เคยอยู่ร่วมกันมา 10 กว่าปีวันนี้จำจากลาแล้ว โอ๋ดวงแก้วขอทำให้เป็นครั้งสุดท้ายแม้เหลือไว้เพียงความทรงจำ

เพราะความรักของคนที่เลี้ยงมาดูแลเหมือนกับลูก คนที่ไม่เคยเลี้ยงหรือไม่เคยได้ใกล้ก็คงจะไม่เข้าใจพวกเขา เพราะหนึ่งชีวิตที่เลี้ยงดูแลมาเหมือนกับคนในครอบครัวก็รักไม่เคยเบา วันหนึ่งจำต้องจากเขาไม่มีหวนกลับตลอดการ เลยต ั้งใจขอทำให้ลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากหายแม้ไม่มีวันได้กลับหรือหวนคืน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า จรัญ ฮอฟ์พ ได้โพสต์เรื่องราวของน้องมิ้ว อิสเบสล่า หลังเขาได้เสียน้องแมวที่ตัวเองรักมากที่สุดไปแม้รักมากเหมือนกับคนในครอบครัวเพราะเคยอยู่ร่วมใช้ทุกช ่วงของชีวิตร่วมกันมากว่า 10 กว่าปีมาวันนี้ลูกรักของเขาได้จากไปแล้วอย่างสงบ ซึ่งเขาก็ใจหายมากๆเพราะเคยอยู่ร่วมกันมาตลอดพอกลับบ้านก็ยังเห็นตลอดมาวันนี้กลับไปแล้วจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว เขาเลยต ั้งใจทำให้ลูกด้วยการจ ัดงานให้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะต้องใจสลายเพราะต้องนำน้องไปฝ ั่งและจะไม่ได้กลับหรือเห็นหน้ากันอีกแล้ว แม้ใครจะมองว่าน้องเป็นแค่น้องแมวแต่เขาก็รักน้องมากๆเหมือนกับลูกของตัวเองคนหนึ่งเลย ซึ่งเรื่องราวนี้เขาได้นำมาโพสต์ลงในกลุ่มชมรมคนรักแมวเหมียว และเมื่อคนที่เลี้ยงแมวได้เข้ามาเห็นก็ทำให้สะอึกไปเหมือนกันหมด เพราะเป็นช ่วงเวลาที่แสนจะเศร้าใจ คนเลี้ยงแมวเองเลยจะเข้าใจว่าการส ั่งเสียหรือการจากลาครั้งสุดท้ายมันช ่างเป็นช่วงเวลาที่แสนจะเจ็บปวด...

ถูกทิ้งซ้ำซ้อนร้องจนเสียงแหบเสียงแห้ง ได้แต่แอบอยู่ใต้ท้องรถทั้งร้อนทั้งว้าเหว่เพราะใครๆเขาก็ไม่ต้องการ

เพราะชีวิตนั้นเลือกเกิดไม่ได้ ทำให้หลายๆคนนั้นต้องเกิดมาดิ้นรนต่อความยากลำบากที่ต้องเจอในชีวิต และก็ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์อย่างเราๆเพียงเท่านั้น แม้แต่สัตว์ตัวน้อยๆอย่างเจ้าเหมียวเองก็ไม่ต่างกัน ยิ่งแล้วเกิดมาไร้บ้านหรือไม่เป็นที่ต้องการของใครๆเขา เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pinta SP ที่ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ ลงในกลุ่มคนอวดแมว หลังจากที่ได้พบน้องถูกเอามาปล่อยที่หน้าโรงเรียน และร้านโจ๊กที่หน้าโรงเรียนก็รับไปเลี้ยงภายในวันเดียวกันนั้น แต่ก็กลับเอามาปล่อยไว้ที่เดิม คุณครูที่โรงเรียนเห็นเข้าจึงได้จับน้องขังเอาไว้กะว่าจะเอาไปให้หลวงตาช่วยเหลือ แต่ก็มีคนเอาไปอาบน้ำให้ข้าวกินร้านโจ็กมาดูรอบ 2 เอาไปเลี้ยงแต่ก็เอาไปปล่อยที่เดิมอีก หนูร้องจนเสียงแหบเสียงแห้งอยู่ใต้ท้องรถคุณลุงคนนี้ ทั้งร้อนและหวาดกลัว จนกระทั่งคุณลุงออกรถไปตลาด 30 กิโลเมตร หนูทั้งเหนื่อยและกลัวจนตัวสั่น เพราะ 5 วัน 5...

เห็นจำเร่ระหกคิดว่าเป็นเรื้อน พาไปหาหมอให้ช่วยรักษาหมอบอกค่าตัว 5 หลักพันธุ์ผสม

เพราะสภาพชีวิตของการได้เกิดมาเป็นจรพวกเขาต้องจำระหกตัวต้องคอยหลบแม้หนีหมาหนีคนไร้จุดหมาย แม้ชีวิตช้ำเกิดมาแล้วไม่เหมือนเขาต้องทนอยู่กับความกลัวของคนเขา เพราะเขามองว่าไม่ปกติเหมือนแมวทั่วไป แม้คนเห็นก็ไล่หรือผลักไสเพราะเป็นเหมือนโรคเรื้อน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nara Seesanit ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้ามิ้วตัวหนึ่งหลังเธอได้ไปเจอในสภาพแมวจรต้องเร่หาเพราะความหิวและความเจ็บที่ตัวเองได้มีมา เลยมานั่งหานั่งเศร้าใจด้วยความทุกข์ทนเพราะเขาเกิดมาสภาพไม่เหมือนแมวปกตินัก เลยไร้คนรักใครเขาเห็นก็ไล่ให้พ้นตัว แต่เธอก็เห็นแล้วเกิดความสงสารน้องมากเลยเก็บมาเฝ้ารักษาและวันต่อมาก็พาน้องไปหาหมอ แต่คุณหมอก็บอกกับเธอว่าน้องไม่ได้เป็นโรคเรื้อนแต่อย่างใดแต่น้องเป็นแมวพันธุ์ผสมแมวพันธุ์สฟิงซ์และน่าจะเป็นลูกเสี้ยว เลยทำให้น้องมีขนนิดเดียวเหมือนกับไม่มีและเป็นโรค เธอก็มาอัพเดทว่า ดณ วิภา แมวจรรพ.วิภาวันนี้ได้พาน้องไปอาบน้ำแล้วเอาไปรพ.น้องไม่ได้เป็นอะไรตามที่ทุกคนสันนิษฐาน น้องไม่ได้เป็นแม้แต่เชื่อราและโรคผิวหนังไม่ได้เป็นเรื้อน แต่น้องมีขนแต่ขนของเขาสั้นมาก ขนของเขาติดกับตัวเลยมองว่าเหมือนไม่มีน้องแข็งแรงดีกินข้าวนอนหลับได้ปกติไม่ร้องแล้วน้องติดเสี้ยวแมวไม่มีขนมานิดนึงหนังน้องเลยเหี่ยวตอนนี้ก็สะอาดหมดจดแล้ว น้องไม่ได้แก่ด้วยส่วนตรงจมูกหน้องเป็นรอยแมลงงับนิดหน่อยแล้วก็เริ่มจะหายดี และเธอก็จะรับน้องเอาไว้ดูแลเองจนหายดีและเลี้ยงเขาแม้ว่าเขาจะเป็นพันธุ์ไหนก็ตาม ที่มา Nara Seesanit

คอยมองไม่คลาดสายตา คอยอยู่เคียงข้างเมื่อเธอเจ็บ แมวคลีนิคคอยเฝ้ามองดูลูกค้าไม่ห่างด้วยความเป็นห่วง

เพราะด้วยความห่วงใยนั้นไม่ได้มีเฉพาะกับคนอย่างเราๆเท่านั้น ทีหัวใจจะมีความเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกได้ เพราะแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นๆเองเช่นสุนัขหรือแมวแล้วพวกเขาก็มีหัวใจที่เห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลกไม่แพ้กับมนุษย์เลยแม้แต่น้อย เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ที่มีชื่อว่า พี่เหลือง ซึ่งเป็นแมวประจำคลีนิคแห่งหนึ่งที่ทางคุณหมอได้เลี้ยงเอาไว้ ซึ่งพี่เหลืองก็มักจะคอยสอดส่องดูแลช่วยเหลือสัตว์ที่เข้ามาใช้บริการที่คลีนิคอยู่เป็นประจำ เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้ที่คุณหมอนั้นมีเคสทำหมันสาวน้อยรายนี้ ซึ่งทางพี่เหลืองเองก็คอยสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิดว่าขาดเหลืออะไรบ้างหรือป่าว เพราะด้วยว่าน้องเป็นแมวตัวเมียซึ่งพี่เหลืองเองก็อาจจะถูกตาต้องใจกับน้องจึงได้มาเฝ้าดูอย่างไม่คลาดสายตาเลยทีเดียว แต่ก็คงจะได้แค่เฝ้ามองเพียงเท่านั้นเพราะตัวพี่เหลืองก็ถูกคุณหมอจับทำหมันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในความจริงแล้วพี่เหลืองก็ยังเฝ้าดูเพื่อนๆตัวอื่นๆที่มาใช้บริการอีกด้วย ไม่ใช่แค่เจ้าเหมียวตัวนี้ และเอาจริงๆพี่เหลือก็ถือเป็นตัวเรียกลูกค้าชั้นดีให้กับคุณหมอเลยแหละ เพราะพี่เหลืองทั้งน่ารักและดูสะอาดตามากๆแต่ในบางทีก็มีตัวเลอะบ้างเพราะพี่เหลืองชอบหนีแอบไปเที่ยวข้างนอกบ้าง ส่วนทางประวัติของพี่เหลืองนั้นก็คาดว่าน่าจะเป็นแมวจรและได้รับบาดเจ็บมาจนสุดท้ายทางคุณหมอก็ได้รับเข้ามาเลี้ยงและพร้อมรับมาเป็นพนักงานต้อนรับและยามประจำคลีนิคโดยปริยาย ทั้งนี้ก็แสดงให้เห็นว่าแมวนั้นก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ห่วงใยเพื่อนร่วมโลกอยู่เช่นเดียวกับ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kitchanan Payomyong

ชีวิตไร้บ้านของแม่แมวสามสีที่กำลังท้องโต หากช่วยไว้คงได้หลานถ้าไม่ชวยคงไม่พ้นกลายเป็นจร

คุณเคยมั้ยที่แอบหลงรักแมวจรตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และคุณเคยมั้ยที่คิดที่จะอยากพาน้องไปอยู่ด้วยกันและถ้าหากว่าเป็นแมวจรที่กำลังตั้งท้องละคุณจะทำอย่างไร เหมือนกับเจ้าเหมียวสามสีจรตนนี้ ที่กำลังท้องอยู่และน้องเป็นแมวจรที่อาศัยอยู่ที่คอนโดจนน้องไปเจอกับทางผู้โพสต์เเข้า . โดยคุณ : Yuy Jeerat ได้โพสต์ลงในกลุ่มและเล่าว่าสวัสดีค่ะเราได้พบเจอกับน้องสามสีและเราได้ถามกับแม่บ้าน แม่บ้านเขาบอกว่าน้องเป็นแมวจร ถ้าอยากได้ก็เอาไปเลยให้ แถมลูกในท้องไปด้วย เราก็สงสารนางใกล้ให้กำเนิดลูกเต็มทีแล้วด้วย คงหิวเลยหาซื้อปลาทอดแถวๆนี้ให้กิน หลังจากผ่านไปหนึ่งวันเธอก็ได้พบเจอกับนางอีกแล้วนางอยู่หน้า7-11 เมื่อคอนโดไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ทุกชนิด เราจึงนัดกับเหมียวเมื่อคืนว่าเช้านี้มาเจอกันที่เดิมนะ เราจะพาไปอยู่ด้วย ตอนนี้พาน้องกลับบ้านด้วยแล้วนะคะ แถมน้องแสนรู้มากเลยนะเอาพาขึ้นรถน้องไม่ร้องไม่ซนใดๆเลย แต่ที่น่าสงสารก็คือคนที่คอนโดนี้แหละที่เขาทราบข่าวว่าน้องกำลังจะมีบ้านแล้ว คนที่คอนโดคงจะคิดถึงน้องมาก ถึงน้องจะเป็นแมวจรแต่น้องก็มีคนที่คอนโดคอยให้ข้าวให้น้ำ แต่ชีวิตหลังจากนี้น้องจะปลอดภัยแล้วมีบ้านแล้วมีคนที่รักน้องจริงๆแล้ว ขนาดที่ว่าแม่แมวสามสีกำลังตั้งท้องอยู่ด้วยแต่ทางผู้โพสต์เองก็ยินดีรับน้องไป หลังจากนี้ก็เตรียมรับหลานๆต่อเลยไม่รู้ว่าพ่อนางสีอะไร แต่ลูกๆของนางคงมีหลายสีแหละรอติดตามกันได้เลย ที่มา Yuy...

จำต้องจากคาบมาฝากมนุษย์ไว้ให้ไออุ่น ด้วยต้นทนตัวแม่นั้นไม่มีหนา

หัวอกแม่แม้ยากแท้ก็จำทนหากเมื่อตนต้นทุนต่ำระกำเอย แม้จะอยากมีลูกไว้เลี้ยงดูเองก็จะเกรงตัวลูกลำบากหนา ด้วยยากไร้เป็นจรไม่มีมาแม้อุราต้องฝืนกลั้นน้ำตาเอย จึงจำจากฝากไว้ให้ลูกอุ่นขอแค่เพียงได้อยู่อุ่นสุขสบายหนา ไม่ฝืนให้ลูกทนอยู่กับตัวมา ด้วยรู้ว่าหนทางยากลำบากที่ลูกต้องเจอ คาบมาฝากไว้ให้มนุษย์ได้ช่วยเลี้ยงตัวลำเอียงฝืนเฝ้าทนหาอาหาร หากลูกอยู่กับตัวจึงรู้ว่าทนอานด้วยตัวยากลำบากเกิดเป็นจร เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Net Rintira ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่ได้พบน้องถูกแม่คาบมาไว้ที่ชั้นสองหลังบ้าน แล้วตัวแม่เองก็ได้หายจากไปไม่มีมา เพราะคิดว่าตัวเลี้ยงดูคงไม่รอดทีซึ่งน้องมีกันทั้งหมด 4 ตัว สีดำถุงเท้าขาว 2 สีน้ำตาล 2 ตัว ด้วยตัวแม่เจอวิกฤตน้ำท่วมจึงคาบน้องมาเทเอาไว้ที่ชั้นสองของบ้าน จึงขอฝากให้มนุษย์ให้ไออุ่นแก่ลูกน้อยของตัวเอง ด้วยเธอเองก็เลี้ยงดูทั้งหมดไม่ไหวจึงมาฝากไว้ลงในกลุ่มเพื่อหาบ้าน ตัวแม่นั้นคงจะเฝ้าฝืนทนทานไม่ว่ามานไหนๆใช่ว่าดี แต่ตัวแม่ก็ฝืนทนทุกข์ด้วยจะสุขหากลูกได้อุ่นไอหนา ไม่มีทึมีบ้านหรือครณาจะหาที่ให้ลูกอยู่ไม่พ้นมือ...

สองแม่ลูกถูกเจ้าของที่สั่งห้ามไม่ให้กิน ต้องทนอยู่ทนหิวกอดคอแม่ไว้กับชีวิตที่ไม่เหลือใคร

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Thitima Prera ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า เช้านี้ที่ซอยละลายทรัพย์ เราได้พบเจอลูกแมวน้อยหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู เราได้ถามพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นว่าน้องเป็นแมวมีเจ้าของไหม . เราจึงได้รู้ว่าแม่แมวจรอาศัยอยู่ข้างหน้าตึกหลังหนึ่งในซอยละลายทรัพย์ และดูเหมือนว่าแม่เหมียวเองจะพึ่งให้กำเนิดลูกออกมาเลย และเจ้าของตึกเขาไม่ชอบเขาอ้างว่าแมวมาขับถ่ายแถวนี้ และสั่งห้ามให้อาหารอย่าให้น้องได้กิน เราจึงอยากให้มีคนนำไปเลี้ยง ซึ่งแม่ค้าในซอยก็สงสารช่วยเอาไปเลี้ยงไว้หลายตัวแล้ว ยังคงเหลือเจ้าตัวนี้ที่ยังไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ อยากให้ทั้งแม่และลูกได้มีชีวิตที่ดีกว่านี้ มีบ้านที่ปลอดภัย มีอาหารอิ่มท้องในทุกๆวัน หากใครสะดวกหรืออยู่แแถวนี้มาดูน้องได้ที่ ซอยละลายทรัพย์ (ซ.สีลม 5) เข้าจากปากซอยประมาณ 10 เมตร อยู่ทางขวามือค่ะ ถามร้านขายกาแฟหรือร้านค้าแถวนั้นได้เลยค่ะ...

ถูกใส่ลังเอามาวางไว้ข้างกำแพงวัด อย่างไร้เยื่อใยจะเมตตาแม้แต่ความสงสารที่เลี้ยงมาก็ไม่มีแล

เรามักจะบอกกับเพื่อนๆว่าการนำสุนัขหรือแมวมาเลี้ยงนั้นจะต้องเตรียมความพร้อม เพราะสิ่งที่เพื่อนๆจะได้รับจากการเลี้ยงดูพวกเขานอกจากความรักและความสุขเพื่อนๆยังจะต้องมีความรับผิดชอบต่อการเลี้ยงดูเพราะเขาก็หนึ่งชีวิต ซึ่งหากไม่เตรียมตัวให้ดีปัญหาเหล่านี้ก็จะตามมา เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังหลวงพี่ท่านหนึ่ง ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังถูกเอามาวางไว้พร้อมกับลังกระดาษและอาหารจำนวนนึงที่ข้างกำแพงวัด ซึ่งผู้โพสต์รายนี้ก็เป็นพระรูปหนึ่งที่จำวัดอยู่ที่วัดแห่งนี้และพบกับน้องเข้า โดยสภาพที่พบน้องตอนแรกคือพบลังกระดาษและอาหารเม็ดกระจัดกระจายอยู่ในลัง ดูแล้วน่าจะเป็นแมวที่เจ้าของไม่ต้องการ โดยคาดว่าน้องน่าจะไม่สบายและไม่อยากที่จะดูแลต่อหลวงพี่ท่านนี้จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์ โดยได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า หวังว่าคงจะไม่ได้เอาน้องมาปล่อยจริงๆใช่ไหม หมาแมวปล่อยในวัดยังมีอีกหรอ หากเจ้าของน้องได้เห็นโพสต์นี้ ได้ลืมน้องเอาไว้และถ้าน้องหายป่วยแล้วก็มาติดต่อได้ตลอดเวลานะครับ น้องน่ารักมากจริงๆ ตอนนี้น้องคงจะคิดถึงผู้เป็นเจ้าของแย่แล้ว โดยทางหลวงพี่เองก็อยากที่จะดูแลน้องให้ดีแต่ทว่ากลัวว่าสุนัขและแมวที่วัดอาจจะเข้ามาทำอะไรน้องได้ จึงทำได้แค่ให้ที่พักพิงชั่วคราวเพียงเท่านั้นหรือถ้าหากผู้เป็นเจ้าของนำมาปล่อยเอาไว้จริงๆก็คงจะทำการหาบ้านให้กับน้องต่อไป ซึ่งก็ทำได้แค่สงสารน้องเพราะสัตว์เหล่านี้พวกเขาก็มีหัวใจเหมือนกับเรา เราเลี้ยงพวกเขามาก็ไม่ต่างจากคนเป็นแม่ที่เลี้ยงดูลูกน้อย แล้วถ้าแม่ไม่อยู่ลูกน้อยจะมีจิตใจเป็นอย่างไรก็อยากจะให้ทุกคนลองนึกดูแล้วกัน ขอขอบคุณข้อมูลจาก พระณณิณ กลฺยาณสิริ

แมวตัวน้อยที่ไม่มีใครต้องการ

เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่เกิดมาไร้คนต้องการ แม้แต่จะเหลียวแลหรือให้ความช่วยเหลือ ซึ่งถ้าเกิดวันนี้เพื่อนๆเกิดท้อแท้อยากให้เพื่อนๆลองนึกถึงอีกหลายๆชีวิตที่ต้องเกิดมาดิ้นรนต่อสู้ทั้งๆที่เพิ่งจะลืมตามาดูโลกได้ไม่กี่วัน เพียงเพราะไม่น่ารักอย่างใครเขาหรือไร้ผู้คนต้องการเพราะเกิดมามีร่างกายที่อ่อนแอ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Piiz A GGiiz ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยรายนี้ หลังจากที่น้องนั้นถูกแม่แมวปล่อยเอาไว้เพราะน้องนั้นไม่แข็งแรงเหมือนกับพี่ๆ แถมไม่วายยังโดนผู้คนไม่ชอบเพราะเนื้อตัวที่มอมแมมสภาพไม่น่ารักเหมือนแมวทั่วๆไป ซึ่งผู้โพสต์นั้นก็ได้พบน้องเข้าที่ตกอยู่ในสภาพที่ผอมโซ เดินไร้แม้แต่เรี่ยวแรงแต่ก็ไม่มีใครจะคิดแยแซกับชีวิตน้อยๆตัวนี้ โดยทางผู้โพสต์นั้นก็อดใจไม่ไหวที่จะเข้าช่วยเหลือเพราะสงสารจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์บอกเล่ายังในโลกออนไลน์เพื่อที่จะหาบ้านให้กับน้อง แต่ทว่าความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ เพราะในที่สุดผู้โพสต์เองก็อดทนไม่ไหวรับเลี้ยงน้องเองด้วยความที่น้องขี้อ่อนและสงสาร ซึ่งในตอนแรกนั้นผู้โพสต์เองก็ได้บอกเอาไว้ด้วยว่าอยากที่จะรับเลี้ยงน้องแต่ตัวของผู้โพสต์ก็ไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนแถมยังกลัวแมวอีกด้วย อีกทั้งยังกลัวแม่ของเธอเองจะว่าเอา แต่ในที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความออดอ้อนและความน่ารักของน้องนี่เอง โดยทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนเจอแมวจรหรือแมวตัวน้อยๆก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ว่า ให้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือชีวิตน้อยๆเหล่านี้เพราะถ้าเกิดว่าเป็นคนอย่างเราๆ เรายังสามารถที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้ แต่ทว่าถ้าเกิดเป็นแมวหรือสัตว์อื่นๆนั้นพวกเขาไม่สามารถที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นๆได้เหมือนกับเรา ขอขอบคุณข้อมูลจาก Piiz A GGiiz

จำต้องหอบกระเตงลูกแม้ฝนตก ชีวิตระหกเดินเร่เป็นจรต้องคุ้ยขยะประทังหา

ด้วยชีวิตเกิดมาเป็นจรต้องทนทุกข์ไม่มีสุขแม้มีบ้านให้หลบฝนซ้ำมีลูกต้องหอบเร่เฝ้าทุกข์ทนคอยหลบฝนตามตู้ดับเพิลงไป คอยไปหลบเฝ้าหลับนอนในห้องเก็บของตัวคอยสอนให้ลูกอยู่ในโลกใหญ่ ไหนจะหมาไหนจะตัวเงินทองคอยหลบไปด้วยหัวใจคนเป็นแม่เฝ้าโทษตัว เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Chin Chinnawat ได้โพสต์เรื่องราวตามหาบ้านให้กับน้องแมวเพราะเวลาฝนตกน้องไม่มีที่ให้หลบหรือแอบต้องคอยไปแอบในห้องเก็บของบ้างบางตัวก็หลบแถวถังขยะก็มีบางทีก็มีตัวเงินตัวทองออกมากลัวจะเป็นอันตรายกับตัวน้องเอง ด้วยน้องแมวมีหลายตัวบางไม่คุ้นกับคนอาจจะเชื่องบ้างก็มีบางตัวเลยอยากจะขอคนพร้อมดูแลและพร้อมจริงๆ น้องอาศัยอยู่ตามถังขยะของห้างเอ้าเลทบางประอิน ซึ่งเขาก็เห็นน้องคอยหลบฝนแล้วก็สงสารมากเพราะชีวิตไร้บ้านอยู่ต้องนอนตากฝนตากแดด ด้วยถ้าใครมาแล้วไม่พบน้องต้องขออภัยด้วยเพราะน้องเป็นแมวจรเลยต้องเฝ้าคอยหาดู เขาก็ทำได้แค่นำมาโพสต์ให้รู้ว่าน้องน่าสงสาร เพราะเขาก็ไม่สามารถจะรับน้องไปเลี้ยงเอาไว้เองได้ถ้ามารับก็ขอให้เอาแม่ของเด็กๆไปอยู่ด้วยอยากได้พรากจากอกแม่เขาไป เพราะพวกเขาก็เฝ้าคอยดูแลอยู่ใกล้ตลอดมายามจะฝนตกยังคอยหาพาลูกหลบ ด้วยถ้าเพื่อนๆเองอยากจะรับน้องไปเลี้ยงดูก็สามารถจะทักไปหาเขาได้เขาจะพาไปหาน้อง แม้ยามลำบากของชีวิตก็ขออยากให้ลูกได้อยู่สุขสบายไม่วายแม้ไม่ใช่คนเอง ที่มา Chin Chinnawat