หน้าแรก บล็อก หน้า 453

แอบเข้าฟาร์มหมูเพื่อขโมยกินรำข้าว ซ้ำหากบหาหนูกินประทังหิวดิ้นรนเพื่อให้ตนมีลมหายใจ

เมื่อไม่นานมานี้แฟนเพจเฟสบุ๊ก : พี่เสือ แมวน้ำมันหมู ได้เผยเรื่องราวแมวสุดน่ารักอย่างพี่เสืออดีตแมวจรที่เผชิญโลกกว้างมานักต่อนัก กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้บักฉ้มต้องขโมยกินอาหารหมู กินกบกินเขียดประทังหิวมาแล้วด้วย และนี่คืออาหารเม็ดมื้อแรกในชีวิตที่บักฉ้มได้กิน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ย้อนไปดูบักฉ้มในตอนนั้นกับอาหารเม็ดที่ได้กินเป็นครั้งแรกในชีวิต เอ็นดูนางเหลือเกิน เมื่อก่อนนั้นต้องหากินหนูกินกบกินเขียดตามท้องนาประทังชีวิต บางวันก็แอบไปกินอาหารหมูที่ฟาร์มหมูแทบทุกวันนี้ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้บักฉ้มผ่านอะไรมาเยอะมากปัจจุบันนางกินอาหารเปียกเกลี้ยงทุกมื้อค่ะ จนตอนนี้บักฉ้มแมวน้ำมันหมูกลายเป็นที่รักของทาสแมวในโลกออนไลน์ เพราะด้วยหน้าตาที่อวบอิ่มแถมหน้าตาก็ดูเหมือนกับง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา ทำให้บักฉ้มกลายเป็นที่รักของผู้คนเหล่าทาสแมว แถมบักฉ้มเองก็ชอบแอบหนีไปเดินเล่นข้างนอกบ้านชอบให้ยายไปอุ้มตามกลับแทบทุกที กว่าชีวิตจะมาถึงวันนี้ได้มันไมง่ายเลยเนอะเธอผ่านอะไรมามากมายแล้วจริงๆ เธอจะรู้มั้ยว่ามีชาวเน็ตหลายหมื่นคนคอยเฝ้าคอยติดตามชีวิตของเธออยู่ หากท่านใดชื่นชอบบักฉ้มแมวน้ำมันหมู ท่านเองก็อย่าลืมไปติดตามน้องได้ที่แฟนเพจที่ขึ้นให้ด้านล่างได้เลยนะ และนี่คือภาพล่าสุดของพี่เสือหรือบักฉ้ม ปัจจุบันนางอวบอ้วนหุ่นสวยตัวสะอาดสะอ้านไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องขโมยอาหารหมูประทังหิว เดี๋ยวนี้อะเหรออาหารเปียกไม่มีขาดกับข้าวกับปลาไม่มีอด ที่มา พี่เสือ แมวน้ำมันหมู

น้ำตาคลอเบ้ารีบเข้ามาอ้อนเมื่อเห็นเจ้าของ เพราะรู้ดีว่าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Happy New June ได้เผยเรื่องราวที่ยากจะทำใจได้ของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยก่อนหน้านี้แมวของเธอมีอาการหายใจถี่และแรงขึ้น จนเธอผิดสังเกตรีบพาน้องไปยังโรงพยาบาลสัตว์ จนกระทั่ง... . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า โรคหัวใจและโรคปอดคือโรคที่อันตรายมากสำหรับแมว ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมานี้ ชิฟฟ่อน  เข้าโรงพยาบาลสัตว์มา 2 รอบ มีอาการช็อคคามือแม่มา 3 หน วันนี้ก็เช่นเดียวกันที่ผ่านมาแม่รู้ว่าชิฟฟ่อนสู้มาโดยตลอด เราสบตากันเราจะรู้แต่วันนี้มันไม่ใช่เลย น้องน้ำตาคลอเบ้า น้องเข้ามาอ้อนทั้งๆที่อยู่ในตู้อ๊อกซิเจน ก่อนที่จะหมดเวลาเยี่ยมเรารู้ได้ในทันทีว่า น้องไม่สู้แล้ว พอออกมาจากโรงพยาบาลสัตว์ไม่ถึงครึ่งชม. คุณหมอก็บอกว่าน้องช็อคเรารีบกลับไป กลับไปเพื่อไปบอกว่า “ ถ้าไม่ไหวก็ไปนะลูก ” เจ็บแหละที่ต้องพูดแบบนี้ แต่เราทำดีที่สุดแล้วจริงๆ และหลังจากเธอโพสต์เรื่องราวของน้องลงในโลกออนไลน์เพียง 1 นาที ตอนนี้น้องก็ขอลากลับดาวแมวแล้ว ขอแสดงความเสียใจกับผู้เป็นเจ้าของด้วยนะครับ และข้อสังเกตของอาการน้องจะมีอาการหายใจแรงและเร็วขึ้นกว่าปกติ ทาสแมวอย่างเราๆต้องหมั่นสังเกตน้องให้ดีๆนะครับ นั่นคือสัญญาณที่อาจบ่งบอกว่าน้องกำลังเป็นโรคหัวใจอยู่ เพราะน้องแมวไม่สามารถพูดหรือบอกเราได้นะว่าเขากำลังป่วย เรานี่แหละต้องหมั่นดูหมั่นเช็คแหละเนอะ ลาก่อนนะลูก RIP ที่มา Happy New June

กระเสือกกระสนคลานขึ้นมาจากหลุมโคลน หนาวสั่นท่ามกลางสายฝนซ้ำขาก็เดินไม่ได้กับดวงตาที่มืดมิด

เมื่อเป็นจรชีวิตต้องจำทุกข์ไม่มีสุขมีสีเหมือนใครเขา ยามทุกข์ร้อนฝนตกไร้บรรเทาไม่มีแม้เงาจะหลบฝนด้วยตัวจนไร้ที่พึ่งพิง เมื่อหัวอกคนเป็นแม่จะสุขหนาตัวชราหาที่พักพึ่งพิงสิงไม่อิ่มท้องไร้ที่บรรเทาพิงไม่มีสิ่งใดให้คลายสุขถ้าลูกมี มาวันนี้เห็นบ้านอันหลังใหญ่ ตัวไม่ไกลหอบลูกกระเจิงหนีวิ่งเข้ามาขอหลบฝนให้ตัวอุ่นก็ยังดี เมื่อไม่มีบ้านอยู่เหนืออื่นใดขอแค่เพียงให้ลูกฉันหลบฝนตัวไม่จนหาที่อยู่ที่อาศัยเพียงขอแค่ให้ลูกได้สุขใจแม่อยู่ไหนก็ได้ตามกรรมมี . เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : พิมพ์วิไล ช่วยเต็ม ได้เผยแพร่เรื่องราวของลูกแมวจรตัวหนึ่งที่มีอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทางแม่คนโพสต์ได้เจอลูกแมวจรที่หน้าบ้านในตอนรุ่งเช้ามองจากสภาพของน้องๆมีอาการเจ็บตา ขาเจ็บจนเดินไม่ได้ไม่รู้ว่าจากไหนเนื้อตัวเลอะโคลนเต็มเนื้อตัว ด้วยเพราะเมื่อคืนฝนตกหนักตลอดทั้งคืนไม่รู้อยู่รอดมาได้ยังไง น้องกระเสือกกระสนคลานเข้ามาในบ้านหวังลึกๆอยากให้คนช่วยเหลือคงอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อดิ้นรนจนร่างกายแทบจะไม่รอด แล้วทางต้นโพสต์ยังได้เล่าว่าคนเอาลูกแมวมาเทไว้หน้าบ้านไม่รู้ว่าน้องมาจากไหน น่าจะโดนรถชนมาน้องตาบอดด้วยตัวเลอะขี้โคลน เพราะหน้าบ้านทำถนน ตอนแรกคิดว่าเป็นแมวที่บ้านแต่ว่าไม่ใช่ลูกแมวที่บ้านอยู่ครบทุกตัวค่ะน้องน่าจะโดนเอามาปล่อยค่ะเพราะพื้นบ้านกับถนนมันห่างกันประมาณ 1 เมตรน้องไม่สามารถที่จะขึ้นมาได้ เราไม่มีเงินที่สามารถจะพาไปหาหมอ และหลังจากที่เจ้าของโพสต์ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือไปยังกลุ่มชมรมแมวสายดาร์กไม่นาน มีพี่คนใจดีโทรมาบอกจะรักษาน้องพี่คนนั้นติดต่อคลินิกแถวบ้านรอน้องไปรักษา พี่คนใจดีก็เป็นคนจ่ายเงินช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาของน้องให้ค่ะ ครั้งแรกนึกว่าน้องตาบอดแต่น้องแค่เจ็บตาทำให้ลืมตาไม่ขึ้น น้องกระดูกสันหลังหักเลยทำให้เส้นประสาทใช้ไม่ได้น้องใช้ได้ขาเดียวส่วนอีก3 ขาใช้งานไม่ได้น้องขับถ่ายเองไม่ได้เลยน่าสงสารมาก อัพเดท ตอนนี้มีคนใจบุญรับน้องไปดูแลและมีบ้านที่อบอุ่นแล้วนะคะ และทั้งนี้ก็ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือน้องให้มีชีวิตที่ดีต่อไป ที่มา : พิมพ์วิไล ช่วยเต็ม

พาแมวไปหาหมอ แต่มีเจ้าของแมวขอให้ช่วยน้องทีหากไม่ช่วยน้องคงต้องตกไปเป็นอาหาร

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2563 ผู้ใช้เฟสสบุ๊กคุณ : Namwarn Rangsima ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับเจ้าของของน้อง ที่เขาเป็นชาวพม่าและจะต้องกลับประเทศ แต่เธอไม่สามารถเอาแมวกลับไปยังบ้านเกิดได้ เพราะถ้าเอากลับไปที่บ้านเกิดน้องคงต้องตกไปเป็นอาหาร . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า น้องแมวหาบ้านค่ะ น้องแมวทำหมันเรียบร้อยแล้วค่ะ พอดีเราไปคลีนิคประจำแล้วพบเจอน้องเข้าค่ะ เจ้าของเขาเป็นชาวพม่าชื่อคุณเต้น แกพาแมวมาหาหมอ แกบอกว่าเดือนมีนาคมปีหน้าแกจะต้องกลับประเทศพม่าแล้ว แมวจะเอากลับไปไม่ได้ด้วย เพราะถ้าหากเอากลับไปคนแถวนั้นเค้าก็ชอบกินน้อง แกรักแมวมากๆพามาหาหมอเป็นประจำ แมวแกสวย อ้วนมาก ตาสีสวย ตัวผู้2ตัว ชื่อลายขาวกับลายทองค่ะ (ชื่อไม่แน่ใจ เพราะคุยกับแกเรื่องอื่นจนลืมชื่อน้องแมว) หากท่านใดสนใจรับอุปการะน้อง หรือสามารถรับน้องไปดูแลได้ ติดต่อคุณเต้น โดยตรงเลยค่ะ แมวแกสวย อ้วนถ้วนเลยจ้า พิกัดจสมุทรปราการ ปากน้ำค่ะ ส่วนเบอร์โทรศัพท์เข้าไปดูได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมยื่นมือเข้ามายินดีและพร้อมรับน้องไปเลี้ยงไปดูแล เพราะน้องเป็นแมวสวยและอวบอ้วนคงจะได้บ้านในเร็ววัน ถ้าหากไม่ได้ก็คงมิอาจรู้ได้เลยว่าน้องจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง ที่มา Namwarn Rangsima

ก่อนเคยรักเลี้ยงดูมาเติบใหญ่วันนี้ใยไม่ต้องการ ให้ใช้ชีวิตเยี่ยงแมวจร

หากก่อนอยากจะได้มาเลี้ยงดูวันนี้สู่ปล่อยไร้ไม่ต้องการเหมือนแต่ก่อน เมื่อตัวต้องใช้ชีวิตเยี่ยงแมวจรเดินเร่ร่อนหาอาหารประทังวันไป ตอนเป็นเด็กก็รักเอ็นดูให้โตแล้วใจพลันเปลี่ยนไม่ต้องการปล่อยให้เดินเร่ขออาหารบ้านนู่นทีบ้านนี้ทีและใช้ชีวิตไปวันๆ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pattamawadee Pat Kp ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากได้พบน้องมาเดินเร่ขออาหาร จากเคยมีบ้านอยู่ต้องอดสู่ตัวเป็นจร ซึ่งก่อนยังเล็กเจ้าของก็เลี้ยงดูน้องมาอย่างดีวันนี้ครอบเกือบ 1 ปีโตแล้วนี้ไม่ต้องการ ซึ่งน้องก็ต้องออกมาใช้ชีวิตภายนอกบ้าน เร่ร่อนเพื่อที่จะขออาหารประทังหิวไปบ้านโน้นบ้านนี้ทีเพื่อขอข้าว วัคซีนก็น่าจะยังไม่เคยได้ทำเธอได้เห็นแล้วก็สงสารเมื่อตัวต้องทนทุกข์ถูกเจ้าถิ่นเขาไล่ฟัด ด้วยไม่ชอบแมวด้วยกันจึงอยากจะหาบ้านให้ที่ไม่ได้เลี้ยงแมวมาก่อน เพราะน้องเข้ากับตัวอื่นไม่ค่อยได้ ด้วยน้องเป็นแมวพันธุ์ผสมเพราะโครงร่างใหญ่ พิกัดที่บอกไว้ คลองเก้าธัญบุรี ถ้าไม่ไกลก็ยินดีที่จะส่งให้ได้น้องเป็นแมวตัวผู้หน้าตาน่ารัก พูดพอจะฟังรู้เรื่องบ้านเพราะเคยมีบ้านมีเจ้าของ จำมาวันนี้ต้องพลันตัวหันเป็นจรจำทุกข์ร้อนเดินตามฝนทุกข์ทนไป ที่มา Pattamawadee Pat Kp

แมวจรตาข้างเดียวกับชีวิตที่ต้องดิ้นรน กระเสือกกระสนอยู่ในโลกกว้างกับชีวิตนี้ที่ใครๆเขาก็ไม่ต้องการ

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Phanit Banthanit ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับลูกแมวจรตัวน้อยกับครอบครัวที่น่าสงสาร ต้องคอยหลบแดดหลบฝนจากโลกกว้าง แถมน้องแมวก็ยังเป็นตาอักเสบตาปิดสนิดตลอดเวลา . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า หาบ้านให้กับน้องแมวจรค่ะ สงสารน้องมากแม่เจอน้องตาอักเสบตั้งแต่เมื่อตอนเย็น และจะพาไปหาหมอแม่เลี้ยงอีกตัวไม่ไหวแล้วเพราะแม่มีแมวแล้ว1ตัวต้องหิ้วไปทำงานทุกวันเป็นแมวจรเหมือนกันนี่แหละค่ะ น้องมีด้วยกันทั้งหมดมี2ตัวนะคะ ส่วนแม่น้องไม่น่าเป็นห่วงเพราะเอาตัวรอดเก่งแล้ว ส่วนเราอยู่คอนโดเขาห้ามไม่ให้เลี้ยงสัตว์สงสารน้องค่ะ ใครสนใจทักแชทได้นะคะถือว่าทำบุญช่วยกันค่ะ พิกัดพระราม2ข้างเคียงได้ค่ะ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตหลายท่านต่างพยายามช่วยหาบ้านให้กับน้อง ด้วยตัวยังน้อยแถมตาก็อักเสบถ้าได้รับการรักษาและมีคนเลี้ยงดูแอดเชื่อได้เลยว่าน้องจะกลับมาน่ารักในเร็ววัน หากท่านใดสนใจรับน้องๆไปเลี้ยงก็ลองติดต่อไปยังผู้โพสต์ได้เลยนะ ถ้ารับได้ทั้งครอบครัวจะดีมากๆเลยจ้า   ที่มา Phanit Banthanit

เล่ามาน้ำตาตกจากก่อนเคยเลี้ยงระบบปิด วันนี้ย้ายชอบไปนั่งใกล้ชิดให้เขาป้อนหมู

จากการที่เราได้รักและเฝ้าเลี้ยงดูพวกเขาได้เติบใหญ่ก็คงจะมีใจรักหากวันนึงเขาได้เปลี่ยน เพราะการเลี้ยงแมวแล้วนอกจากจะได้รับความรักและความสุขพวกเราก็อยากจะให้เขารักเราเพียงคนเดียว เมื่อมาวันนี้ลูกได้เปลี่ยนไปรักข้างบ้านมากกว่าแม่ที่เลี้ยงมา ก็ย่อมเกิดอาการน้อยใจกันขึ้นมาบ้าง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ณิชนันท์น์ ภิมล ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่แมวของเธอมีท่าทีที่เปลี่ยนไป จากที่เมื่อก่อนตอนที่อยู่กรุงเทพเคยเลี้ยงน้องไว้ระบบปิด ตอนนี้เธอได้ย้ายมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด สังคมเลยเปลี่ยนไปน้องชอบไปนั่งไปนอนอยู่ที่ร้านค้า จากน้องกินเป็นแค่อาหารที่แม่เทให้ตอนนี้น้องก็เริ่มกินหมูที่เพื่อนบ้านได้ป้อน ใจนึงเธอก็รู้สึกดีที่เพื่อนบ้านได้เอ็นดูน้องแต่อีกใจนึงก็เป็นห่วงน้องกลัวจะโดนใครเขาวางยา และด้วยความรักที่เคยได้รับมาก็เริ่มปันใจ จากที่เคยให้แม่อุ้มและกอดได้เพียงคนเดียววันนี้เที่ยวเดินไปหาข้างบ้านให้เขากอดอุ้ม เธอจึงกลัวว่าน้องจะเจออะไรใหม่แล้วจะหนีไปไม่รักเธอเหมือนเช่นเดิม เพราะความรักที่แม่เฝ้าเลี้ยงดูมาก็หวงลูกหนักหนาเจ้าตัวเอ่ย วันนี้ใจไม่รักแม่เหมือนดั่งเคยเจ้าตัวเอ่ยมาเปลี่ยนแม่ใจไม่ดี จึงอยากฝากไว้หากใครได้ย้ายที่หากให้ดีอยู่เลี้ยงไว้ในระบบปิด เพราะแมวสมัยนี้ก็ปันใจเก่งและก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเลิกรักเราและไปรักข้างบ้านตอนไหน เพราะความรักที่เคยได้รับมาถ้าวันนึงมันหายไปใจก็จะหายตาม ที่มา ณิชนันท์น์ ภิมล

บวกกันไม่เกรงใจพระ พระก็สวดไปแมวก็ตีกันไป เพราะทุกที่เป็นสนามเด็กเล่นของเรา

หากเพื่อนๆเองที่ได้เลี้ยงแมวแล้วก็จะเข้าใจกันว่า แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สนโลกมีอยู่จริงๆเพราะความที่พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นเจ้านายและเราเป็นทาสอีกด้วยการที่เป็นแมวเด็กก็เป็นอีกส่วนนึง เพราะก็จะเหมือนกับเด็กตัวน้อยๆที่ยังไม่รู้ประสีประสาดี หรือไม่รู้ว่าอะไรถูกอะไรควรหรือควรทำอะไรในเวลาไหนๆ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Naratip Boobpathong ที่เป็นพระซึ่งหลวงพี่ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวขณะที่พระอาจารย์รูปหนึ่งได้สวดมนต์อยู่ด้วยจิตอันแน่วแน่ ก็ได้มีตัวป่วน 4 ตัวเข้ามาในระหว่างการสวดมนต์ซึ่งพวกเจ้าเหมียวก็ได้เข้ามาเล่นกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าพระท่านได้ทำอะไรกันอยู่ ด้วยความเป็นเด็กเล็กที่ยังไม่โต เจ้า 4 ตัวก็เล่นกันอยู่บนตัวพระอาจารย์รูปนี้อย่างสนุกสนาน ด้วยตัวท่านพระอาจารย์เองก็จะต้องทำกิจนิมนต์ให้เสร็จ ซึ่งเจ้าเหมียวก็ยังเล่นกันไม่เสร็จจึงได้ฟัดกันต่อ โดยเรื่องราวนี้ถูกนำมาโพสต์ลงยังโลกออนไลน์ในเฟสบุ๊คของพระรูปนี้ ซึ่งวัดที่น้องๆได้อยู่อาศัยกันที่วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ซึ่งหลังจากการโพสต์ก็ได้มีเพื่อนๆจำนวนมากเข้ามากดไลค์และแชร์ออกไปและได้ออกข่าวในหลายๆช่อง เพราะจากความสนุกที่เจ้าเหมียวได้เล่นกันอย่างไม่สนใจโลกและความน่ารักของพระรูปนี้ที่ท่านไม่ได้ไล่พวกน้องหรือดุพวกน้องเลยแม้แต่น้อย ที่มา Naratip Boobpathong https://www.facebook.com/naratip.boobpathong/videos/10217114342482346/

จำถูกเขาจองจำไว้ไม่มีแม้ที่จะให้กลับตัว เมื่อตัวทาสย้ายหายไปไม่เห็นแม้เงา

จากก่อนที่เคยรักเอามาเลี้ยงดูวันนี้สู่จำถูกเขาจองจำเอาไว้ไม่มีที่แม้จะให้กลับตัว เมื่อย้ายไปอยู่ที่อื่นกลับไม่เอาน้องไปด้วยให้อยู่ในที่ที่ไร้อาหารจะตกถึงท้อง ซึ่งที่เราเคยได้บอกไว้ว่าการที่จะรับสัตว์มาเลี้ยงดูก็ควรจะต้องเตรียมความพร้อมให้ดี เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ปาน' นิ้ ได้โพสต์เรื่องราวหลังได้พบน้องถูกจองจำเอาไว้ในที่ไม่มีที่ให้แม้จะกลับตัวได้ ซึ่งเธอได้มาพบน้องเพราะมาทำงานที่นี้และก็เห็นน้องอยู่แต่ข้างในนี้โดยไม่มีเจ้าของมาดูแล เลยถามคนในระแวกได้ความว่าเจ้าของได้ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น และนำน้องมาใส่เอาไว้โดยที่ไม่ได้กลับมารับน้องหรือดูแลน้องเลย น้องต้องทนอยู่ในที่แคบๆไม่มีที่ให้แม้จะเดินเล่นได้ อาหารก็ไร้ไม่มีได้ตกถึงท้องถ้าวันไหนเธอไม่ได้ไปทำงานน้องก็จะต้องอด จึงอยากหาบ้านให้กับน้องใหม่ น้องมีกันสองตัว ที่ตัวมีปลอกคออยู่แต่ก็ไร้แม้เงาของเจ้าของ ไม่รู้ว่าใยถึงให้น้องใช้ชีวิตอยู่เช่นนี้ โดยพิกัดที่เธอได้ลงไว้ที่ สี่แยกปฐมพร จังหวัดชุมพรและหากเพื่อนท่านไหนอยู่ในบริเวณพื้นที่แล้วอยากจะรับน้องไปเลี้ยงดูก็สามารถติดต่อไปที่ต้นโพสต์ได้เลย ขอเพียงแค่บ้านขออาหารให้ได้อิ่มท้อง ที่มา ปาน' นิ้

เล่าแม้ปาดน้ำตาได้แต่ภาวนาให้ลูกฟื้น ด้วยโทษตัวเองที่ปล่อยให้ลูกชอบวิ่งเล่นตามใจ

เพราะด้วยรักจึงมักตามใจอยากไม่นึกหากคิดให้ดีว่ามีโทษ เห็นวิ่งเล่นสนุกจึงปล่อยให้เล่นไม่คิดมาก วันนี้ตัวจะจำจากปาดน้ำตาตก เมื่อลูกไม่กินข้าวกินปลาอย่างที่เคย เอาแต่อ้วกแม้จะป้อนด้วยทุกข์ทน ก็เห็นเล่นสนุกไม่นึกคิดว่าเป็นภัย ซึ่งถ้าเป็นพ่อแม่ทุกคนก็คงจะปล่อยให้เล่นไปไม่ได้คิด แต่ทว่าการวิ่งเล่นของแมวก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะเป็นโทษแก่ตัวของพวกเขาได้ เมื่อผู้ใข้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ศรุต ตะเภาพงศ์ ได้โพสต์เรื่องราวด้วยหลั่งน้ำตาตกเมื่อน้องแมวของเขามีอายุ 6 เดือนได้เริ่มมีอาการอ้วกฉับพลันจากปกติที่วิ่งเล่นสุนกสนานอยู่ๆก็อ้วก 3 ครั้งใน 3 ชั่วโมง เขาจึงได้รีบนำตัวน้องไปหา่คุณหมอในทันที โดยผลตรวจด้วยการคลำเบื้องต้นคิดว่ามีก้อนขนอุดตัน ทำการรักษาโดบใช้เจลช่วย แต่ต่อมาน้องก็ไม่กินอะไนเลย 24 ชั่วโมง เขาจึงได้เอาอาหารเปียกใส่สลิงป้อนน้อง ผลที่ได้คืออ้วกออกมาหมดจึงได้พาน้องกลับไปหาหมออีกครั้ง ครั้งนี้เขาแจ้งว่าน้องมีการกินสิ่งแปลกปลอมไปอุดตันเพราะเคยเห็นน้องคาบหนังยาง หมอจึงได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสัตว์เพื่อที่จะเอาออกหมอได้ที่การเอ็กเรย์ชัดเจนตรวจดูเจอคล้ายๆมีสิ่งของอุดตันอยู่จีงได้ทำการเอาออก ล่าสุดน้องก็รอพักฟื้นเช้าจะไปเยี่ยม คุณหมอเองได้แจ้งว่าสิ่งที่เห็นไม่น่าจะใช่สิ่งแปลกปลอม เพราะมีก้อนขนบางแต่เล็กน้อยที่อ้วกเกิดจากลำไส้ได้บิดตัวพับจนปิดทางเดินอาหารเกือบจะสมบรูณ์ โดยน่าจะเกิดมาจากการกระแทกบริเวณช่องท้องอย่างแรง เพราะน้องชอบวิ่งเล่นกับแล้วชนขอบประตูชนขาโต๊ะ ซึ่งหากแมวใครที่มีพลังเยอะๆแล้วชอบวิ่งด้วยความเร็วก็อาจจะส่งผลให้เป็นเช่นน้องได้ ซึ่งในตอนนี้เขาก็ได้แตภาวนาให้น้องฟื้นขึ้นมาเหมือนเคย ที่มา ศรุต ตะเภาพงศ์