สัตว์โลก

เพราะชีวิตการเกิดเป็นจรพวกเขาไม่สามารถจะเลือกได้ ทุกข์ลำบากมากมายต้องทนอยู่แม่หัวอกคนเป็นแม่ต้องเที่ยวเดินเฝ้าคุ้ยหาให้กับลูกน้อยประทังหิวเพราะถ้าตัวไม่มีอะไรกินก็จะไร้น้ำนมให้กับลูกได้อิ่มหรือพอประทัง ยังไม่พอถูกเขาสั่งติดป้ายห้ามให้อีก เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า วันทนา เปรมอนันต์ ได้โพสต์เรื่องราวหาบ้านให้กับน้องเปอพลูกอ่อน อยู่ตรงนี้กระเสือกกระสนดิ้นรนคุ้ยขยะหาเพราะเค้าห้ามให้อาหารพี่ใจดีไปเห็นมีกัน 4-5 ตัวเด็กๆแล้วก็แม่ลูกอ่อน กำลังคุ้ยเศษขนมปังกินประทังชีวิต แม้ไม่รู้ว่ามีลูกอ่อนด้วยเลยติดต่อกับทางพี่ยุ้ยให้ช่วยจับเด็กๆให้พ้นตรงนั้นอย่างน้อยก็ยังมีกินก่อนแต่ไปเจอแม่ลูกอ่อนคอกนี้ ท่านใดพอจะมีเนื้อที่ในบ้านเหลือมีกำลังและเมตตาเด็กให้ที่หลบภัยเมตตาด้วยนะคะ ส่งให้นะคะทางเธอร้อยกว่าตัวแล้ว และตอนนี้ก็หากินยากเลยอยากจะให้น้องมีชีวิตที่ดีบ้างเด็กๆจะได้แข็งแรง ขอความสุขในบั้นปลายชีวิตให้กับ 6 ชีวิตน้อยๆนี้ด้วยนะคะ ตอนนี้จะรับมาพักที่มีนบุรีคะคู้ขวา แล้วเธอจะไปตามหาอีก 2-3 ตัวที่เหลือขอให้เมตตาน้องด้วย เพราะชีวิตพวกเขาไม่สามารถจะเลือกเกิดมาได้ ทุกข์ลำบากยากมายต้องทนอยู่หาประทังชีวิตให้กับลูกน้อยเขา เพราะแม้แต่เกิดมาเป็นสัตว์ยังมีหัวอกของความเป็นแม่ในใจเขา คนเราก็ช่างไร้น้ำใจหรือคิดว่าให้พ้นไปจะได้ไม่ต้องเห็นดี และถ้าใครอยากจะรับแม่ลูกหรือพอจะมีที่ในบ้านเหลือช่วยจุนเจือหนึ่งชีวิตที่มีความเป็นแม่และลูกน้อยก็สามารถติดต่อไปได้กับทางต้นโพสต์ได้เลย ที่มา วันทนา...

ถ้าจะเลี้ยงแมวสักตัวเราอยากให้คุณเลี้ยงแมวระบบปิด เพราะถ้าเกิดว่าน้องหายขึ้นมามันคงจะเป็นเรื่องยากที่น้องจะเดินกลับมาที่บ้านเอง ได้แมวแสนรู้ก็โชคดีไป แต่ถ้าได้แมวไม่รู้ความน้องจะหายไปตลอดกาล . เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวดังกล่่าวนี้ ที่ดูยังไงๆน้องก็เคยมีบ้านมาก่อน เพราะด้วยขนาดตัวที่ใหญ่และสะอาดสะอ้าน โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Phonchita Soda ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มประกาศหมาแมวหายในจังหวัดภูเก็ต อันมีใจความระบุว่า น้องแมวใครหายไปบ้างไหมค่ะ น้องโดนหมาเจ้าถิ่นไล่ฟัดมาเมื่อคืน จนตอนนี้น้องก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ยอมไปไหนเลย น้องทั้งกลัวและไม่กล้าขยับไปไหนได้แต่นอนบนกำแพงที่ตัวคิดว่ามันเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดในชีวิต หากท่านเป็นเจ้าของเราอยากให้คุณรู้ไว้ว่าน้องยังรอคุณอยู่หวังว่าจะได้กลับบ้าน พิกัดซอยน้ำตกกะทู้ค่ะ ชาวเน็ตทาสแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมโพสต์รูปภาพแมวหน้าเหมือนที่เจ้าของกำลังตามหาอยู่ แต่ก็ต้องผิดหวังไปว่าน้องแมวที่เขาตามหาไม่ใช่น้องแมวตนนี้ ที่มา Phonchita Soda

ด้วยความรักเราเลี้ยงดูแลเขามายามเจ็บมายังเฝ้ารักษาให้หายดี เพราะเลี้ยงแล้วก็รักจะให้ใครมาแทนที่ยังพาไปหาหมอทีเขาบอกลูกจะเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต เพราะ 5 เดือนก่อนเป็นแมวสันหลังสั้นอยู่ดีๆลูกก็เดินไม่ได้ใจแม่สลายพยายามรักษาพาไปหาหมอและแม้แต่หมอก็ยังบอกว่าหมดหวัง เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ดาว ดาว ได้โพสต์เรื่องราวมีใครจำน้องได้มั้ยน้องเป็นแมวหลังสั้นที่น้องอยู่ดีๆน้องก็ไม่ยอมเดินยอมใช้ขาหลังเดิน เธอพาไปหาหมอมาหลายหมอก็ไม่หาย หมอบอกน้องคงจะเดินไม่ได้อีกแล้ว แม้จะคิดไว้ตลอดว่าน้องคงไม่ใช้ขาหลังคงไม่กลับมาเดินอีกแล้ว เพราะไม่รู้จะทำยังไงแล้วหมดหนทางแล้วจริงๆ เธอเลยลองขอกับศาลเจ้าพ่อว่าขอให้ลูกกลับมาเดินได้อีกครั้งลูกจะเอาหัวหมูกับเหย้ามาไหว หลังจากผ่านไป 5 เดือนอยู่ดีๆน้องก็กลับมาเดินได้อีกครั้งเฉยเลยคะ คือทุกคนในบ้านก็ดีใจมากๆเพราะไม่คิดว่าน้องจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้น้องแมวกลับมาเดินได้อีกครั้ง ซึ่งก็มีคนเข้ามาถามกับเธอเยอะว่าทำไมน้องถึงเดินไม่ได้เธอก็บอกเอาไว้ว่าเป็นด้วยสรีระของน้องทำให้มีสันหลังสั้นและน้องก็เลยไม่ยอมเดินไปเป็นเวลานานถึง 5 เดือนแล้วอยู่ๆก็กลับมาเดินได้อีก เพราะบางคนอาจจะมองเป็นเรื่องของความเชื่อและไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่ยามเราขับขันถ้ามันเกิดขึ้นกับเราคนเป็นพ่อเป็นแม่ซึ่งเลี้ยงดูแลพวกเขามาแล้วเราก็คงจะพยายามหาทุกทางทำให้ลูกกลับมาหายเป็นปกติหรือเดินได้อีก เราก็เป็นกำลังใจให้น้องหายไวๆและกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติสุขนะลูกนะ ที่มา ดาว ดาว

โดยปกติแล้วแม่แมวนางจะรักลูกเหนือสิ่งอื่นใด พวกนางจะไม่ยอมไปไหนจนกว่าลูกน้อยจะเริ่มโตแล้ว แต่สำหรับเรื่องราวดังกล่าวนี้แม่แมวกลับคาบลูกเอามาวางไว้บนที่นอน แล้วตัวก็ไปเดินเล่นลั้นลาข้างนอกบ้าน จนพ่อบุญธรรม(แมว) ต้องมานั่งเลี้ยงดูแทน . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Elisha Ngs ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า ลำยองหรือทองเนื้อเก้าจะมาสู้โสภิตนภาได้ยังไง! คุณโสภิตแกออกลูกมาทั้งหมด 4 ตัว ตัวแม่เป็นสีส้มแต่ลูกๆของนางไม่มีเลยสักตัวที่ออกมาเป็นสีส้ม แต่พี่แกมาเหนือคาบลูกตัวเองทั้ัง 4 ให้มานอนอยู่บนที่นอนประจำของ "พี่เดชบดินทร์" ไอ้ต้าวก้อนทั้ง 4 ก็รู้งานนักพวกนางพากันนอนกลิ้งไปกลิ้งมา กลิ่นติดกัน พี่เดชแกก็คิดว่าลูกตัวเองซะงั้น ตอนนี้หน้าที่พี่เดชคือคอยเลียให้ลูกเขา ดูแลประหนึ่งเป็นลูกของตัวเอง...

ชีวิตแมวจรนั้นแสนลำบาก ไหนจะสัตว์จรที่จ้องจะเล่นงาน ไหนแม่จ๋าจะคาบลูกมาไว้บนหลังคา จนตัวน้องนั้นตกลงมาจนเกือบไม่รอด เพราะแม่ก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เหมือนกับชีวิตน้องแมวตนนี้ ที่เธอเก็บน้องมาเอามารักษาและดูแล .   โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : จุฑารัตน์ สิริกรรณะ ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มคน ช่วยเหลือสุนัขและแมว อันมีใจความว่า ตอนนี้ไม่รู้จะทำไงแล้วเหมือนกันค่ะ เราก็คงจะทำได้เพียงเท่านี้คิดว่าทำดีที่สุดแล้ว ต่อไปก็คงต้องสุดแล้วแต่เวรแต่กรรมละกันนะ หลังเธอได้พบเจอกับลูกแมวจรตกลงมาจากหลังคาห้องน้ำ ก่อนหน้านี้น้องเป็นอะไรไม่รู้ไม่กินและไม่นอนเลยตลอด 2 คืน เธอก็เก็บมาเอามารักษาและดูแลเบื้องต้น ถ้าหากมีใครอยากรับน้องไปดูแลต่อก็ทักส่วนตัวมาได้เลยนะคะ เพราะทางผู้โพสต์เองก็พยายามแล้วที่จะให้น้องอยู่รอดปลอดภัย แต่ถ้าไม่มีคนรับไปก็คงต้องปล่อยไปตามยถามกรรม หากท่านใดอยากรับน้องไปลองทักไปหาได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะ น้องยังรออยู่หวังว่าจะมีบ้านสักครั้งในชีวิต ที่มา...

หากว่าไม่เคยได้เลี้ยงพวกเขาแล้ว ก็จะไม่รู้ว่าชีวิตทาสแมวในตอนกลางคืนมันยากลำบากมากเพียงใด ซึ่งถ้าเราเลี้ยงพวกเขาเอาไว้ด้วยระบบปิดที่ปล่อยให้สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ทั่วบ้านแล้ว แม้แต่ห้องนอนคุณก็อาจจะไม่ได้หลับสนิทตลอดคืน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า แมวกุนเชียง Cat story ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เขากำลังที่จะเข้านอนในแต่ละคืน ซึ่งการนอนหลับของเขาในแต่ละคืนด้วยความยากลำบาก เพราะทุกๆครั้งที่เขาได้ปิดไฟและล้มตัวลงนอนก็จะมีบางสิ่งเริ่มเคลื่อนไหว แม้ยามจะหลับตาลงไปแล้วเจ้าเหมียวก็จะมาคลอเคลียด้วยปลุกให้ตื่นเพื่อไปเล่นเป็นเพื่อน แต่เมื่อเขาพยายามไล่ไปเจ้าเหมียวก็จะทำมากขึ้น แม้ว่าคุณจะพยายามหนีมันก็จะตาม ยิ่งคุณไล่มันไปมันก็จะกลับมา ซึ่งหลังจากการที่พยายามปลุกพ่อไม่สำเร็จ เจ้าเหมียวก็นึกหาหนทางที่จะทำให้พ่อตื่นขึ้นมาเล่นด้วยให้ได้ เมื่อนึกออกแล้วเจ้าเหมียวตัวร้ายก็วิ่งไปที่กรงของลูกแมว เมื่อไปถึงแล้วก็จดๆจ้องๆอยู่พักใหญ่ พอเสร็จเจ้าเหมียวก็เอาขาหลังวิ่งให้เกิดเสียงดังขึ้น ซึ่งเขาและแฟนที่กำลังเริ่มที่จะหลับสนิทก็สะดุ้งตื่นลุกขึ้นมานั่ง โดยเขาเองได้บอกว่า และนี้ก็เป็นที่มาของคำว่า สวัสดีตีสอง เป็นสิ่งที่ทำให้เขาต้องตื่นสายและกว่าจะได้นอนในแต่ละวันมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยจริงๆ ซึ่งหากใครคิดที่จะเลี้ยงก็ควรที่จะเตรียมความพร้อมให้ดี เพราะแมวในตอนกลางคืนพวกเขาจะตื่นแต่กลางวันพวกเขาจะหลับ ที่มา แมวกุนเชียง...

เพราะจากการเลี้ยงดูให้อยู่ในบ้านแล้วนอกจากจะได้ความปลอดภัยจากน้องแล้วยังได้ความสบายใจของคนเป็นทาสด้วย เพราะโลกภายนอกเรามองเห็นว่าปลอดภัยดีความเป็นจริงแล้วกับน้องแมวซึ่งพวกเขาเป็นสัตว์เล็กๆมีภัยมากกว่าเราคิดไว้เสมอไหนจะรถไหนจะคนไหนต่างๆนาๆ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Skylab Jeans Loso Lanna ได้โพสต์เรื่องราวเริ่มเบื่อของฝากจากแมวและขอวิธีรักษาดูแลตัวเองและแมวด้วย ด้วยเขาเลี้ยงน้องมาประมาณปีกว่าๆแล้วเลี้ยงระบบปิดมาตลอด แต่ล่าสุด 2 เดือนที่แล้วน้องหลุดออกไปเที่ยวนอกหอ กลับมาเลยเช็ดตัวให้น้อง เพราะน้องไม่ชอบการอาบน้ำทำความสะอาดนักเลยใช้ผ้าเช็ดฝุ่นเศษดินออกสักพักผื่นก็ขึ้นตัว ซึ่งผื่นขึ้นหลังจากการเช็ดตัวให้น้องแมวหรือว่าการสัมผัสน้องแมวนานๆ ผื่นจะขึ้นตลอดแม้จะกินยาแก้แพ้เป็นแผง กินประคองอาการไปผื่นก็จะหายไปประมาณ 2 วันแต่ขึ้นมากก็ไม่กิน จะกินเฉพาะวันผืนขึ้นเยอะๆและหนักๆ ซึ่งก่อนหน้าแมวจะแอบหลุดออกไปนอกหอ แมวก็มีหมัดแมวหรือป่าวเขาก็ไม่แน่ใจแต่ว่ามีไข่หมัดแมวอยู่ เพราะตัวหมัดแมวไม่เคยเห็นแต่บนพื้นจะเป็นเม็ดๆตกอยู่เอานิ้วไปแตะดูมันก็จะแตก น่าจะเป็นไข่อะไรสักอย่างนึง แม้เขาจะซื้อยาหมัดแมวอะไรมาหยอดปกติทุกเดือน พอแมวหลุดไปและกลับมาก็มาเป็นผื่นจากไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเลยอยากหาทางรักษาและดูแลตัวเองซึ่งเพื่อนๆเองยังบอกว่าน่าจะเกิดมาจากลมพิดหรืออาการทางผิวหนังซึ่งน่าจะแพ้มาก่อนแล้วและมันอาจจะสะสมมานานด้วย แม้เราจะเลี้ยงดูแลเขาแต่เราก็ต้องดูแลเรื่องความสะอาดให้ดีด้วยเพราะพวกเขาเองก็นอนกับเรากินกับเราแม้เล็กๆน้อยๆก็จะต้องสะอาดเอาไว้ก่อน ที่มา...

เพราะคนเรานั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้ทำให้บางชีวิตต้องเกิดมาพบเจอกับความยากลำบากและต้องทนดิ้นรนเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดไปในแต่ละวัน ยิ่งซ้ำถ้าต้องเกิดมาเป็นสัตว์จรยิ่งแล้วเพราะการที่จะไปร้องขอความช่วยเหลือจากใครเขาก็คงจะทำได้ยาก เพราะไม่มีเสียงเรียกร้องหรือไปบอกกับใครว่าตนนั้นกำลังเดือดร้อน เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้แฟนเพจเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thai Love Animal ช่วยสัตว์ สุนัขและแมวจรจัด ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรรายนี้มาโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ หลังจากที่มีทางลูกเพจของเขานั้นส่งคำขอความช่วยเหลือ หลังจากที่พบน้องติดอยู่บนสะพานตั้งแต่เมื่อวาน จนมาในวันนี้น้องก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน แถมยังส่งเสียงร้องด้วยความหิวกลัวทั้งคงกลัวทั้งรถ ถ้าตกลงมาก็คงจะไม่รอด ซึ่งทั้งนี้ทางผู้โพสต์นั้นได้บอกเอาไว้ว่าเมื่อวานนั้นได้ยินแต่เสียงแต่หาตัวไม่เจอ วันนี้เห็นตัวน้องจึงได้ถ่ายภาพเอาไว้จากบนตึกและอยากจะให้มีคนเข้าช่วยเหลือ เพราะเขานั้นได้โทรไปแจ้งกับทาง 191 แล้วแต่ก็เรื่องก็เงียบหายสนิท ซึ่งทางผู้โพสต์เองจึงนำเรื่องมาร้องกับทางแฟนเพจดังกล่าวเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากทางแฟนเพจหรือมีหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องที่พอจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือน้องได้ก็ขอให้ช่วยเหลือน้องที โดยได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ พิกัด ถนนอรุณอมรินทร์กรุงเทพฯ ซึ่งหากเพื่อนๆท่านไหนอยู่ในบริเวณดังกล่าวที่พอจะช่วยเหลือน้องได้ก็วอนให้ช่วยเหลือทีเพราะในตอนนี้ก็ติดสถานการเคอร์ฟิวส์ทำให้หน่วยงานต่างๆก็ไม่สามารถที่จะออกนอกพื้นที่ได้ในเวลาหลัง 4 ทุ่ม ล่าสุดอัพเดทเวลา 01.25...

เพราะหนึ่งชีวิตเขาเกิดมาแล้วเคยถูกเลี้ยงดูคุณเองก็เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเขา ยามหมดรักแล้วตัวคงคิดถึงและยังเศร้านั่งเฝ้ารอเขาหวังกลับมารับอยู่ที่เดิม แม้วันเวลาผ่านเดือนจะผ่านพ้นยังเฝ้าทนแม้หิวจะอดหวังได้พบ ยังเฝ้ารอคอยนานนับให้ผ่านพ้นหวังใจคนเป็นพ่อกลับมารับที่เดิม เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pawarid Kongkaew ได้โพสต์เรื่องราวน้องหมาหลังเจอน้องนั่งตากฝนรอผู้เป็นเจ้าของอยู่ท่ามกลางป่าหลังวัดญาณ ไม่แน่ใจว่าหลงมาหรือถูกเขาเอามาเทไว้น่าสงสารมาก เขาเองก็ไม่สะดวกที่จะดูแลน้องได้ใครสะดวกหรือใจบุญช่วยน้องด้วยนะครับ ด้วยชีวิตหนึ่งชีวิตถูกเลี้ยงดูมาเหมือนเป็นลูกมีพ่อแม่ยามถูกเขาเอามาเทไว้ตัวยังเฝ้ารอเขากลับมารับอยู่ที่เดิมแม้หิวข้าวก็อดทนผอมจนไม่เหลืออะไร กลัวออกไปหาข้าวปลาแล้วคนเป็นพ่อกลับมารับจะไม่เจอตัว เลยได้แค่นั่งเฝ้ารออยู่อย่างงั้นไม่ยอมไปไหนหวังในใจเขาต้องกลับมาหาแน่ เพราะมนุษย์เราเองเป็นสัตว์ที่เห็นกับตัวมากยามลำบากยอมเทไว้ไม่สนว่าเขาจะต้องอยู่กินยังไง คิดว่าผลักภาระให้พ้นตัวไปหนึ่งด้วยใจนั่งรอร้องไห้นับวันเดือน ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็เลยได้นำน้องกลับมาไว้ก่อนและก็มีผู้ใจดีพาน้องไปหาหมอและรักษาแล้ว และทางผู้โพสต์ก็ได้มาอัพเดทว่าตอนนี้พาน้องมาพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงศรีราชาเรียบร้อนแล้วขอบพระคุณคุณหมออ๋องที่ช่วยประสานงานให้ยามค่ำคืน และถ้าผู้ใดพอจะรู้จักพ่อกับแม่ของน้องหรือเจ้าของอยากจะรับกลับหรือรับเลี้ยงดูก็ติดต่อได้ที่ต้นโพสต์เลย ที่มา Pawarid Kongkaew

ทาสแมวหลายๆท่านอาจจะต้องเหนื่อยถึงเหนื่อยมาก เมื่อต้องพาแมวออกเดินทางไปด้วยกันร่วมระยะทางไกล เพราะโดยปกติแล้วถ้าเราไม่เคยพาแมวมานั่งรถเลยพวกนางจะร้องโวยวายหนักมาก แต่สำหรับการเดินทางของหนุ่มผู้โพสต์ท่านนี้แล้วมันกลับต่างออกไป . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Panatda Nopsanthia ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มแมวจ๋า ทาสมาแล้ว อันมีใจความระบุว่า ครั้งก่อนวิ่งระยะทางแค่ 200-300โล แต่พอมาวันนี้ต้องเดินทางไกล 1300 โล รวมไปกลับแล้วร่วม2600กว่าโลเลยทีเดียว เราไม่คิดว่าจะได้เดินทางถี่ขนาดนี้ ปกติเดินทางไกลน้องๆจะได้นั่งรถ10ล้อไป แต่มารอบนี้น้องได้นั่งรถเก๋งกลับ มาดูกันว่า จะวุ่นวายกันขนาดไหน เนี่ยยังเป็นคนเดิมที่เลือกที่ไม่ได้สักที แต่ละตัวก็วุ่นวาย บางตัวก็ชอบอยู่คนเดียวแบบเงียบๆ และดูหน้าตาของน้องเสียก่อนดูทำหน้าเข้า สงสัยจะไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่...