เจ๊อ้วนแมวซ้ำชั้น อยู่ตั้งแต่เด็กจนแก่หงักจนเลื่อนขั้นเป็นผอ. อยู่มานานแม้สก็ไม่ใส่

ด้วยมาตรการของทางรัฐที่ควบคุมไม่ให้โควิด 19 เกิดการระบาดในระลอกที่2 ทางโรงเรียนต้องๆจึงต้องตรวจวัดไข้ก่อนที่จะเข้าไปยังสถานศึกษาได้ และไม่วายไม่ว่าคนหรือแมวก็ต้องวัดไข้ก่อนเข้าโรงเรียนเหมือนกับเจ๊อ้วนตัวนี้ ที่นางเป็นแมวเก๋าแถมซ้ำชั้นมาเกือบ 10 ปีแล้ว . เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Tiphathai Langpai Bee ได้เผยภาพและเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้าเหมียวโรงเรียนที่อยู่มานานตั้งแต่เกิด นางมีชื่อว่าเจ๊อ้วน เจ๊อ้วนเป็นแมวโรงเรียนลายสลิด นางอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้มาเกือบสิบปีและอีกไม่นานคงได้เลื่อนขั้นเพื่อเป็น ผอ. และด้วยมาตรการที่ทางรัฐคุมเข้มสถานการณ์ "โควิด-19" ทางเรียนเรียนต่างๆก็เริ่มเปิดกันเป็นปกติแล้ว แต่ยังไม่วายถึงจะเป็นแมวแต่ก็ต้องวัดไข้ก่อนเข้าโรงเรียนนะ โดยที่อุณหภูมิของเจ้อ้วนอยู่ที่ 36 องศา แสดงว่าไม่มีไข้สูงสามารถเข้าโรงเรียนไปใช้ชีวิตได้กับเด็กๆได้เลย จนเรื่องราวของเจ๊อ้วนถูกโพสต์ในโลกออนไลน์...

เจ้าของเก่าคิดว่าสิ้นลมจึงนำไปเทที่กองขยะ แต่โชคดีมีคนไปเจอนำรักษาชุบเลี้ยงจนเติบใหญ่

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ศักดิ์ ลอสูงเนิน ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอน้องหมาหายใจโรยรินใกล้สินใจอยู่ที่กองขยะ เพราะเจ้าของคิดว่าน้องไม่รอดแล้วจึงถูกนำมาเทไว้ให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว จนตัวเขานั้นไปพบเข้าและรีบพาน้องไปรักษาและชุบชีวิตเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า นี่ครับกำนัน สงกรานต์ ที่เจ้าของเดิมนึกว่าน้องหมดลมหายใจไปแล้ว แล้วนำไปเทไว้ที่กองขยะเพราะตัวน้องป่วยด้วยโรคพยาธิ แถมไตวายเฉียบพลันขาหลัง 2 ข้างไม่มีแรงเดินบริเวณนั้นมีหมาจรอยู่หลายตัวที่ผมคอยให้อาหารอยู่ทุกวัน เจ้าสงกรานต์โดนหมาจรบริเวณนั้นฟัดแต่ผมช่วยไว้ได้ทันวันนั้นเป็นวันที่ 13 เมษายนซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ตัวผมนำสงกรานต์ขึ้นรถออกจากกองขยะ และระหว่างทางฝนก็เกิดตกตลอดแถมสองข้างทางเขาเล่นน้ำสงกรานต์กันผมกับสงกรานต์เปียกทั้งสองคนเลยครับ   ปัจจุบันกำนันสงกรานต์สุขภาพร่างกายแข็งแรงดีเยียมเลยครับ ผมกราบขอร้องทุกๆคนครับ คนที่เลี้ยงหมาถ้าไม่พร้อมไม่รักจริงอย่าเลี้ยงเลยครับยามเจ็บยามป่วยรักษาเขาเถอะ ดูแลเขาเถอะครับ จากเพจ มะหมาผู้น่ารัก ปัจจุบันสงกรานต์เป็นหมาผู้สง่างาม เพราะได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าของโพสต์เป็นอย่างดี จากหมาที่ใกล้สิ้นลมแต่ปัจจุบันเติบใหญ่จนจำแทบไม่ได้เลย...

ได้ยินเสียงพ่อค้าตะโกนบ้านแทบแตก บอกให้ไปขอเงินแม่หลังถูกเจ้าเหมียวบุก

เมื่อชีวิตเกิดมาต้องดิ้นรนให้ผ่านพ้นวัน ชีวิตฉันเกิดมาหาเช้ากินค่ำไปแต่ความเป็นทาสในตัวก็ไม่พ้นไปไม่ว่าไปไหนก็พบเจอต้องแวะเล่นด้วยเสมอมา หลังจากหลงเข้าซอยปิดชีวิตก็เปลี่ยนพลันเมื่อถูกมาล้อมไม่ได้ไปต่อกันจึงตะโกนบอกวันให้ไปขอเงินแม่มา เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ดวงกมล เลือดแดง ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวของตัวเขาซึ่งอยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงพ่อค้าตะโกนดังบ้านแทบแตก ให้ไปเร็วไปขอเงินแม่มาก่อน ด้วยตัวเธอเองก็ตกใจใหญ่รีบวิ่งไปออกมาดูหน้าบ้านตัว เห็นพ่อค้ายืนหัวเราะใหญ่ ด้วยตัวใจหลงเข้าซอยปิดและถูกเจ้าเหมียวของตัวเธอปิดล้อมรถเอาไว้ไม่ให้ไปขายต่อ เพราะเธอได้เลี้ยงน้องเอาไว้แบบเปิดน้องๆจึงสามารถจะเดินไปมากันได้อย่างสะดวกและบริเวณหน้าบ้านเองก็รถไม่ได้เยอะจึงไปยืนล้อมลุงขายผลไม้ไว้ด้วยเข้าใจว่าเป็นรถมาขายปลาทูแทน ส่วนพ่อค้าเองก็เป็นทาสแมวจึงได้ยืนยิ้มพร้อมรับความน่ารักอย่างจำนนของเจ้าเหมียวเมื่อพวกเขาได้มายึดขึ้นรถผลไม้ของลุงแกเอง ด้วยเรื่องราวก็ได้สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนในกลุ่มเป็นอย่างมาก เพราะความฉลาดและน่ารักของผู้เป็นทาสแม้แต่ลุงขายผลไม้ ซึ่งเพื่อนๆในกลุ่มเองก็ได้บอกว่าน้องน่าจะคิดว่าลุงขายปลาทูหรือป่าวเลยบุกขึ้นรถลงไป ส่วนลุงเองก็อยากจะเล่นกับแมวแหละดูออกอยู่ แต่ยังไงเราก็อยากจะให้เลี้ยงพวกเขาเอาไว้แต่ในบ้านหรือหากถ้าจะให้ออกมาก็อยากจะให้อยู่ในสายตาจะได้ไม่เป็นภัยต่อตัวพวกเขาเอง ที่มา ดวงกมล เลือดแดง

สุนัขที่เขาไม่ต้องการ ถูกเขาใส่กระสอบนำมาวางไว้ที่ตีนเขา แม้จะแสนรู้แต่ก็ไม่ใช่ที่ต้องการของใครๆ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Rak Sujinda ได้เผยเรื่องราว ของเจ้าบูลี่ เจ้าบูลี่เป็นหมาจรที่ทางผู้โพสต์เล่นด้วยกันทุกวัน ตั้งแต่น้องอายุไม่ถึง 2 เดือน แต่จู่ๆน้องกลับถูกเขาใส่กระสอบแล้วเอาไปปล่อยไว้ แม้ว่าน้องจะไม่ใช่หมาของเธอก็ตาม แต่เธอก็พยายามตามหาหวังลึกๆว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง ถ้าเจอกันจะตั้งใจเลี้ยงอย่างดี . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มองทีไรก็ชื่นใจ ที่ต่อชีวิตให้ 1 ชีวิต น้องหมาตัวนี้มีชื่อว่าบูลี่ เราเจอตอนไปออกกำลังกายที่สถานที่ราชการแห่งหนึ่ง เจอน้องตั้งแต่น้องอายุได้ประมาณ 2 เดือนเล่นด้วยกันทุกวัน เรามีหมาที่บ้านเยอะแล้วเลยพยายามหาบ้านให้แต่ไม่มีคนสนใจ พอไปอีกทีมีคนบอกเขาเอาน้องใส่กระสอบไปปล่อยที่ตีนภูเขา...

ต้องเจ็บปวดนั่งหน้าเศร้าด้วยทนทุกข์ ไม่มีสุขมีสันเหมือนใครเขา ด้วยเป็นจรที่เจ็บก็ต้องอดทนเอา

เพราะด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ให้หลายๆชีวตต้องเกิดมาทนทุกข์ยากกับความลำบาก แม้หากว่าใครก็อยากที่จะเกิดมาสุขสบาย แต่ในเมื่อชีวิตเลือกเกิดมาไม่ได้ก็ต้องจำทน เพราะด้วยตนนั้นเป็นจรจึงไร้แม้ใครจะเมตตาได้แต่นั่งเฝ้านอนเฝ้าอดทนกับความเจ็บ ด้วยก็เจ็บแต่จะไปบอกใครเขาถึงช่วยหา แค่ได้มีชีวิตมีลมหายใจอยู่ต่อก็เกินอุราจะเรียกหาบอกใครเขาจะมาฟัง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า คัมภีร์ เพ่งผล ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เขาได้พบน้องนั่งหน้าเศร้าตาละห้อยอยู่เพียงลำพัง ด้วยตัวนั้นเป็นเพียงจรที่ต้องเจ็บ แต่ก็ไร้แม้ใครเขาจะมาสนใจ โดยเขาเองก็อยากจะเข้าช่วยเหลือน้องแต่ก็ขาดทุนทรัพย์ซึ่งดูจากภายนอกน้องน่าจะเป็นเนื้องอกที่หน้าอก แต่ก็ต้องอดทนอยู่กับความเจ็บปวดและแสนจะยากลำบากเพราะด้วยตนเป็นเพียงจรที่ไม่มีบ้านหรือเจ้าของ จึงได้แต่นั่งมองว่าเมื่อไหร่จะถึงวันสิ้นลม   ซึ่งเขาจึงได้นำเรื่องราวของน้องมาลงในกลุ่ม ทาสแมวจร หาบ้าน ช่วยเหลือแมวจรเจ็บป่วยด้อยโอกาส เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในกลุ่ม เพราะหากปล่อยเอาไว้น้องก็คงจะต้องสิ้นใจในเร็ววัน โดยเขาเองก็ได้ระบุพิกัดที่น้องอยู่เอาไว้ที่ แถวๆบางแค และหากว่าเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะเมตตากับชีวิตน้อยๆที่ใกล้จะหมดลมนี้ ก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ ด้วยทั้งนี้เขาเองก็ได้อัพเดทเพิ่มเติมเอาไว้ว่าน้องไม่ได้อยู่กับเขาน้องน่าจะอยู่ในสถานที่ที่น้องได้อยู่ และเขาเองก็ได้พบเห็นน้องเขาจึงได้มาขอความช่วยเหลือ ขอเพียงแค่ความเมตตาที่จะได้ไม่ต้องมานั่งทนกับความเจ็บปวดก็เกินพอ ขอขอบคุณข้อมูลจาก...

กำลังขึ้นรถตามองเห็นมานั่งมองหน้า นึกด้วยสายตามองใยละมุดไม่เห็นแมวขึ้น 10 ล้อหรอ

หากได้เลี้ยงหรือเคยได้สัมผัสมาก็จะได้รู้ว่าแมวเป็นสัตว์ไม่ค่อยจะสนใจโลกหรือสนใจใครเขา ด้วยความอินดิ้ในตัวเอง และบางเวลาพวกเขาก็จะทำเหมือนไม่สนใจแต่ในใจลึกๆก็รู้และคอยฟังอยู่เสมอ แต่ก็จะเลือกว่าจะทำเป็นรู้หรือไม่ เราจึงเคยได้เห็นว่าแมวเคยช่วยเด็กมาหลายครา เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Momild MN US ได้โพสต์เรื่องราวเมื่อเขาได้ไปพบเจอเจ้าเหมียวในขณะเขากำลังจะเดินขึ้นรถเพราะลงไปห้างของบิ๊กซีมา และเมื่อถึงรถของตัวก็กำลังจะก้าวขาขึ้นแต่ตาก็หันไปเหลือบมองเห็นเจ้าตัวอ้วนกำลังนั่งจ้องมองมา ซึ่งตอนแรกเขาก็ใจหายเพราะเห็นเป็นตุ๊กตามาวางไว้ แต่พอดูไปเป็นแมวจริงเฉย ด้วยน้องก็มองมาเหมือนกำลังจะบอกว่า มองในละมุดไม่เคยเห็นแมวขึ้น 10 ล้อหรอ ด้วยเธอเองก็เลยเก็บความน่ารักไว้และนำมาลงกลุ่มรักหมาทาสแมว โดยระบุข้อความไว้ว่า "มองไรอะมะนุดไม่เคยเห็นแมวรถ 10 ล้อหรอ *เจ้าของรถอยู่นะคะอยู่ข้างๆสตาร์ทไว้ไม่ได้เทน้องพี่เขาลงมาของบิ๊กซีตรงบ้าน" ด้วยน้องๆเองก็อยู่บนรถและตัวเจ้าของเองก็อยู่ข้างๆรถและลงมาบิ๊กซีไม่ได้เทน้องไว้ในรถและยังสตาร์ทรถไว้ให้น้องด้วย เพราะในบางช่วงชีวิตทาสอย่างเราก็ไม่ได้อยู่สุขสบายเสมอไป แต่เจ้าอ้วนบนรถสองตัวดูท่าว่าจะสบายมากๆเลยแต่ก็เมื่อรับมาเลี้ยงดูแล้วก็ควรจะดูแลและเลี้ยงพวกเขาให้ดี เพราะหากให้อยู่บ้านกันสองตัวก็คงจะเป็นห่วงอีกเลยพาแบกมาด้วยเลยน่ารักมากๆ ที่มา Momild...

แมวตัวน้อยฮึดสู้ชีวิตอีกครั้ง หลังป่วยตั้งแต่เกิดตาก็มองไม่เห็นแถมชีวิตนี้ก็เข้ากับเพื่อนไม่ได้

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Malinee Saithong‎ ได้เผยเรื่องราวของแมวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวตัวนี้มีโรคประจำตัวมาตั้งแต่เกิด ขนาดหมอเองยังบอกกับเธอว่าแมวของเธอจะมีอายุที่สั้น แถมป่วยตั้งแต่อายุไม่ถึงเดือนเข้ากับเพื่อนแมวตัวอื่นๆก็ทำไม่ได้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรามีประสบการณ์ที่เขาเจอมาเล่าให้ฟังเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่อยู่ในสถานการณ์แบบเรา กว่าจะเลี้ยงแมวตัวนี้ให้โตมันไม่ง่ายเลย น้องป่วยตั้งแต่เกิด เป็นเด็กหัวแตงโม หมอบอกอายุน้องจะสั้น น้องได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเกิด อายุยังไม่ถึงเดือน ตาน้องมองไม่เห็นน้องไม่อาจเข้ากับพี่น้องตัวอื่นได้ไม่สามารกินนมแม่ได้เพราะตามองไม่ค่อยเห็น โรงน้องต้องกินยากดภูมิไม่ให้หัวโต และก็กินยาบำรุงสมอง น้องอายุยังไม่ถึงเดือนก็มาเป็นเชื้อราหนักมากรักษาไม่ได้เพราะน้องยังเด็กน้ำหนักตัวยังน้อยมากๆ น้องก็อยู่สภาพนี้ไปจนถึง 2 เดือน แมวที่เลี้ยงไว้ที่บ้านก็ติดไข้หัดจนสิ้นใจ แต่โชคดีน้องไม่ติด อยู่มาเรื่อยๆจนอายุ 3...

เขาไม่ชอบเพราะรูปลักษณ์ภายนอก จนถูกบอกให้เอาไปปล่อยไว้วัดเหมือนปีศาจ

และนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งชีวิตที่เลือกจะเกิดมาไม่ได้ เพราะชีวิตนั้นต้องเกิดมาดิ้นรนกับสิ่งที่ตนต้องเจอ โดยหลายๆคนอาจจะเชื่อว่าชะตากรรมเป็นตัวแปลเมื่อได้ทำสิ่งต่างๆจากภพชาติที่เคยได้ทำไว้ ชาตินี้จึงต้องเกิดมารับกรรมแต่ก็ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์อย่างเราๆเพียงเท่านั้นแม้แต่สัตว์เองก็เช่นกัน เชกเช่นเดียวกับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Rungprakai Theparee ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่มีชื่อว่าเจ้า หมึก ตัวนี้ลงในกลุ่มชมรมคนรักแมวเหมียว หลังจากที่เขานั้นได้พบน้องกำลังจะถูกนำไปปล่อยเพราะรูปลักษณ์ของน้องที่เกิดมา มีขนไม่ทั่วตัวเป็นหนังๆ ซึ่งผู้โพสต์เองก็ไม่รู้ว่าน้องเป็นแมวพันธุ์อะไรกันแน่ แถมตาก็ยังมองเห็นเพียงแค่หนึ่งข้างเพียงเท่านั้น จึงทำให้ผู้เป็นเจ้าของเขาไม่ชอบเพราะด้วยความน่ารังเกลียดเพราะเหมือนปีศาจจึงจะถูกนำไปปล่อย โดยเธอได้ไปพบเจอเข้าจึงเกิดความสงสาร และได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเอาไว้อีกทั้งน้องยังมีการผิดปกติเพราะท้องป่องๆแต่กลับเห็นกระดูกสันหลัง ซึ่งทั้งนี้เธอเองก็มีแมวอยู่แล้วกว่า 40 ตัวแต่ก็ยังเลือกที่จะเอามาไว้ที่บ้านก่อนเพราะคิดว่าให้กินอยู่อย่างตามมีตามเกิดก็ยังจะดีกว่าปล่อยให้ไปเร่ร่อนนอนอดอยาก ซึ่งถ้าถูกนำไปปล่อยแล้วสน้องก็คงจะคิดถึงผู้เป็นเจ้าของ อีกทั้งถ้าถูกนำไปปล่อยวัดจริงๆก็คงจะไม่รอดเพราะถูกปล่อยทิ้งๆขว้างๆไหนจะหมาไหนจะคน โดยทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะเข้าช่วยเหลือน้องหรืออยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นมีที่ให้หลบฝนหลบแดดไม่ต้องมาถูกเขารังเกลียดเดียดฉันว่าฉันนั้นเป็นแมวผีแมวปีศาจ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Rungprakai Theparee

ต้องกลายเป็นแมวจร เดินเร่ร่อนขอข้าวเขากินเพราะพ่อจากไปแบบไม่ทันตั้งตัว

เรามักจะย้ำเตือนบอกกับเพื่อนๆเสมอว่า การนำแมวหนึ่งตัวมาเลี้ยงนั้นก็เท่ากับการรับเด็กตัวน้อยๆมาเลี้ยงที่เราจะต้องรับผิดชอบต่อภาระในหนึ่งชีวิตที่เราจะต้องดูแลพวกเขานั้นตลอดไป ซึ่งถ้าหากไม่พร้อมจริงๆก็ไม่ควรที่จะเอาพวกเขามาเลี้ยงตั้งแต่แรก หรือว่ายิ่งถ้าเกิดปัญหาเลี้ยงร่วมกันกับแฟนแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาถ้าพวกคุณเลิกกันก็คือตัวเจ้าเหมียวเอง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า เจ้าเหลือง หลังจากเจ้าเหลืองนั้นต้องกลายเป็นแมวจรแบบกะทันหัน ซึ่งเหลืองนั้นเคยเป็นแมวมีเจ้าของรูปร่างหน้าตาดีกำยำหล่อในแบบแมนๆ โดยโศกนาฏตกรรมของเหลืองนั้นได้เริ่มขึ้นในวันที่พ่อของเหลืองนั้นได้ผูกคอจนสิ้นใจ ใช่แล้วล่ะอ่านไม่ผิดหรอกพ่อของเหลืองได้คิดสั้นแล้วจากไปเพราะทะเลาะกับแม่เหลือง แล้วเขาก็ได้จากไปในกลางดึกคืนนั้น ซึ่งจากวันนั้นแม่ของเหลืองเองก็ได้ย้ายออกไปจากบ้านเกือบจะในทันที จนเหลืองต้องกลายมาเป็นแมวพเนจร เข้าบ้านนั้นทีออกบ้านนี้ที แต่ก็ยังมีคนใจดีได้คอยให้อาหารให้กับเหลืองได้ประทังชีวิตได้บ้าง โดยเหลืองจะอาศัยชายคาบ้านว่างในหมู่บ้านนอน แต่ทว่ากิจวัตรประจำวันของเหลืองนั้นก็ไม่เคยเปลี่ยน เพราะเราจะเห็นว่าช่วงเช้าช่วงค่ำเหลืองจะเดินจากแถวบ้านที่เคยอยู่ไปยังท้ายหมู่บ้าน แต่ทว่าก็ไม่รู้ว่าเหลืองนั้นไปไหนแล้วก็ยังคงจะกลับไปนอนยังบ้านเดิมที่เคยอยู่ ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็มีอาหารติดรถไว้เสมอเพราะเวลาที่เข้าออกหมู่บ้านถ้าเจอก็จะเอาอาหารเข้าไปให้ตลอด ซึ่งก็อยากที่จะให้เหลืองได้มีบ้านได้มีครอบครัวใหม่ โดยทั้งนี้หลังจากที่โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปเหลืองก็ได้บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็หวังว่าเหลืองจะมีความสุขกับครอบครัวใหม่นะลูกนะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kitchanan Payomyong

ถูกปล่อยให้อยู่ในห้องเพียงลำพัง ไร้น้ำไร้อาหารจะตกถึงท้องได้แต่ลงไปนอนหอบกับพื้นด้วยใจหวังว่าเจ้าของจะกลับมา

เพราะความรับผิดชอบของมนุษย์ในแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ยามมีอยากจะได้อยากจะรักก็สรรหา ยามเหนื่อยคิดเป็นภาระก็ไร้แม้ความเมตตาไม่เคยนึกหาถึงตอนรักสมัครใจเลย อาจด้วยเพราะมนุษย์เรานั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เห็นแก่ตัวที่สุดในโลกทำให้หลายชีวิตนั้นต้องถูกปล่อยให้ใช้ชีวิตอย่างเร่ร่อน เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เฮ้ ไฮดร้า ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้มาโพสต์ลงในกลุ่ม WATCHDOG THAILAND หลังจากที่เขานั้นได้พบน้องเขา ในห้องแห่งนี้หลังจากที่ผู้เป็นเจ้าของของน้องนั้นเลิกเช่าห้องไปแต่แล้วกลับปล่อยน้องไว้ไม่ยอมเอาไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือน้องไม่มีแม้น้ำหรืออาหารแต่กลับถูกขังเอาไว้ภายในห้องเหมือนกับไร้ชีวิต ไม่รู้ว่าจิตใจของผู้เป็นเจ้าของรายนี้นั้นทำด้วยอะไรทำไมถึงทำกับสิ่งมีชีวิตที่เคยรักและเลี้ยงมาได้ลงคอ โดยเมื่อผู้โพสต์นั้นเข้าไปพบน้องก็พบว่าน้องมีอาการหอบอยู่ตลอดเวลา ซึ่งน่าจะมาจากอาการของการขาดน้ำและสารอาหารเพราะในห้องนั้นไม่มีแม้น้ำหรืออาหารไว้ให้น้องเลย และพบแต่ทรายแมวที่เต็มไปด้วยของเสียอยู่ที่ริมระเบียง ผู้โพสต์จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงยังกลุ่มเพื่อที่จะหาคนดูแลน้องโดยได้ระบุพิกัดเอาไว้ด้วย น้องอยู่ที่ พิกัดลำลูกกาคลอง 8 ปทุมธานี ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปยังที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นเจ้าของที่จะรับและไม่ปล่อยให้หนูต้องอยู่ลำพังแบบนี้อีก และก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ว่าก่อนนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงก็คิดให้ดีก่อนที่จะรับพวกเขามา เพราะอย่าได้ลืมไปว่าพวกเขาก็มีหัวใจรักได้คิดถึงคนเป็นเหมือนกับเรา ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฮ้ ไฮดร้า