ทาสแมว

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nuttapong Phueakrak ได้เผยเรื่องราวของไอ้ปั๊ป ไอ้ปั๊ปเป็นลูกแมวจรที่คุณลุงรับเลี้ยงนางมา เมื่อก่อนทางหนุ่มผู้โพสต์ก็เคยเลยกับเจ้าปั๊ปนี่แหละ แต่ไม่ได้เจอกันนานคุณลุงก็เลยเตือนว่าอย่าไปใกล้มันนะ ตอนนี้ไอ้ปั๊ปเป็นแมวดุระวังไว้ด้วย แต่พอได้เข้าใกล้สักพักอะอะอ้าว ไหนลุงบอกไอ้ปั๊ปมันดุไง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนกลับบ้านที่สุพรรณ ไปเจอไอ่ปั๊ปแมวลุง(รอบก่อนมันชื่อไอ้ปลั๊กแต่ตอนนี้น้องเปลี่ยนชื่อแล้ว) น้องมันอ้วนขึ้นมากเลย ลุงบอกมันเป็นแมวดุแล้วนะ ระวังไว้ด้วย แค่พอไปเจอเหมือนมันจำได้ มันวิ่งเข้ามาหาทันที ทิ้งตัวตุ๊บ!!นอนอ้าให้จกพุงเล่น โคตรน่ารักเลยไอ้ปั๊ป (ไหนบอกลุงดุหว่า)ได้ข่าวว่าวันนี้เอ็งจะโดนอาบน้ำด้วย เอาเลยคลุกดินคลุกทรายให้เต็มที่เลยปั๊ป อ่อ..ไอ้ปั๊ปมันสนิทกะหมาด้วยนะ หมาชื่อไอ่เสือ ปั๊ปแมวลุงข้างบ้าน ปั๊ปแมวหล่อ จากไอ่ปลั๊กแมวขนเนียนผู้น่ารักในวันนั้น สู่ไอ่ปั๊ปพะยูนคลุกฝุ่นในวันนี้ หลังเรื่องราวของเจ้าปั๊ปถูกเผยแพร่ในกลุ่มชมรมแมวสายดาร์ก เหล่าทาสแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นไหนบอกว่าปั๊ปดุไงลุง น้องออกจะเฟรนลี่เลยนะ แถมหน้าตาของน้องก็น่ารักฝุดๆ ไม่แน่ใจว่าน้องเป็นแมวสายพันธุ์หรือเปล่า แต่แท้ที่จริงแล้วแม่ของนางเป็นแมวจรบ้านๆนี่แหละ แต่คุณลุงเขาเลี้ยงแมวดีจนน้องกินเยอะจนอ้วนตุ้บเลย ส่วนพี่หมานี่ก็เป็นเพื่อนสนิทของเจ้าปั๊ปพวกเขาเติบโตมาด้วยกัน แต่ถ้าดูจากขนาดตัวแล้วเจ้าปั๊ปเริ่มจะใหญ่กว่าพี่หมาแล้วนะ เอ็งไปกินอะไรเข้าไปทำไมถึงบวมได้ขนาดนี้ฮะ ฮ่าฮ่าฮ่า   ขอขอบคุณ : Nuttapong Phueakrak

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : พี่ภูริ พี่ภูริ ได้เผยเรื่องราวของน้องหมาตัวหนึ่ง น้องเป็นหมาเดินมาสะกิดขาตอนที่เธอกำลังซื้อไก่ย่าง น้องนั่งสะกิดด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัว ก่อนที่แม่ค้าขายไก่ย่างจะบอกว่า นางจะคาบไก่เอาไปให้ลูกๆได้กินกัน พอเธอได้ยินเท่านั้นแหละ เธอรีบซื้อไก่ย่างชุดใหญ่เพื่อให้ลูกๆของแม่หมาได้อิ่มท้อง . โดยสาวเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรายืนซื้อส้มตำอยู่ จู่ๆก็มีมือมาสะกิด เลยก้มดูลงไปดู อะอ้าวเเม่หมาตัวดำๆๆมาสะกิดขาขอไก่ย่าง เราเลยให้ไก่ไป เเม่ค้าเลยบอกว่ามันเอาไปให้ลูกๆกินกัน เราเลยเเอบตามไปดู แม่หมาสีดำเอาไปให้ลูกๆจริงๆด้วยเหมือนที่แม่ค้าขายไก่ย่างบอกเลย เธอเลยให้ไปอีกฉีกๆเเบ่งๆให้เด็กอีก วันหลังพี่เเวะเอาไก่ไปให้อีกน๊าเด็กๆ เอ็นดูเเม่หมาที่มีความรักต่อลูกๆ จนเรื่องราวถูกโพสต์ในกลุ่มรักหมาจัง ชาวเน็ตจึงเข้าไปสอบถามอยากให้เธอรับน้องกับลูกๆไปเลี้ยง ไม่อยากให้น้องต้องเป็นหมาจรอยู่อย่างนี้ กลัวทั้งรถกลัวทั้งคนกับปัจจัยหลายๆอย่าง แต่เธอได้เข้ามาตอบว่าไม่สามารถเลี้ยงน้องได้ ด้วยตัวเธอยังเช่าบ้านเขาอยู่ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ แต่เธอจะพยายามมาที่ตลาดบ่อยๆและจะแวะซื้ออาหารเม็ดให้กับแม่หมากับลูกๆของเธอด้วย ต้องขอขอบคุณสาวผู้โพสต์ด้วยนะครับ มื้อนี้เด็กๆและแม่หมาคงอิ่มท้องไปอีกนาน แต่ก็ไม่อาจรู้ได้เลยนะว่าแม่หมากับลูกๆจะได้กินอีกเมื่อไหร่ ขอให้คนมีเมตตาแบ่งปันอาหารให้กับแม่หมากับลูกๆด้วยเถอะ ขอขอบคุณ : พี่ภูริ พี่ภูริ

เพราะปัญหาการนำสุนัขและแมวมาปล่อยของประเทศเรานั้นยิ่งมากขึ้นทุกวันเนื่องจากการอยากจะเลี้ยงสัตว์ของมนุษย์บางจำพวกที่ต้องการเลี้ยงแต่กลับไม่มีความรับผิดชอบ หรือผู้เลี้ยงที่ปล่อยปละละเลยจนแมวหรือสุนัขของตนนั้นตั้งท้องและเมื่อคลอดออกมากลับไม่ต้องการลูกๆของพวกเขาจึงนำมาปล่อยไว้ตามสถานที่ต่างๆ เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวน้อยจรตัวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในกลุ่ม หาบ้านให้น้องหมาน้องแมว หลังจากที่เขานั้นได้พบเจ้าเหมียวจรตัวน้อยต้องแอบอาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำ ใน สน.ปตท. หจก.พงษกิต ช่องจอดรถบรรทุกช่องในสุด ซึ่งคาดว่าน้องน่าจะถูกนำมาปล่อยเอาไว้โดยอาศัยอยู่เพียงลำพังและด้วยตัวยังเล็กเลยได้แต่แอบอยู่ในนั้นไม่กล้าที่จะออกไปไหน ซึ่งไหนจะหมาไหนจะคนน้องคงจะตื่นตระหนกแล้วก็ไม่รู้ว่าต้องทนอยู่แบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว จึงอยากวอนให้เพื่อนๆในกลุ่ม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือน้องที เพราะถ้าปล่อยเอาไว้น้องคงต้องอดจนสิ้นใจเพราะไม่รู้ว่าน้องนั้นจะหากินเองได้หรือไม่ อีกทั้งในระแวกดังกล่าวก็เป็นสำนักงานไม่มีบ้านคนหรือเศษอาหารใดๆ ไม่รู้จะมีอะไรตกถึงท้องมั้ย ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนอยู่ใกล้ๆกับพิกัดที่กล่าวไว้ดังกล่าว ก็วอนเข้าไปช่วยเหลือน้องที หรือหากมีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือได้ก็จะขอบพระคุณอย่างมาก ซึ่งก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ว่าการนำสัตว์มาเลี้ยงเท่ากับการนำหนึ่งชีวิตมาดูแลพวกเขานั้นจะจดจำเราไปตลอดชีวิตแล้วยิ่งถ้าเพื่อนเลี้ยงพวกเขามาในระบบปิดแล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะหาอาหารเองตามธรรมชาติได้เลยถ้าหลุดหรือเอาไปปล่อยแบบนี้ก็เท่ากับรอวันที่พวกเขาสิ้นใจถ้าไม่มีใครให้กิน ขอขอบคุณข้อมูลจาก Thanet Khruehom 

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ท่านหนึ่งในกลุ่ม ทาสแมว Official‎  ได้เผยเรื่องราวของแมวที่เขานั้นได้เลี้ยงน้องเอาไว้ โดยเจ้าแมวตัวนี้อายุมากแล้ว ตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 20 ปี เพราะแมวตัวนี้อยู่กับเจ้าของมาตั้งแต่เจ้าของอยู่ ป.6 ปัจจุบันเจ้าของมีอายุก็ปาเข้าไป 32 ปีแล้ว . เขาได้เล่าว่าน้องอายุประมาณ 20 ปี มันถอดเล็บให้ 2 เล็บ แมวใครเล็บเป็นแบบนี้บ้าง...ชาวเน็ตทาสแมวจึงได้เข้ามากระหน่ำโพสภายใน 1 ชั่วโมงเกือบ 50 คอมเม้นต์ หลายท่านได้เข้ามาตอบว่าทำไมคุณถึงไม่ตัดเล็บให้น้อง แมวแก่ส่วนมากจะเริ่มไม่ลับเล็บเองแล้ว เราซึ่งในฐานะคนเลี้ยงแมวเราต้องตัดเล็บให้น้องด่วนๆเลย เพราะเล็บของน้องยาวจนงออยู่อย่างนี้ น้องก็แก่มากแล้วจะทำอะไรมากก็ไม่ได้ เพราะถ้าปล่อยให้ยาวน้องจะเจ็บ เหมือนกับคนเรานี่แหละถ้าเล็บยาวจนงอยังไงเราก็เจ็บ จนหลายท่านเริ่มเข้ามาดราม่ากับเจ้าของโพส แต่ก็เนอะเขาอาจไม่รู้ก็ได้ว่าต้องดูแลน้องยังไง แต่แอดเชื่อว่าเขาก็รักแมวในระดับหนึ่งนี่แหละเพราะเขาก็เลี้ยงมันมาตั้ง 20 ปีแล้ว หนึ่งเลยสิ่งที่เจ้าของโพสควรทำก็คือพาแมวไปตรวจสุขภาพ สองตัดเล็บให้น้องเพราะเขาแก่แล้วเริ่มไม่ลับเล็บเองแล้ว สามอย่าปล่อยให้น้องเล็บยาว และหลังจากโพสต์นี้ถูกโพสต์ไปได้ไม่นานทางผู้โพสต์เองได้ลบออกจากกลุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะเกิดกระแสดราม่าเซฟน้องแมวกันอย่างหนัก และเขาก็คงตระหนักถึงและชุกคิดได้บ้างว่าตอนนี้น้องต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าของโดยด่วน เราได้แต่หวังว่าทางผู้โพสต์เองจะรีบตัดเล็บให้น้องและอย่าปล่อยปละละเลยให้เป็นแบบนี้อีก ที่มา ชาวเน็ตท่านหนึ่งในกลุ่มทาสแมว Official

หากเราจะพูดถึงชาวไทยพุทธหรือชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธแล้วเพื่อนๆหลายคนที่นับถือศาสนาพุทธเองก็คงจะเข้าใจดีว่าหลักธรรมคำสอนของศาสนาเรานั้นสอนให้รู้จักบาปบุญคุณโทษโปรดสัตว์ได้บาปหรือแม้แต่การมีเมตตาต่อสัตว์ร่วมโลกอย่างเช่นสุนัขหรือแมวจร เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า สร้อยแก้ว นากคิรี ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเหล่าสุนัขจรในวัดที่จังหวัด ขอนแก่นแห่งนี้หลังจากที่เจ้าอาวาสคนเก่านั้นได้มรณะภาพไป แต่ตอนนี้มีรักษาการแทนเจ้าอาวาสคนใหม่เข้ามา และประกาศกร้าวออกไมค์กลางศาลาว่า "วัดนี้จะไม่ให้มีหมาไม่ให้มีแมวไม่ให้มีแม้แต่นก" ซึ่งหลังจากการประกาศออกไมค์กลางศาลานั้นออกไปเจ้าจูดี้ สุนัขตัวเมียสีดำ สุนัขจรที่อาศัยร่มเงาภายในวัดก็ได้หายตัวไป หมาของหลวงตาสิริอีก 1 ตัวก็หายไป หมาหลวงพี่ฟางสุดสวยแก่แล้วด้วยก็หายไปอีก 1 ซึ่งก็ไม่มีใครทราบเลยว่าสุนัขทั้งหมดภายในวัดนั้นหายไปได้อย่างไรภายในค่ำคืนเดียว ซึ่งก็ไม่รู้ได้ว่ามีคนเอาน้องๆเหล่านี้ไปปล่อยและปล่อยไว้ที่ไหน ซึ่งสุนัขแต่ละตัวที่ถูกเอาไปปล่อยนั้นก็ทั้งเชื่องๆและแก่ๆ แมวที่ทำหมันทุกตัวราว 10 กว่าตัวก็คงจะเป็นคิวต่อไป ไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้อยู่ได้อาศัยร่มเงาภายในวัดนี้ไปอีกกี่วัน ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์เองก็ได้เล่ารายละเอียดเอาไว้อีกว่า ทราบเรื่องราวประวัติของรักษาการแทนเจ้าอาวาสคนนี้ว่ามีประวัติเกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องสุนัขและแมวมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่จำวัดเดิมแล้ว ทั้งการปล่อยลูกหมาที่ยังไม่ทันได้ลืมตา มีแต่ผู้คนไม่ชอบท่าน ถามหาทั้งวัดก็ไม่มีใครรู้ว่าหมาวัดหายไปไหนหมด ทางผู้โพสต์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าน่าจะมีมือดีอุ้มไป เพราะหมาวัดนี้เป็นหมาเชื่องทั้งหมด ตอนนี้ก็เหลือแต่แมวในวัดก็ไม่รู้ว่าวันไหนแมวทั้งวัดจะหายไปเหมือนกับหมาอีก ก็อยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือใครที่พอจะยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือได้ช่วยเหลือพวกเขาทีเพราะไม่รู้ว่าจะได้อยู่ในวัดนี้อีกต่อไปอีกกี่วัน ซึ่งหากเพื่อนๆอยากจะติดตามเรื่องราวเพิ่มเติมก็สามารถติดตามไปได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก สร้อยแก้ว นากคิรี

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nongna Mookravee Somjit ได้เผยเรื่องราวที่เธอยังรู้สึกผิดอยู่ในใจมาโดยตลอด เพราะเธอนั้นไม่สามารถช่วยชีวิตแมวของเธอได้ ขนาดหาร่างของน้องยังทำไม่ได้ เห็นน้องอยู่คาตากแท้ๆแต่แม่ก็ตามไม่ทัน เธอจึงได้เข้ามาระบายในกลุ่มทาสแมวด้วยความรู้สึกผิด . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า พริกไทย แม่ขอโทษที่ช่วยชีวิตหนูไม่ทัน แม่วิ่งตามไปแล้วนะลูก แต่หมามันวิ่งเร็วกว่าแม่ แม่ไปช่วยแล้ว แม่เสียใจแม่ช่วยไม่ทัน แม่เห็นอยู่คาตาตอนหมามันคาบพริกไทยไป ขนาดร่างกายของน้องแม่ยังตามหาไม่เจอ ไปอยู่บนสวรรค์นะลูก โดยแมวของเธอนั้นถูกหมาวิ่งคาบไปต่อหน้าต่อ หมาก็มีจำนวนมากถึง 3 ตัว เธอก็วิ่งตามอย่างสุดกำลังที่มีแล้ว แต่ด้วยความเร็วของผู้หญิงมันก็ยากที่จะตามทัน และเธอก็ได้แต่โทษตัวเองและยังรู้สึกผิดอยู่ในใจ โดยเธอนั้นไม่สามารถเลี้ยงแมวระบบปิดได้ และแมวของเธอในตอนนั้นก็นอนเล่นอยู่หน้าบ้าน ชาวเน็ตหลายท่านในกลุ่มทาสแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น อยากให้สาวเจ้าของลองไปเดินตามหาแมวของเธออีกครั้ง ว่าน้องอาจจะยังมีชีวิตอยู่ น้องหมาอาจเอาไปเล่นด้วยก็ได้ แต่เดินวนหาหลายรอบแล้วก็ยังหาไม่เจอ ขอเพียงให้พบร่างก็ยังดี ตามหาอยู่หลายวันสุดท้ายก็ยังหาไม่เจอ ที่มา Nongna Mookravee Somjit

เพราะหลายชีวิตนั้นต้องดิ้นรนเอาตัวรอดยิ่งถ้าเกิดเป็นแม่คนยิ่งแล้ว ซึ่งหากจะพูดถึงหัวอกคนเป็นแม่แล้วเพื่อนๆหลายคนก็คงจะรู้จักและเข้าใจกับคำๆนี้ดี เพราะแม่นั้นยอมทำให้เราได้ทุกสิ่งทุกอย่างแม้จะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตามแต่แม่ก็จะทำให้ลูกได้เสมอแม้แต่การเป็นขโมยกินลักของเขากินก็ตาม เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Farida Chaisuk ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้หลังที่เธอได้ไปเจอคลิปวิดีโอนี้มาโดยเล่าว่า เจ้าของคลิปเล่าเอาไว้ว่า มีสุนัขตัวหนึ่งเป็นแม่หมามาขโมยเนื้อหมูและคาบวิ่งหนีมา เจ้าของเขียงหมูรายนั้นจึงได้วิ่งตามมาด้วยความโกรธ เพราะสุนัขจรตัวนี้ไปคาบเนื้อหมูของเขามาซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้วสุนัขจรทั่วๆไปก็คงไม่กล้าที่จะทำแบบนี้อยู่แล้ว เขาจึงวิ่งตามมาด้วยความโมโหแบบขั้นสุด แต่ทว่าเมื่อเขานั้นได้พบเจอกับเจ้าตัวหัวขโมยหมูที่คาบหมูเขามาแล้วเขากลับจุกที่อกและพูดไม่ถูกเลย จากการมาตามสิ่งของของตัวเองที่โดนขโมยมากลับต้องมาเอาเนื้อหมูดิบชิ้นนี้กลับไปทำให้สุกก่อนแล้วค่อยนำกลับมาให้เจ้าตูบรายนี้ เพราะสิ่งที่เขาได้พบนั้นคือสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขจรและเจ้าตูบก็ดันมีลูกตัวน้อยๆอยู่ด้วยสิ่งที่เจ้าตูบทำนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าความโมโหเขาจะทำอะไรได้ทั้งสิ้น เพราะด้วยความดิ้นรนของชีวิตแม่ตูบรายนี้จำเป็นต้องกล้าที่จะขโมยเนื้อหมูนี้มาให้กับลูกตัวน้อยๆที่เฝ้ารออย่างมีหวังว่าผู้เป็นแม่นั้นจะนำอาหารกลับมาให้พวกเขา ซึ่งแม่ก็พยายามอย่างที่สุดเพื่อลูกๆจะได้อิ่มท้องและนอนหลับสนิทแม้ว่าแม่จะต้องเจ็บหรือต้องแลกมากับอะไรก็ตาม ขอขอบคุณข้อมูลจาก Farida Chaisuk Pavinee Kang Chomngam และชมคลิป https://www.facebook.com/showclip3/videos/171117627507068/

ในหลายๆครั้งเรามักจะย้ำเตือนกับเพื่อนๆเกี่ยวกับการนำสัตว์หนึ่งตัวมาเลี้ยง ว่าเพื่อนๆจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมให้ดีก่อนที่จะรับพวกเขามา เพราะด้วยเรื่องของเวลาและการเอาใจใส่ที่พวกเขาต้องการจะได้รับนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งหากถามว่ามากแค่ไหนเพื่อนๆก็ลองมารับฟังเรื่องราวนี้กันดู หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mind Saluta ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวแสนรักหลังจากที่เธอนั้นต้องเสียเจ้าเหมียวสุดที่รักไปเพราะการจำเป็นต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด 1 อาทิตย์ซึ่งจำเป็นต้องฝากน้องเอาไว้กับแม่ของเธอเอง โดยในสองวันแรกนั้นเจ้าเหมียวก็มีอาการปกติเดินไปนอนรอเธอกลับมาบ้านเหมือนปกติในทุกๆวัน ซึ่งเจ้าเหมียวเองก็พยายามที่จะมองหาผู้เป็นเจ้าของของเขาอยู่ตลอดเพราะด้วยความรักและความผูกพันที่เจ้าเหมียวมีต่อเธอ แถมยังเรียกหาไม่หยุดซึ่งพอวันที่ 3 แม่ของเธอก็ได้บอกอีกว่าน้องเริ่มมีอาการซึมไม่ยอมกินข้าวไม่เล่นไม่ทำอะไรเลย ซึ่งพอเข้าวันที่ 4 น้องก็ซึมมากๆไม่กินทั้งข้าวและน้ำสักหยด แต่แล้วข่าวร้ายก็มาถึงเมื่อเวลาสายๆของวันที่ 4 แม่เธอก็ได้โทรมาบอกกับเธอว่าแม่กำลังพาน้องไปหาหมอ แต่ทว่ายังไม่ทันได้ถึงมือหมอน้องก็มีอาการนิ่งชักแล้วก็นิ่งไปเลย แม่บอกน้องตรอมใจซึ่งเธอเองก็เสียใจมากๆที่ได้รับข่าวนั้นจากแม่ของเธอ ซึ่งโดยปกติแล้วน้องก็จะติดเธอมาก เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะอาบน้ำกินนอนตัวจะติดกับเธออยู่ตลอด โดยปกติถ้าไปทำงานเช้าก็จะบอกว่าจะไปทำงานแล้วนะลูกน้องก็จะฟังแล้วก็จะนอนรอที่บ้าน แต่ครั้งนี้ไปนานก็บอกว่าไปทำงานเดี๋ยวกลับมา ซึ่งพอเลิกงานมาน้องก็จะวิ่งมาหาถ้าได้ยินเสียงรถ ซึ่งก็จะเป็นแบบนี้อยู่เป็นประจำ แต่ในวันนี้คงไม่มีโอกาสได้บอกน้องแล้วรักน้องมากจริงๆและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงอยากจะฝากให้เพื่อนๆได้รับรู้อาการของการตรอมใจของแมวว่ามันมีและเกิดขึ้นได้จริงๆ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mind Saluta

เพื่อนๆหลายๆคนเคยตกหลุมรักสัตว์กันบ้างมั้ย เพราะในชีวิตที่ไร้บ้านหาที่พึ่งไม่ได้ได้เพียงแค่อาศัยใต้ชายคาบ้านที่สามารถจะพอเข้าไปแล้วไม่โดนพวกเขาไล่เหมือนไร้ชีวิต มีที่ให้หลบพักพิงแดดฝนจึงทำให้หลายๆชีวิตต้องดิ้นรนเอาตัวรอด เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ แต่ทว่าเธอคนนี้กลับตกหลุมรักพวกเขาอย่างสุดหัวใจ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Pralichart P Meesuk ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดน่ารักของเหล่าเจ้าเหมียวแม่ลูกลงในกลุ่ม "สัตว์โลก" หลังจากที่แม่เหมียวรายนี้มาคลอดลูกเอาไว้ใต้หลังคาบ้านของเธอและเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก เจ้าเหมียวก็ได้คาบลูกของเขามาอวดแก่เธอรายนี้ อาจจะเพราะด้วยความมีเมตตาที่เธอมีต่อแม่เหมียวในวันนั้น เจ้าเหมียวเลยทราบดีว่าจะสามารถให้ใครช่วยดูแลลูกของเขาต่อไปได้ จึงนำมาให้มนุษย์ที่เคยมีเมตตาต่อเขาในวันนั้นมาให้เธอดู ซึ่งเธอเองก็อยากที่จะได้ทั้งแม่และลูกมาอยู่ในความดูแล แต่ทว่าเธอก็ยังไมสามารถที่จับตัวเจ้าเหมียวมาได้ ซึ่งเธอเองก็ได้พยายามที่จะหาวิธีการรให้เหล่าเจ้าเหมียวพวกนี้มาอยู่ในความดูแลของเธออยู่ เธอจึงได้นำเรื่องราวความน่ารักนี้มาเอาไว้ในกลุ่ม ซึ่งทางเพื่อนๆในกลุ่มนี้เองก็เอาใจช่วยกันสุดฤทธิ์เพราะอยากจะให้น้องๆมาอยู่ในความดูแลของผู้โพสต์เพราะจะได้ไม่ต้องมาอยู่แบบนี้อีกต่อไป เพราะสัตว์พวกนี้เค้ารู้ว่าใครนั้นมีเมตตาต่อพวกเขาใครหรือบ้านไหนที่คอยช่วยเหลือหรือสามารถที่จะช่วยเหลือได้ พวกเขาก็จะเลือกที่จะมาอยู่หรือมาขอที่พักพิงด้วยตัวของเขาเอง ทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าหากเพื่อนๆคนไหนเจอสัตว์จรที่ต้องการความช่วยเหลือก็อยากที่จะให้ยื่นมือเข้าไปช่วยเพราะเราไม่รู้ว่าถ้าเราเลือกจะเมินเขาไปในวันนั้นพวกเขาจะมีลมหายใจอยู่ต่อไปได้อีกกี่วัน ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pralichart P Meesuk

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Jame Alife ได้เผยเรื่องราวของแมวที่เขานั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยน้องมีชื่อว่าหมูอ้วน หมูอ้วนป่วยด้วยโรคไตตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม และน้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องแต่อาการของน้องไม่ดีขึ้นเลย หมูอ้วนแทบจะเป็นทุกอย่างของเจ้าของ ทางเจ้าของรักหมูอ้วนมาก หมูอ้วนหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาถึงหน้าบ้าน แล้วหมูอ้วนก็หมดลมหายใจเหมือนอยากกลับมาสิ้นใจอยู่ที่บ้าน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า จำหมูอ้วนได้ไหมครับ ที่เคยโพสถามเพื่อนๆในกลุ่ม เมื่อไม่นานนี้ ผมพยายามรักษาเค้าทุกวิถีทางหมดเท่าไหร่ก็ยอม หาเงินมาได้แล้วแต่อ้วนด่วนจากไปก่อน วันนี้ไปรับกลับบ้านตามปกติจากโรงบาล พอถึงหน้าบ้านเวลา 18.47น. หมูอ้วนก็ได้จากไป เสมือนว่าหมูอ้วนอยากกลับบ้านรอพ่อแม่มารับกลับบ้าน แต่ตอนนี้น้องได้จากไปแล้ว ขอให้เพื่อน ๆ ช่วยส่งหมูอ้วนขึ้นสวรรค์ทีนะครับ ผมกับแฟนร้องไห้จนตาบวมแล้วพรุ่งนี้ จะเอาไปเผาที่วัด โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าเพิ่มเติมว่า ส่งหมูอ้วนขึ้นสวรรค์แล้วนะครับ ตอนแรกคิดว่าจะเผา แต่พอดีทางวัดโดนร้อง เลยเลิกเผา เปลี่ยนเป็นฝังไว้ทีวัดแทน ทำพิธีทุกอย่างครบ ที่นอนผ้าห่มพี่หมีพี่กระรอกให้อยู่เป็นเพื่อนกับอ้วนจะได้ไม่เหงาขอบคุณทุกๆคนมาก ที่ช่วยส่งอ้วนขึ้นสวรรค์และขอบคุณทุกกำลังใจ ตัวผมทำใจไว้นานแล้วแต่แฟนไม่ได้ทำใจเลยคิดว่ายังไงลูกต้องหายเลยแย่หน่อย แต่ตัวผมเองก็มีบางครั้งที่แย่เหมือนกัน แต่ก็ต้องเข้มแข็ง บางคนอาจจะมองจะอะไรนักหนาแค่แมวตัวเดียว แต่สำหรับผมมันไม่ใช่เลย และวันที่ 31 มกราคม 2563 เป็นวันที่ร้องไห้มากที่สุด เพราะสิ่งที่รักที่สุดมาจากไป แบบไม่มีวันหวนกลับคืนมา ที่นอนที่เคยนอน ตอนนี้เป็นที่นอนที่ว่างเปล่า สิ่งที่รู้อย่างเดียวคือลูกอยากกลับบ้าน วินาทีที่ลงจากรถเปิดประตูหน้าบ้าน ก็จากไปโดยไม่ได้ร่ำลาใดๆ หลับให้สบายนะลูก พ่อกับแม่มารับหนูกลับบ้านแล้ว   ที่มา Jame Alife