากไปแล้วเหลือแต่ความหลังเลยต้องตกเป็นภาระมาที่ตัวหนักก่อนเคยได้เบี้ยพิการมายังพอซื้ออาหารประทังให้เขาอิ่ม เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า อตินาถ เชิดชู ได้โพสต์เรื่องราวมาขออาหารให้กับน้องแมว เพราะจากแฟนเป็นคนเก็บน้องแมวมาเลี้ยงเพราะสงสารแต่เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมเขาได้เสียชีวิตลงภาระทั้งหมดเลยตกมาที่เธอ เมื่อก่อนยังพอมีเงินคนพิการของแฟนพอจะได้ซื้ออาหาร แต่พอเขาเสียเงินคนพิการก็เลยไม่ได้อีกแล้ว เธอเองก็เป็นโรคร่างกายอ่อนแรงทำงานไม่ได้เหมือนเดิมแล้วและก็ไม่ได้เงินคนพิการ เพราะเธอช่วยเหลือตัวเองได้โรงพยาบาลเขาก็ไม่ออกบัตรคนพิการให้ต้องรับภาระ ดูแลแมว 32 ตัวที่แฟนเลี้ยงเอาไว้ตอนนี้เลยขาดแคลนอาหารให้น้องได้อิ่มท้อง เลยอยากจะได้อาหารเม็ดให้กับน้องไม่ได้อยากจะมาขอเงินหรือขอทุนอะไรเลย ขอแค่ความเมตตาใจช่วยให้น้องได้มีกินขออิ่มท้องสิ้นไม่ต้องอดยากและสู้ต่อ ขอให้เขาได้มีสุขมีลมหายใจไม่ต้องท้อตัวของแฟนจะได้มองไม่ต้องห่วงหนอจะเลี้ยงดูแลให้ดีเอง เลยเอามาโพสต์ลงไว้ในกลุ่มอยากขอให้ช่วยกันหาอาหารเพราะเลี้ยงไว้แล้วก็รักแม้ยากลำบากก็อดทนมานานก่อนจะมาโพสต์ลง แม้คนบนโลกออนไลน์ก็เข้ามาบอกอยากให้พาน้องไปทำหมันก่อนจะออกลูกออกหลานแม้จะมีแค่ 32 ตัวไม่นานคงจะเพิ่มเป็นร้อยตัว ที่มา อตินาถ เชิดชู

แม้ตัวเกิดมาน่ารักมีหางที่เป็นจุดเด่น แต่กลับไม่มีคนรักเพราะตนเป็นแค่จร

ยังมีอีกหลายๆชีวิตแม้ตัวเกิดมาจะน่ารักและมีจุดเด่นที่น่ามอง เราก็คิดว่าน้องหน้าตาแบบนี้สีขนไม่เหมือนใครแบบนี้จะมีคนรับเลี้ยงใช่มั้ยละ เพราะน้องยังต้องอาศัยในถิ่นที่เขาไม่ให้เลี้ยงแมว เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวดังกล่าวนี้แม้ตัวจะน่ารักแต่ก็ไม่ใช่ที่ต้องการของใครๆ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : เป้' ปีโป้ ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า หางน้องนั้นหายากกว่าใคร ตัวสีขาวทั้งตัวสีขนสะอาดสะอ้านแต่หางของน้องเป็นสีส้มลายสลิด น้องเป็นแมวที่ทำงานแม่เหมียวแกออกลูกแค่1ตัว เป็นแบบโทนๆเลย ที่ทำงานไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ครับ ผมเลยแอบเลี้ยงแอบเอาอาหารขนมมาให้น้องกิน ผมไม่สามารถเอามาเลี้ยงได้เองเนื่องจากผมอาศัยห้องพักที่ทำงานอยู่ มีใครจะรับไปเลี้ยงดูไหมครับ อยากให้น้องมีเจ้าของและบ้านที่ดีและรักน้องจริง แต่ที่สำคัญเลยคุณต้องพร้อมเลี้ยงดูนะ ขอความเมตตาเอ็นดูน้องด้วยครับผมอยากให้น้องมีบ้าน เพราะบ้านที่ต่างจังหวัดเองก็เลี้ยงไว้กว่า 9 ตัวแล้ว ไม่สามารถรับเพิ่มได้แล้วจริงๆ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์แต่เชื่อมั้ยว่าไม่มีคนรับน้องไปเลี้ยงเลย แม้ทางเจ้าของโพสต์จะพยายามแล้วก็ตาม จนผ่านไปหลายเดือนนักทางหนุ่มผู้โพสต์ลองโพสต์ดูอีกครั้ง ในที่สุดก็มีคนสนใจหวังจะรับน้องเอาไปเลี้ยงเอาไปดูแลแล้วจริงๆ...

แม่แมวพึ่งให้กำเนิดลูกต้องมานอนตากฝนเพียงลำพัง กับสภาพที่ใครเห็นต่างคิดว่าสิ้นใจไปแล้ว

คนเขาชอบเรียกตัวเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ แต่ลืมไปเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั่นมันจะส่งผลต่อ 1 ชีวิตให้ต้องทนอยู่อย่างนี้ โดยเรื่องราวดังกล่าวเป็นเรื่องราวของแม่แมวจรที่พึ่งให้กำเนิดลูก แต่ต้องมานอนซมใกล้สิ้นลมเพราะน้ำมือของมนุษย์อย่างเราๆ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Chezzcake Kuttalee ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มคน ช่วยเหลือสุนัขและแมวพร้อมระบุข้อความเอาไว้ว่า ไปเจอน้องแมวนอนตากฝนใกล้สิ้นลม หายใจเริ่มแผ่วมากไม่รู้จะสิ้นลมตอนไหน หมอสรุปว่าไตวายเฉียบพลัน เนื่องจากอุณภูมิและความดันต่ำมาก ตามตัวมีร่องรอยคาดว่าถูกคนเขากระทำมา เรารีบพาน้องไปโรงพยาบาลและแอดมิด ค่าใช้จ่ายเราได้ชำระไปแล้วทั้งสิ้น 4,813 บาท แต่ยังคงต้องรักษาต่อเพราะน้องยังคงเดินไปไหนมาไหนไม่ได้และมีภาวะไตวาย เรารับมาดูแลต่อที่บ้านแล้ว แต่ยังคงต้องพาไปให้น้ำเกลือต่ออีก 7 วัน (น้องแกเป็นแม่แมวเพิ่งให้กำเนิดมาค่ะ...

ระหว่างทางลงจากเขาใหญ่แว็บแรกยังไม่แน่ใจ จอดลงไปไม่ห่วงแม้เป็นภัยกับตัว

แม้คุณค่าในชีวิตคนเราจะเห็นไม่เหมือนกันบางคนเห็นหนึ่งชีวิตเหมือนกันและมีค่ามาก ยอมแม้จะจอดลงไปช่วยตัวเป็นภัยไปนานา แม้เสียเวลายังยอมขอให้รอดพ้นมีลมหายใจ ระหว่างทางลงมาจากเขาใหญ่เห็นแว้บแรกไม่แน่ใจว่าตัวอะไรแน่ แต่ก็เหมือนแมวมากเขาเลยต้องหลบเอาไว้ก่อน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Torsak Jinda ได้โพสต์เรื่องราวเจอบนถนนมิตรภาพทางลงมาจากเขาใหญ่ เห็นแว้บแรกก็ไม่แน่ใจว่าตัวอะไรแต่ก็เหมือนแมวมากเขาเลยหลบเอาไว้ก่อน แต่รถคันหลังตามมาเขาคงไม่เห็น เพราะตามหลังมาเลยเฉี่ยวซ้ำตัวปลิวเหมือนกระดาษก็ยังไม่แน่ใจ เลยจอดแล้ววิ่งมาดูลูกแมวนี่หว่าจะรอดมั้ยไม่รู้เหมือนกัน เหมือนขาจะหักสองข้างเพราะตอนอุ้มขึ้นมาขาก็ห้อยต่องแต่ง 50/50 เพราะหายใจแผ่วเบามากแล้วก็นิ่งไปเป็นระยะตอนพามาโรงพยาบาล ตอนนี้เลยเอาไปฝากไว้ที่รพสในปากช่องพอดีต้องเข้าไปทำงานในกทม พรุ่งนี้จะไปเยี่ยมถ้ายังรอดชีวิตแต่ถ้าไม่รอดก็จะไปรับมาฝังเอง ไม่มีรอยใดๆมีแต่รอยถลอกตรงหัวกับขาห้อยต่องแต่งเหมือนจะตกลงมาจากรถมากกว่า จะวิ่งออกมาแล้วถูกชนเพราะถ้าถูกชนคงมีอะไรเยอะมากกว่านี้ ถ้ารอดนี่ดวงแช็งมากเลยเจ้าเหมียวเพราะรถตามมาเฉี่ยวขาวเฉี่ยวซ้ายเลย ซึ่งผู้โพสต์ก็มาอัพเดทว่าได้คุยกับทางคุณหมอล่าสุดเมื่อคืนคือน้องแมวเริ่มจะกินข้าวกินน้ำได้บ้างนิดหน่อยแล้ว แต่มีแผลใหญ่ๆตรงหัวแต่เป็นแค่แผลถลอกไม่ลึกเข้าไป แต่ก็ต้องดูแลเรื่องของการติดเชื้อกับตาบวมอยู่และเขาก็ไม่สามารถจะเข้าไปเยี่ยมน้องได้เพราะโควิทเลยต้องรอดูอาการผ่านกับทางคุณหมอ ที่มา Torsak Jinda

เกิดเป็นจรไร้ทางเลือกนัก ต้องนอนซมไม่กล้าขยับ ได้แต่ร้องโอดครวญไร้ความหวังว่าจะมีชีวิต

ในแต่ละวันมีแมวที่ต้องหมดลมหายใจลงเพราะไม่มีคนช่วยชีวิต เพราะน้องๆเหล่านี้ไม่มีปากเสียงจะไปบอกใครเขาได้ และด้วยชีวิตเพียงลำพังนี้เองน้องทำได้เพียงทำใจและนอนลงนิ่งๆเพื่อให้ตนหมดทุกข์จากโลกใบนี้เสียที เพราะไม่มีใครอยากเกิดมาต้องลำบากมากมายขนาดนี้ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : คุณแม่ เลี้ยงเดี่ยว ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มคน ช่วยเหลือสุนัขและแมว อันมีใจความระบุว่า น้องเป็นแมวจรเดินคลานมาขอความช่วยเหลือ ตอนนี้น้องร้องเจ็บตลอดเวลา เหมือนกับว่าน้องจะไม่ไหวแล้ว ตรงที่เท้าหน้ามีร่องรอยขนาดใหญ่มาก อยากขอความเมตตาพี่ๆและเพื่อนๆในเฟสบุ๊ก เพราะตัวเธอไม่มีกำลังพอที่จะช่วย ถ้ามีคนช่วยน้องทางเรายินดีจะพาน้องไปหาหมอให้ และให้หมอประเมินค่ารักษาให้ก่อนคะ แต่ทางผู้โพสต์ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้วจนกระทั่ง... ทางสาวทาสแมวคนดังกล่าวได้มาอัปเดตเพิ่มเติมอีกว่าตอนนี้น้องหมดลมหายใจไปตรงหน้าแล้ว เพราะด้วยตัวน้องเองก็ยื้อชีวิตเอาไว้ไม่ไหว และก่อนหน้านี้ที่เธอจะพบเจอน้องไม่รู้ว่าน้องตนทนอยู่อย่างนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เสียใจด้วยนะลูกเอ้ย หนูหมดทุกข์กลับดาวแมวแล้ว ที่มา คุณแม่ เลี้ยงเดี่ยว

ความน่ารักของน้องแมวมิ้ว ที่กลัวน้องหิวเลยชอบเอาตุ๊กตามากินข้าวด้วย

เพราะแม้แต่น้องแมวเองก็จะมีความเป็นเด็กอยู่ในตัว ด้วยยามเราเป็นเด็กเราก็จะมีเพื่อนในจิตนาการเป็นน้องตุ๊กตาที่เราจะชอบติดหรือแม้แต่บางคนเองก็จะชอบติดหมอนหรือผ้าห่ม ซึ่งความเป็นเด็กของน้องเลยเป็นเรื่องราวทำให้ทาสแมวอดยิ้มไม่ได้เลย เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ae Wichienkur ได้โพสต์เรื่องราวน้องแมวมิ้วของเธอที่ชอบเอาตุ๊กตาหนูไปใส่เอาไว้ในชามข้าวของตัวเอง เพราะกลัวว่าน้องตุ๊กตาจะหิวข้าวและน้องแมวก็มีเพื่อนเป็นน้องหนูอยู่ตัวเดียว เลยทำให้น้องติดตุ๊กตามากผู้เป็นทาสเลยเอามาโพสต์ลงทาสแมว4.0 แม้แต่เวลาน้องจะกินข้าวน้องก็จะคอยหอบตุ๊กตาไปกินข้าวด้วยน้องตุ๊กตาจะได้ไม่หิวข้าวและมีแรงเล่นกับน้อง หรือจะเรียกว่าตุ๊กตาเป็นเพื่อนในจิตนาการของน้องก็ได้ ซึ่งก็มีคนเข้ามาบอกว่าน้องน่าจะเหงาเพราะไม่มีเพื่อนเล่นด้วยเลยอยากจะให้ทาสหาแมวมาอยู่เป็นเพื่อนน้อง น้องแมวจะได้ไม่ต้องเหงาและไม่ต้องคอบหอบตุ๊กตามากินข้าวด้วย เพราะแม้แต่น้องแมวยามคนเป็นทาสหรือเวลาทาสต้องออกไปทำงานน้องก็จะต้องอาศัยอยู่ในบ้านแค่ลำพังเลยทำให้ไม่มีเพื่อนเล่น แม้เราจะพยายามเล่นกับเขาแต่เวลาตอนเขาต้องอยู่ลำพังแล้วก็คงจะอดเหงาไม่ได้หรอก ทางแก้ที่ดีก็คงจะเป็นการหาเพื่อนมาให้หรือมีเวลาให้คอยอยู่เป็นเพื่อนมากขึ้นจะได้ทำให้เขาไม่เหงาและไม่เครียดด้วยหรือแม้แต่อารมณ์ของพวกเขาก็เป็นอะไรซึ่งอ่อนโยนและเกิดความเตรียดได้ง่ายมากๆ ถ้าคิดจะเลี้ยงและรักอยากให้เขาอยู่กับเราไปนานๆก็ต้องคอยดูแลใส่ใจกันไปนะ ที่มา Ae Wichienkur

สาวกุมขมับหลังลูกหายไปแรมวันเฝ้าร้องไห้ตามหา พลบค่ำเดินกลับมาเช็งหนักเหมือนไม่อยากกลับติดที่หิวข้าว

เพราะความเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่เลยไม่ค่อยจะสนใจใครเขา ยามอยากจะออกเข้าก็ทำตามแต่ใจของตัวเองคนเป็นแม่หรือคนเลี้ยงดูเลยต้องตามหาเอง แม้หายออกจากบ้านเองไปแรมวันแม่กับทาสน้อยก็ร้องหายเฝ้าตามหาพลบค่ำลูกเดินกลับมาทำหน้าเช็งมากเหมือนไม่อยากจะกลับบ้านแต่ติดที่หิวเลยต้องเดินกลับมาเอง เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า มนัสษา แสงอาวุธ ได้โพสต์เรื่องราววันก่อนเธอได้โพสต์หาน้องแมวส้มเพศผู้และตอนนี้ก็พบเจอน้องแล้ว ขอบคุณทุกคนที่ช่วยตามหาน้องทาสเด็กเองก็ดีใจมากแต่สภาพของน้องซึ่งกลับมาไม่ดีเลย และลูกยังทำหน้าเหมือนไม่พอใจที่ตัวเองต้องเดินกลับมา เพราะตัวหากินเองไม่เป็นเลยไปติดสาวคงเป็นอู่ซ่อมรถแล้วไกลจากบ้านน่าดูเลย น้องเลยกลับมาด้วยสภาพมอมแมมและไร้เรี่ยวแรงด้วยความหิวแม้แม่จะโล่งอกแต่คงต้องถูกพาไปทำหมัน เพราะรอบที่แล้วก็กลับมาขาหักไปข้างเลยคงจะเอาไว้ไม่ได้แล้ว แม้ตัวจะไม่พอใจแม่เพราะหากินเองไม่เป็นและหิวข้าวเลยต้องเดินกลับมาบ้านแม้จะไกลมาก แต่ก็ยังกลับบ้านมาถูกทางเลยต้องพาไปอาบน้ำสภาพเลยดูดีขึ้นมาบ้าง เพราะเราเลี้ยงดูแลเขามาตลอดและคอยให้ข้าวให้น้ำมายามออกไปนอกบ้านและหนีหายเลยหากินเองไม่ได้ แม้จะกลับมาปลอดภัยแล้วก็อย่าได้ไว้วางใจไปน้องอาจจะหนีไปได้และอาจจะไม่กลับมาเลยเราเองก็จะเสียใจเอง ทางที่ดีก็อยากจะให้เลี้ยงเอาไว้ในบ้านไม่ต้องปล่อยออกหรือจะให้ออกก็ควรจะอยู่ในความดูแลหรือสายตาของคนเป็นทาสหรือคนเลี้ยงดู ที่มา มนัสษา แสงอาวุธ

ต้องหลบแอบกินจำอาศัยใต้บันไดของคอนโด ตัวก็โตหนัก 7 โลยามเจอคงถูกเขาไล่

ยามชีวิตเกิดมาต้องหลบแอบอาศัยแอบจำอาศัยในป่ารกยามหิวข้าวก็ออกมาหากินค่อยให้ระหก แม่ต้องแอบหกให้เข้ากินใต้บันไดของคอนโด แต่ถ้าพี่รปภเจอคงถูกเขาไล่เลยอยากจะหาบ้านให้แม้ตัวหนักเจ็ดโลคงเคยจะมีบ้านอยู่ เลยอยากขอบ้านขออาศัยให้เฝ้าดูไม่ต้องอยู่เดินเร่ตัวระหกไป เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Araya Homhom ได้โพสต์เรื่องราวขอหาบ้านให้กับน้องหน้าตาน่ารักให้อุ้มเป็นบางคนอ้อนมากขอบ้านให้ได้อยู่อาศัยขอแค่หลบแดดหลบฝนเฝ้าทนไป ก่อนเคยจำอาศัยนอนในป่ารกทุกข์ทนยุงตอม ยามหิวข้าวก็ออกมากินอาหารกับแม่ แม่กฏ็แอบเอาให้ใต้บันไดของคอนโดเขา แต่ถ้ายามเจอหรือพี่รปภเจอเข้าคงจะไล่เขาด้วยเห็นไร้เป็นจรมา เลยอยากจะหาบ้านให้กทม.บางนาจะไปส่งให้มาถึงบ้านเลย ซึ่งหลังจากเธอโพสต์หาบ้านให้กับน้องเธอก็พาน้องไปตรวจร่างกายและทำหมันให้แล้ว แต่คุณหมอก็บอกว่าน้องเป็นลิวคีเมียแต่ทุกอย่างก็สมบูรณ์ดีไปหมดเพราะน้ำหนักน้องถึง 7 กิโลได้ เลยอยากจะขอบ้านอบอุ่นให้ได้อาศัยอยู่จนสิ้นอายุไข เมตตาใจขอบ้านให้คอยหลับนอนด้วยชีวิตต้องทนอยู่เป็นจรนอนตากยุงหามนอนในป่ารกบ้างอาศัยใต้ท้องรถเขาหลับ ยามฝนตกต้องคอยหลับฝนทนแดดมาหวังมีบ้านอยู่และรักสุดท้ายไม่ต้องหอบระหกเดินเร่เป็นจรไป ก่อนคงเคยมีบ้านมีคนให้ใจไม่ต้องออกหายามเขาย้ายไปหรือตัวคงพลัดหลงมาเลยต้องหาข้าวหาประทังหิวให้พ้นวัน แม้เธอเองก็ทำให้ได้แค่ให้ข้าวเห็นเขาก็อยากจะเลี้ยงแต่เลี้ยงไม่ได้ ที่มา Araya Homhom