มานั่งตลาดโดดขึ้นมานั่งตักหวังอยากกลับบ้านด้วย ในใจอยากจะช่วยแต่ก็ต้องปล่อยผ่านเฝ้าโทษตัวเอง

ด้วยความเป็นทาสและใจเห็นก็สงสารเพราะพวกเขาเองก็รู้ว่าใครชอบไม่ชอบเลยเข้าหา ด้วยคงมีญาณหรือสัมผัสได้ว่าเราเป็นทาสเหมือนกัน เลยกระโดดขึ้นมานั่งบนตักออดอ้อนหวังพากลับบ้านไปด้วยแม้ในใจเองก็อยากจะช่วยแต่ก็ต้องปล่อยผ่านเพราะเอากลับมาไม่ได้แล้ว เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า น้ามมมมมมม 'มมม ได้โพสต์เรื่องราวด้วยเธอเองมานั่งตลอดชินตาอยู่ๆน้องแมวก็เดินมากระโดดขึ้นมานั่งบนตัก มาออดอ้อนน้องคงอยากจะกลับบ้านด้วย แต่แมวบ้านของเธอก็ทื้องอยู่และใกล้จะออกลูกมาแล้วเลยเอาน้องกลับบ้านไปเลี้ยงไม่ได้ ด้วยเธอเองก็เลี้ยงแมวจรอยู่ 2 ตัวแล้วเลยต้องปล่อยผ่านแม้ใจจะสงสารมากเพราะเลี้ยงอีกไม่ไหว ต้องลุกหนีเดินออกมาด้วยน้ำตาไหลในใจหวังอยากให้ใครรับไปเลี้ยงดู น้องเป็นเพศผู้ใครสนใจหรือรักแมวก็ช่วยรับน้องไปดูแลได้ด้วยร่างกายก็ผอมแห้งไร้เรี่ยวแรงจะหนี คนในตลาดบอกว่าถ้าไม่มีคนมากินข้าวน้องก็จะต้องอดเพราะไม่มีใครมาคอยเอาข้าวให้น้องได้กินหรอก เพราะกลิ่นแมวในตัวทาสเองก็จะบอกถึงความมีจิตใจดีพวกเขารู้ดียามได้กลิ่นแล้วก็จะเข้ามาหา เข้ามาอ้อนขอข้าวหวังขอบ้านหรือความเมตตาถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ช่วยกันบรรเทาไป ซึ่งผู้โพสต์เลยนำมาลงในกลุ่มหวังหาบ้านให้น้องคยเลี้ยงหมาแมวเมืองตรง ถ้าใครพอมีบ้านเหลือหรืออาหารวันละมื้อให้น้องอิ่มได้หรือนอนหลับก็ขอขอบคุณด้วยใจ ซึ่งโพสต์มาแล้วร่วม 4 ชม.ก็ยังไร้คนจะสนใจหวังในใจขอให้ใครช่วยเหลือหนูที ที่มา น้ามมมมมมม 'มมม

ตัวลำบากแต่ก็มีแมวคอยอยู่เคียงข้าง แต่คนในระแวกกลับมาแซะให้คิดน้อยใจอยากหนีไป

ยุคนี้จะทำอะไรก็ลำบากไปเสียหมด ไหนจะงานก็หายากคนตกงานก็มากตามไปยิ่ง เหมือนกับชีวิตสาวทาสแมวท่านนี้ที่มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจก็คือแมวที่เลี้ยงไว้นี่แหละ เพราะเธอเองก็สุดจะทุนแล้วกับสังคมคนรอบข้างที่คอยจะพูดแซะอยู่ตลอดเวลา . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : หนึ่ง สู้เพื่อฝัน อรอนงค์ บุญมาก ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มชมรมแมวสายดาร์กอันมีใจความระบุเอาไว้ว่า ทุกวันนี้อยากจะไปจากบ้านที่อาศัยอยู่ แต่แม่ต้องอดทนที่อยู่ไปก็เพื่อลูก แม่กลัวพาพวกหนูทั้งสามไปตกระกำลำบาก วันไหนพอมีช่องทางเราไปกันแน่นอน คน1คน กับชีวิตของแมวอีก3ตัวไปอยู่ที่ อยู่แล้วสบายใจ ไม่มีใครมานั่งจ้องมองไม่ชอบเรา อยู่บ้านหลังนี้แม่ไม่ต่างกับชีวิตคนรับใช้ งานนอกต้องทำ งานในก็ทำงกๆคนเดียว ไหนแม่สามีจะไม่ชอบเราอีก พูดครั้งนึงแบบลอยๆต่อหน้าเรา เมียมันที่มีๆมามีแต่จนๆ เห้อ... เพราะตัวเธอเองก็สุดจะทนแล้ว...

หนูอาศัยอยู่กับแม่ในท่อระบายน้ำตรงข้ามป้ายรถเมล์ วันไหนโชคดีหน่อยก็ได้อิ่มวันไหนไม่มีก็ต้องอด

เพราะชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดไม่ได้ ทำให้หลายๆชีวิตต้องเกิดมาดิ้นรนต่อชะตากรรมที่ต้องเจอในแต่ละวัน ซึ่งหากวันไหนโชคดีฝนไม่ตกก็ดีหน่อยวันไหนฝนตกหนักไม่เจอผู้คนใจดีก็ต้องอดตามมีตามเกิด แล้วยิ่งเป็นสุนัขจรที่ไม่ได้น่ารักเหมือนหมาพันธุ์ด้วยแล้วใครจะมาเหลียวแลเราแม่และลูก หลังจากผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Pornpen Saralert ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าตูบแม่ลูกคู่หนึ่งที่ต้องอาศัยนอนในท่อระบายน้ำใกล้ป้ายรถเมล์เพราะเกิดมาเป็นสุนัขจร ซึ่งอาศัยอยู่กันแค่แม่ลูกเท่านั้นมีเพียงเศษอาหารจากขยะที่ได้กินประทังชีวิตวันไหนเจอผู้คนใจดีให้ได้อิ่มท้องแม่ลูกก็ถือเป็นโชคดีที่สุดในชีวิต ผู้โพสต์รายดังกล่าวจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงในกลุ่ม เพื่อนข้างถนน หลังจากที่เธอนั้นได้ไปพบน้องเข้าจึงอยากที่จะขอความช่วยเหลือหรือหน่วยงานใดๆจากกลุ่มในโลกออนไลน์นี้ซึ่งน้องนั้นอาศัยอยู่ใกล้กับถนนใหญ่กลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายเกิดขึ้นกับน้องได้เพราะน้องยังเด็กอีกทั้งแม่หมาก็หาอาหารประทังความหิวให้ลูก ช่างเป็นภาพที่สุดจะน่าสงสารเอามากๆ ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์เองก็ยังได้ระบุพิกัดเอาไว้ด้วยว่า พิกัดตรงข้ามป้ายรถเมล์ห้างแฟชั่น ซึ่งถ้าวันไหนไม่มีคนให้กินแม่หมาก็จะต้องไปคุ้ยขยะมาให้กับลูกตัวน้อย ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pornpen Saralert

น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินออกมาแม้แม่เห็นยังจุกอก หลังสุดดวงใจระหกต้องลาลับจากไปดาวแมว

จะให้ทนอยู่ยังไหวจำดวงใจจากน้ำตาไหลเต็มหน้าพรากถูกเขาเข้ามาพรากดวงใจหนู แม้คนเป็นแม่เห็นยังเฝ้าทนยืนดูแทบจะไม่ไหวในใจจุกอกไปพูดไม่ออก เพราะลูกชายนั่งกอดร่างน้องแมวที่ไร้ลมหายใจอุ้มกอดเอาไว้ในอ้อมอกพร้อมกับสะอึกสะอื้นด้วยความโศรกเศร้า เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wanpen Pridum ได้โพสต์เรื่องราวของน้ำตาของลูกผู้ชายแม้จะเป็นโพสต์แรกแต่ก็ทำให้คนบนโลกออนไลน์ต้องจุกอก พร้อมกับบอกนี่คือสิ่งที่เธอกลัวมากที่สุดและวันนี้มันก็เดินทางมาถึง RIPเจ้าถุงทอง น้องแมวสุดที่รัก แม้จะสงสารลูกมากๆเพราะด้วยความรักเธอก็เลี้ยงเขามาให้อยู่ร่วมกันเป็นให้เหมือนเพื่อนพี่น้องเฝ้าคอยอยู่ด้วยกันมาตลอดแม้ยามจะนอนก็ไม่เคยห่างเลย ลูกก็รักเจ้าถุงทองมากๆ เจ้าถุงทองก็มาจากไปแล้วเพราะน้องแมวถูกรถทับช่วงท้องและขา่หลังแม้จะไม่มีแผลใดๆ แต่เจ้าถุงทองก็มาจากไปลาลับไม่กลับคืน ลูกของเธอเลยเอาน้องถุงท้องมาอุ้มกอดไว้พร้อมกับร้องไห้เสียใจที่เจ้าถุงทองถูกเขาพรากจากไปและต้องลาจาก เพราะความที่เขาไม่เห็นว่ามีแมวอยู่ใต้ท้องรถและน้องก็ไปนอนอยู่ใต้รถเลยถูกทับจนสิ้นลมแต่แม่เห็นแล้วก็ระทมเพราะความเสียใจของลูกชาย เพราะเขาก็คงจะเจ็บปวดมากด้วยความรักที่อยู่ร่วมกันมาทำให้ตัวพูกพันธ์กับแมวมาก แม้จะเป็นภาพที่ทำให้หลายคนออกมาบอกว่าหดหู่ใจมากและไม่ควรจะเอามาลงไว้ ซึ่งเธอก็ขอโทษด้วยที่ทำให้หดหู่ใจแต่เธอก็ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดๆเลย แค่อยากจะให้เห็นถึงความรักความอ่อนโยนของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีต่อสิ่งที่เค้ารักมากๆ และก็อยากจะไม่ให้มันเกิดกับใครอื่นใดเลยจริงๆ ที่มา Wanpen Pridum

พาออกไปเล่นกองทรายลูกหายไปเดือนกว่า ยังนั่งร้องไห้เฝ้ารอทุกคืนเกือบถอดใจ

ด้วยความรักได้เกิดขึ้นเมื่อรับเข้ามาเลี้ยงหรือเป็นครอบครัวเหมือนกับลูก เฝ้าเลี้ยงดูมาได้รับความรักความเอาใจใส่แม้จะพูดไม่ได้เหมือนกับคนเราแต่ก็รับรู้ได้ด้วยใจว่าพวกเขารักเราเหมือนกัน ซึ่งก็เฝ้าเลี้ยงมาให้อยู่ในบ้านเพราะห่วงความปลอดภัยของน้องยังคงมองพาออกไปเล่นนอกบ้าน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ananya Boonsoi ได้โพสต์เรื่องราวของน้องแมวส้มหลังจากน้องได้หายออกจากบ้านไป 15 มกราคม 2564 เพราะปีก่อนบ้านจะเลี้ยงน้องในกึ่งปิดจะพาออกไปเดินเล่นวันละครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมงซึ่งผมมีน้องบ้านเดียวกันสาม วันซึ่งผมหายแม่พาผมไปเล่นกองทรายข้างบ้าน แม่มัวแต่มองน้องๆเพราะเป็นห่วงและเห็นว่าผมโตแล้วหันมาแล้วผมก็หายไปแม่นั่งรอผมจนเย็นและตามหาผมรวมคืนไม่ได้นอนเลย ตามหาทั่วอำเภอในอาทิตย์ถามใครก็ไม่มีใครเห็นผมเลย จนคิดจะถอดใจไปแล้วแต่ก็ยังมีความหวังว่าเมื่อไม่ได้เห็นร่างของผมสิ้นลมผมก็คงยังมีลมหายใจแม่คิดไว้ และผมก็ได้เดินกลับมาร้องด้วยเสียงแหลพล่าอันเป็นเอกลักษ์หน้าบ้าน แม่จำเสียงผมได้ผมดีใจมากเดียวแม่จะพาผมไปหาหมอให้ดูร่างกายผมหน่อยครับ วันหลังแม่จะพาผมไปข้างนอกแม่จะใส่สายจุงแล้วแม่ไม่อยากนั่งร้องไห้หน้าประตูบ้านเพราะคิดถึงผมอีก ซึ่งเธอเองก็นั่งร้องไห้เฝ้ารอเรียกหาลูกอยู่หน้าประตูบ้านมาร่วมเดือนแต่ก็ไม่เคยเห็นเงาของลูกเลย จึงคิดจะถอดใจแต่ก็ยังรอและเห็นแมวส้มก็จะดูว่าใช่ลูกของเธอหรือป่าวและน้องเองก็เดินกลับมาครบ 32 เข้าเดือนกว่าก็ดีใจมากแล้วและวันหลังก็จะไม่ให้ออกไปพร้อมกันอีกเพราะดูไม่ทันลูก ที่มา Ananya Boonsoi

เดินผ่านเห็นคาบก้างปลาไปใต้ท้องรถไม่คิดสนใจ ขากลับมาเห็นแล้วท้อใจลูก 4 รุมกิน

เพราะสภาวะทางจิตใจของมนุษย์เราแตกต่างกันบางคนเองเห็นแล้วก็สงสารเขาแต่ก็ต้องคิดคำนึงถึงตัวเองด้วยว่าจะสามารถรับภาระหรือจะเข้าช่วยเหลือเขาไหวไหม ด้วยในยุคโควิทและหลายคนก็ต้องงานหดเงินหายด้วยคำนึงไปเลยเลือกจะมองผ่านไปเพราะเห็นเขาคาบก้างปลาไปใต้ท้องรถ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tabtim Tapsang ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เดินผ่านเห็นแมวกำลังคาบก้างปลาเข้าไปใต้ท้องรถเธอก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่พอขากลับมาก็เห็นมีลูกแมวลงมาจากใต้ท้องรถ 4 ตัวและรุมกินก้างปลาที่แม่แมวได้หามาไว้ให้ด้วยน้ำตาซึม เป็นแมวส้ม 2 ดำไฝ 1 สลิดอ่อนปนขาว 1 เลยนั่งดูน้ำตาแทบจะไหลแม้ติดคอก็ยังฝืนกลืนเข้าไปเจ็บจนคอแทบโก่งเห็นแล้วก็สงสารมากๆหน้าตาก็เจ็บด้วยไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมา เข้าใกล้ก็ไม่ได้เพราะแม่แมวเขาก็ห่วงลูกมากเลยเดินกลับบ้านไปเอาหารมาให้ กินกันใหญ่เลยหมดแล้วก็เลียกันไม่เลิกลา เลยไปเอามาให้อีกซองคงพออิ่มอย่างน้อยมื้อนี้พวกแกก็อิ่มอร่อยไปหนึ่งมื้อโดยที่ไม่มีก้างละเนอะ อยากจะหาบ้านก็ยากเต็มที่เห็นเข้าโพสต์หาบ้านกันทุกวันก็ยังหากันไม่ค่อยได้เลยเพราะ เศรษฐกินไม่ดี ไม่รู้จะมีคนใจดีพอจะรับพวกแกไปเลี้ยงบ้างไหม เพราะแม่แมวเขาเป็นจรและเข้าใก้ลยากมากไม่สามารถจะเข้าไปได้เลยได้แค่เอาอาหารไปวางจานไม่ดีก็จับจานถูกเขาข่วนให้ โชคดีว่าหลบทันและวิ่งหนีก็ตามมาอีกพออาหารหมดเข้าไปเก็บจานไม่ได้เธอก็มีเวลาออกไปดูแค่ตอนค่ำและยังไม่รู้ซ้ำชีวิตจะอยู่กันยังไงต่อ น้องอยู่ตากสิน 4 ที่มา Tabtim Tapsang

เมื่อแม่ของผมช่วยแมวถูกหมาฟัด ปากบอกไม่เลี้ยงจะหาบ้านให้มัน ไม่กี่วันผ่านทั้งนมทั้งของเล่นแมวเต็มบ้าน

ลองคิดดูสิครับจุดเริ่มต้นของการเป็นทาสแมวของเราๆเนี่ยมันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไปใช่มั้ยละ แต่สำหรับหนุ่มรายดังกล่าวนี้ที่แม่ของเขาได้ช่วยชีวิตน้องมา แม่ก็ย้ำชัดนะว่าจะไม่เลี้ยงจะหาบ้านให้กับมัน แต่นี่ก็หลายวันแล้วไหนบอกไม่เลี้ยงไง . โดยคุณ : Nathaphon Manatchaisri ได้โพสต์ลงในกลุ่มสัตว์โลกฮาๆพร้อมระบุว่า ช่วยด้วยครับผมควรที่จะทำอย่างไรดี คือแม่ผมเก็บลูกแมวที่โดนหมางับแล้วรอดมาตัวนึง ตอนแรกแม่บอกสงสารมันจะหาบ้านให้กับมัน ผมก็แบบอืมๆ (คือผมเป็นภูมิแพ้ แต่ก่อนเป็นหนักมากอยู่ใกล้แมวแทบไม่ได้เลยครับ พอขึ้นช่วงมหาลัยก็ไม่ค่อยแพ้แล้ว) แล้วผมไปทำงานกลับบ้านมาเจอขวดนม กับนมแพะในตู้เย็น เออผมถามแม่จะเลี้ยงหรอแม่บอก " ไม่ได้เลี้ยงแต่ยังหาบ้านไม่ได้จ้า " ที่นี้ผมต้องไปทำงานยังต่างจังหวัด 1 อาทิตย์...

สาวร้องมาซื้อนมเย็น แต่กลับโดนแม่ค้าหลับใส่ ไม่พอยังเอาขาชี้ฟ้าพร้อมกรนใส่อีก

โดยปกติแล้วถ้าเปิดร้านคาเฟ่หรือร้านต่างๆ ทางเจ้าของร้านจะต้องดูแลลูกค้าประดุจดั่งคนสำคัญ แต่สำหรับแม่ค้าตนนี้ไม่คิดสนใจเลย เอาแต่หลับเอาแต่นอน หลับชนิดที่ว่านอนสองแขนสองขาชี้ฟ้าสบายใจเฉิบ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nong Jariya ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มชมรมแมวสายดาร์ก อันมีใจความระบุว่า มาซื้อนมเย็นที่ร้านคาเฟ่แต่เจอแม่ค้าหลับใส่ต่อหน้า ไอ้เราก็เกรงใจไม่ก็ปลุกหรือทำเสียงดังเพราะกลัวแม่ค้าเขาจะตื่น 555 แต่ทางผู้โพสต์เองก็อดใจไม่ไหว ขอสัมผัสนิดๆหน่อยๆให้มันกระชุ่มกระชวย แต่แม่ค้าก็ยังคงนอนหลับต่อไป แต่ถึงแม้ว่าแม่ค้าเขาจะนอนหลับก็ตาม แต่ทางผู้โพสต์ก็สุขใจที่ได้อยู่ใกล้ๆกับแม่ค้าแมว นี่แหละหนาทาสแมวตัวจริง ชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเม้นต์ถึงความน่ารักของแม่ค้ารายนี้ กับคาเฟ่สุดน่ารักที่ทาสแมวต้องไปโดนซักครั้ง ที่มา Nong Jariya

จะบอกเจ้าของยังไง หลังมีคนให้มาและรับเลี้ยงได้6วัน ได้แต่โทษตัวเองที่ทำให้น้องจากไป

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : เจนณิตา ทิพมอน ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า อุทาหรณ์อย่าเอาแมวมานอนด้วยถ้าเรานอนไม่รู้สึกตัว เรื่องของเรื่องคือเราเลี้ยงแมวไม่ดีเองชอบเอาเเมวมานอนด้วยตรงที่นอน . ปกติน้องชอบมานอนบนหัว และตามตัวตลอด เเต่กรณีนี้ทำใจไม่ได้พึ่งรับน้องมาอยู่ได้เพียงเเค่6วัน (คาดว่าน่าจะนอนทับน้องจนสิ้นลมหายใจ) ก่อนหน้านี้เรานัดหมอจะไปฉีดวัคซีนวันนี้ พอวันนี้ตีสองตื่นมากลับเป็นว่าน้องไม่หายใจเเล้ว เราทำไรไม่ได้ตอนนั้นคิดเเค่ว่าปลุกอย่างเดียว+กับปั๊มหัวใจ แต่มันก็ไม่ได้ผลน้องไม่อยู่เเล้วจริงๆ ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงให้เขากลับมา ต่อไปเราคงไม่กล้าเอาน้องมาเลี้ยงอีกเเล้ว เราสงสารคนที่เค้าให้เเมวมา เค้าฝากชีวิตแมวไว้กับเรา เราอัปเดตน้องตอนที่มาถึงบ้าน อัปเดตตอนเข้ากะบะเอง สุดท้ายเราไม่อยากอัปเดตตอนที่น้องไม่อยู่เลย เราทำใจไม่ได้ แมวอีกตัวพอรู้น้องไม่อยู่นอนเฝ้าไปห่างเราบอกน้องไม่อยู่เเล้วเค้าจะเข้าใจเรามั้ย ถ้าเช้ามาไม่ได้เล่นด้วยกันน้องจะเข้าใจหรือเปล่า กลับดาวแมวขอให้หนูเกิดมาเป็นคนนะลูก ที่มา เจนณิตา...

หมดกันกองมรดกของแม่ เพราะวันนี้เองลูกสาวก็ได้พบความจริงว่าแม่จะยกมรดกทั้งหมดให้แมว

คำว่าทาสแมวไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแต่อย่างใด แต่คำว่าทาสแมวนั้นพวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกอยู่สุขสบาย แม้ในวันข้างหน้าน้องจะต้องจากไปก็ตามแต่ทาสแมวจะทำทุกอย่างเพื่อให้น้องได้ขึ้นสวรรค์ เหมือนกับเจ้าของเรื่องราวดังกล่าวนี้ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Suphitcha Peach Sangtumkijkul ได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์อันมีใจความระบุว่า เมื่อแม่ไปทำบุญถวายโลงแล้วถ่ายรูปมาให้ดู แม่แกก็เขียนในใบว่า "แมวน้อยอูยู"โอเคจ้ารู้เรื่องแล้วล่ะ ใครกันแน่ที่จะได้รับมรดกอูยูแมวสีนม ล ด้วยความรักของแม่นั้นที่เห็นน้องแมวเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แม่แกก็อยากให้น้องได้รับบุญไปเต็มๆจึงได้เขียนชื่อน้องเอาไว้ด้วยเดี๋ยวบุญไปหาไม่ถึง และด้วยความที่แม่เขียนชื่อน้องลงไปในใบบุญลูกสาวเองก็รู้แล้วแหละว่ามรดกของแม่จ๋านั้นจะตกไปเป็นของใคร จนเรื่องราวสุดน่ารักนี้ถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตเองต่างก็เฮฮากับเรื่องราวที่เกิดขึ้นและยิ้มไม่หุบกับคุณแม่ของเธอที่เขียนชื่อน้องเอาไว้เพราะกลัวว่าน้องจะไม่ได้รับบุญกุศลนี้ด้วย และกองมรดกนี้คงสั่นสะเทือนไปไม่น้อยที่ขุนแม่รักแมวพอๆกับลูกสาวเลย และชาวเน็ตได้กล่าวว่าขอย้ำอีกทีภาพนี้เป็นภาพจริงไม่ได้ถ่ายทำแมวที่เห็นในภาพก็เป็นแมวจริงๆไม่ใช่ตัวแสดง บ้างก็บอกว่า แม่แกอยากให้เจ้าแมวได้ขึ้นสวรรค์จึงทำทุกอย่างให้น้องได้บุญไปด้วย นี่แหละหนาทาสแมวตัวจริง ที่มา Suphitcha Peach Sangtumkijkul