แม่แมวกระเตงลูกน้อยเดินขอข้าวประทังหิว อดมื้อกินมื้อเดินลากสังขารขอข้าวเขากินเพราะไร้บ้านเหมือนใครๆ

เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2564 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Janejira Srisupo ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับแมวจรตัวหนึ่ง น้องเป็นลูกแมวจรตัวน้อยและแม่แมววัยกระเตาะที่ต้องคอยสะกิดขออาหารผู้คนที่เดินผ่านไปมา วันไหนเจอคนใจดีเข้าก็ได้อิ่มท้อง แต่วันไหนไม่มีโชคก็ต้องอดไปทั้งวันทั้งแม่และลูก . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า สวัสดีค่ะเราอยากหาบ้านให้น้องแมว น้องเป็นแมวจรตัวผู้เหลือลูก1แม่1รับคู่ได้จะดีมากๆเลยค่ะ น้องน่ารักขี้อ้อน ตอนนี้น้องน่าจะวัย1เดือนแล้ว เราอยากจะขอคนที่รักแมวจริงๆนะคะอยากให้น้องได้ไปอยู่ในบ้านที่อบอุ่น ได้โปรดพี่ๆเห็นใจหนูหน่อยนะคะ บ้างวันหนูก็อดบ้างวันก็ได้กินอาหาร พิกัดสุขุมวิทซอย3 ในเบื้องต้นทางผู้โพสต์อยากจะให้รับทั้งแม่แมวและลูกน้อยไปทั้งคู่ไม่อยากให้ทั้งสองต้องพรากจากกัน แต่นี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้วแต่น้องก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่มีใครสนใจอยากจะรับไปเลี้ยง เพราะบางท่านเขาก็ต้องการที่จะรับเพียงแค่ลูกแมวเพียงแค่ตัวเดียว จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโกลออนไลน์ จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นแลกอยากให้น้องแมวทั้งสองได้บ้านที่อบอุ่น จะได้ไม่ต้องไปเดินขอข้าวเขากินอดมื้อกินมื้อเหมือนอย่างที่เคยเป็น หากท่านใดสนใจอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงไปดูแลทั้งแม่และลูกก็ลองติดต่อไปยังผู้โพสต์ได้เลยนะ...

เครียดจนมือเท้าสั่นไม่หยุด รู้สึกผิดที่ทำอะไรไม่ได้ นั่งเหม่อลอยเป็นชั่วโมงหาวิธีทำให้น้องรอดชีวิต

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Patsamon Ni ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวขาวมณีแต่ต้องมาอยู่ในสภาพสุดจะบรรยาย หลังจากที่ผู้โพสต์ได้เจอน้องก็เลยสัญญาว่าถ้าได้พบเจอกันอีกเราจะพาน้องไปหาหมอ จนกระทั่งนั้นเอง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ช่วยเราด้วยน้องมีชื่อว่ามะลิ หรือ อาเหม๋ง (เพิ่งตั้งชื่อให้เมื่อเย็น) เป็นแมวไทยพันธุ์ขาวมณี ตาสวยสีฟ้าทั้ง 2 ข้าง มาวันนี้เราเจอน้องตั้งแต่กลางวัน น้องตัวผอมมากๆมีแต่กระดูกโผล่ตามภาพ (ตอนแรกคิดว่าโดนใครทำอะไรมา) เรารีบไปซื้ออาหารมาให้น้องกิน แต่พอกลับมาก็ไม่เจอน้องแล้ว คิดในใจว่าถ้าตอนเย็นเจอกันอีกจะพาน้องไปหาหมอ เราลองเดินถามคนงานแถวๆนั้นดู ว่าเห็นแมวขาวๆผอมๆบ้างมั้ย ถามไปหลายคนเขาก็ไม่มีใครเห็น...

เจ้าโชคแมวจรตอม่อ นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ยอมไปไหนกับบั้นปลายชีวิตที่ไม่เคยมีบ้าน

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ทุกวันนี้อยู่เพื่อแม่ แมวและหมา ได้เผยเรื่องราวของแมวจรตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวจรที่อาศัยอยู่ข้างถนนติดกับตอดับเพลิง น้องจะชอบมาขอข้าวกินอยู่ตรงนี้ทุกวัน และก็นานทีหนกว่าน้องจะได้กินกับชีวิตที่ไม่มีทางเลือก . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า น้องเป็นแมวจรชอบมานั่งอย่างมีความหวังรอคอยผู้ใจบุญนำอาหารมาให้อยู่ที่ข้างถนน ไม่รู้ว่าจะโดนรถที่วิ่งไปมาวันไหน น้องอาศัยอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามเดอะมอลท่าพระป้ายรถเมล์ชั่วคราว โดยน้องแมวตัวนี้มีชื่อว่าโชค ท่าทางจะอายุมากแล้วโดยชาวเน็ตเขาเคยเอาอาหารเม็ดให้กิน โชคกินแล้วเหมือนเคี้ยวไม่ค่อยได้ เลยเปลี่ยนเป็นอาหารเหลวแบบซอง โชคจะชอบมากค่ะ พี่จะใช้วิธีซื้ออาหารแล้วไปฝากไว้ที่ร้านขายเสื้อผู้ชายค่ะ เพราะโชคจะไปหาพี่ผู้ชายที่ร้าน ดีใจมากถ้าโชคจะได้มีบ้านสักครั้งนะคะ และในช่วงปีที่แล้วตลาดปิด น้องเดินไปเดินมาแถวนั้น ยังดีที่ไม่ตกงานเลยได้นำอาหารกับน้ำไปเติมให้...

จิตใจคนเราทำกันได้ แม้ตัวยังเล็กเพราะเพิ่งเกิดมาเห็นว่าเป็นภาระ คอยเกาะต้นไม้ระวังภัยด้วยใจสิ้นหวัง

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : เบญจมาศ ศรีชุม ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับลูกแมวจรตัวหนึ่ง น้องเป็นลูกแมวจรที่ต้องอาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวคอยเกาะต้นไม้ไว้เพื่อป้องกันภัยรอบตัว จนเธอนั้นเห็นเข้าจึงเกิดความสงสารและต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยน้อง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ในขณะที่เรากำลังเดินๆตัดยางอยู่นั้น แล้วเจอแบบนี้เข้าเจอน้องเกาะอยู่ตรงต้นยางด้วยความกลัว ไอ้เราจะไม่ช่วยก็ทำไม่ได้เพราะเจอกับสายตาอ้อนวอนอยู่อย่างนี้จะทำไงดีล่ะ เราตัดสินใจอุ้มกลับสิรออะไร ตัดยางไปด้วยพร้อมกับอุ้มแมวไป ส่วนคนนำน้องมาเทไว้นี่จิตใจทำด้วยอะไรทำไมชอบเอาน้องมาเทไว้อยู่ที่สวนอย่างแห่งนี้ ไม่สงสารน้องบ้างเลยหรือ น้องตัวนิดเดียวเองนะ ปล.คนอยู่ใกล้วัดจะเข้าใจฟิวส์นี้เป็นที่สุดเลย สงสารน้องและทั้งโมโหไปในตัว จนเรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์ในโลกออนไลน์และชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมกล่าวชื่นชมกับสาวใจดีคนดังกล่าวที่ได้ช่วยชีวิตเจ้าตัวเล็กๆตัวนี้ไว้ บ้างก็บอกว่า ต่อให้เราช่วยแมวสักตัวบนโลกก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรแต่สำหรับแมวแล้วโลกของเขาเปลี่ยนไปตลอดทั้งชีวิต ดีใจที่เจอมนุษย์ใจดี ที่มา เบญจมาศ ศรีชุม

วิ่งตามรถเก๋งสีขาวที่ผ่านไปมาทุกวัน กับความหวังลมๆแล้งๆที่ไม่อาจเป็นจริง

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Chanita Charoenwai Salazar ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอกับหมาจรตัวหนึ่ง น้องเป็นหมาจรที่อยู่ในพื้นที่นี้มาเป็นเวลานานหลายเดือนเหมือนกำลังรอเจ้าของ และน้องเองยังคงไม่ไปไหนกับความฝันที่ยากจะเป็นไปได้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า หดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ นานแค่ไหนก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมไม่ยอมไปไหน ทำไมใจร้ายจัง เจ้าของรถเก๋งสีขาวท่านใดเคยเทน้องหมาที่จงรักภักดีได้ลงคอ กี่วันกี่คืนเป็นอาทิตย์จะเป็นเดือนน้องยังคงเฝ้ารอเจ้าของอยู่ที่เดิมไม่ยอมไปไหน ทุกครั้งที่มีรถเก๋งสีขาวผ่านก็จะวิ่งตามอย่างมีความหวัง เพราะน้องยังมีความหวังว่าจะมีเจ้าของกลับมารับ ตื่นกลัวคนที่คอยเข้าใกล้ ถ้าท่านรับทราบกรุณามารับน้องเถอะน่าสงสารมากๆเลยครับ พิกัด ตลาดสดหัวดงพิจิตร ตลาดสดเทศบาลตำบลหัวดง ด้วยตัวน้องเป็นหมาผู้ซื่อสัตย์จึงยังคงเฝ้ารออยู่ตรงนี้เพราะกลัวว่าถ้าเจ้าของกลับมารับแล้วจะไม่เจอ แต่นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วน้องก็ยังคงอยู่ที่เดิม...

สาวให้คำมั่นกับลูกแมวจรที่มาร้องเรียกหา ถ้ายังอยู่ที่เดิมจนเลิกงานสัญญาว่าจะพาไปอยู่ด้วยกัน

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Pornlida Panglinput ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับกับลูกแมวจรมาร้องเรียกหาอยู่ที่หน้าออฟฟิศ ด้วยตัวเธอนั้นไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนในชีวิต เธอก็เลยพูดกับนางว่าถ้าตอนเย็นยังอยู่ที่เดิมจะเอากลับไปเลี้ยงที่บ้านนะ จนกระทั่ง.... . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เราไม่เคยเลี้ยงลูกแมวเลยค่ะ ตอนนี้น้องอายุถึงเดือนหรือยังก็ไม่รู้แฮะ นางมาร้องเมี้ยวๆอยู่หน้าประตูออฟฟิศหากไม่ช่วยไว้คงต้องโดนรถทับเป็นแน่แท้ เพราะว่าออฟฟิศอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย นั่งคิดตัดสินใจอยู่นาน แต่สุดท้ายเลยเดินออกไปบอกน้องแมวว่าถ้าเลิกงานแล้วเธอยังอยู่ตรงนี้เราจะพาเธอไปอยู่ด้วยนะ และผลสุดท้ายก็ได้เอาเธอกลับมาเลี้ยงที่บ้านค่ะ เพราะน้องก็ยังคงรออยู่ที่เดิมไม่ยอมไปไหน เหมือนกับนางรับรู้ได้ว่ากำลังจะมีบ้าน รบกวนขอคำแนะนำเพื่อนๆด้วยนะคะต้องทำยังไงบ้างเพราะไม่มีประสบการณ์การเลี้ยงแมวมาก่อนเลยค่ะ จนเรื่องราวนี้ถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ กับความแสนรู้ของน้องแมวจรที่พูดรู้เรื่องรับฟังเธอจนกระทั่งได้บ้านในที่สุด ไม่คิดไม่ฝันเลยนะว่าแมวจะเข้าใจภาษาเราเข้าใจจริงๆ ด้านชาวเน็ตหลังได้รับชมเรื่องราวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า น้องน่ารักมากๆ พาน้องไปหาหมอก่อนเลยค่ะ ให้หมอแนะนำส่วนค่ายาไม่แพง หยอดยาถ่ายพยาธิ อาบน้ำ...

เป็นหมาไร่ข้างๆ แต่เจ้าของไม่สนใจเลี้ยงแบบตามยถากรรมเพราะเป็นหมาไม่ชอบเห่า

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Visitnew Cha ได้เผยเรื่องราวของสุนัขตัวหนึ่ง น้องเป็นสุนัขของเจ้าของไร่ข้างๆ แต่ด้วยนิสัยของน้องเป็นสุนัขที่ไม่ชอบเห่า ไม่เห่าใครเลย....จนเจ้าของเขาไม่ชอบ เลี้ยงไปแบบตามยถากรรม จนกระทั่งผู้โพสต์เกิดความสงสารและหาทางทำอะไรสักอย่าง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า จากคำบอกเล่า...มีน้องหมาที่อยู่บนดอยตรงไร่ข้างๆ เจ้าของเค้าไม่ค่อยชอบน้องสักเท่าไหร่ เพราะน้องไม่ค่อยเห่า แต่ก็ไม่ถึงกับเกลียดหรอกนะครับ จึงปล่อยน้องไว้ตามยถากรรมแต่ก็มีน้ำมีข้าวให้กิน พอดีที่ไร่อยู่ข้างๆติดกันเห็นหมาตัวนี้ มาแวะเวียนบ่อยๆก็เล่นลูบหัวให้อาหารน้องและพูดคุยกับน้อง และต่อมาไม่นานนักน้องก็มาวิ่งเล่นมานอนและมาเฝ้าอยู่เป็นประจำ เวลาคนไม่ได้อยู่บนดอยต้องลงมาพื้นราบ ก็อดห่วงน้องไม่ได้เพราะข้างบนไม่มีใครอยู่ ได้แต่เทข้าวเทน้ำไว้ให้ จะเอาลงมาที่หมู่บ้าน น้องก็ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น คอยแต่จะดื้นและกระโดดตัวลงมา เวลาขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาน้องก็จะวิ่งตาม จนเป็นที่น่าสงสารต้องขับกลับไปและหาโอกาสหนีลงมาทุกครั้ง...

จากที่เคยมีรักมีบ้านที่อบอุ่น พอตนไร้เรี่ยวแรงกลับไม่แยแสเอามาเทไว้กะให้สิ้นใจ

เคยถามตัวเองมั้ยว่าเลี้ยงหมาไปเพื่ออะไร เลี้ยงเอาไว้แก้เหงาเอาไปเป็นเพื่อนลูกหรือเลี้ยงเอาไว้แค่เฝ้าบ้าน แล้วถ้าวันนึงน้องป่วยขึ้นมาคุณจะดูแลน้องเหมือนกับน้องดูแลคุณมั้ย เหมือนกับน้องหมาตัวดังกล่าวที่ล้มป่วยลงจนเจ้าของเห็นว่าเป็นภาระเอามาเทไว้ข้างทางกะให้สิ้นใจไป . โดยคุณ : ภาวรรณ นโรจโช ได้โพสต์ลงในกลุ่มและเล่าว่า น้องหมาตัวนี้มีคนเอามาเทไว้ให้อยู่เพียงลำพัง น้องต้องอาศัยอยู่แถวๆหน้าเชเว่นปางหมูจังหวัดแม่ฮ่องสอนค่ะ น้องป่วยอาการตัวแข็งและคอเอียงฝ่าเท้าแข็งตาข้างหนึ่งปูด น้องไม่สามารถกระดุกกะดิกได้ น้องต้องนอนที่ข้างทางค่ะตอนนี้เราย้ายน้องมาไว้ที่ตีนดอยข้างป่าค่ะ มีใครอยากจะอุปการะรักษาดูแลน้องไหมคะน้องเป็นหมาเพศเมียค่ะช่วยหน่อยนะคะพอดีที่บ้านเรามีมากแล้วค่ะรวมหมาแมวตอนนี้ก็26ตัวแล้ว และด้วยชีวิตที่เลือกไม่ได้นี้เองแค่ลำพังขยับตัวยังทำไม่ได้ แต่ต้องมาถูกเจ้านายเก่าเทแบบไม่เห็นค่า เทชนิดที่ว่ากะให้น้องหมดลมหายใจอยู่ตรงนั้นเลย คนเราก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่จิตใจทำด้วยอะไรทำไมถึงทำกันได้ลง หากท่านใดต้องการอยากที่จะช่วยน้องหรือรับน้องเอาไปเลี้ยงไปเอาไปดูแลก็ลองติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ได้เลยนะ ที่มา ภาวรรณ นโรจโช

เกิดเป็นจรอาศัยโรงเรียนอยู่ ใครเห็นต่างก็เบือนหน้าหนีเพราะเลี้ยงแล้วไม่ดีมีลักษณะที่ผิดไป

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Hansa Seesai ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เก็บเอามาเลี้ยง โดยเจ้าเหมียวทั้งสองนั้นเป็นลูกแมวจรตัวน้อยที่ใครๆเขาก็ไม่ต้องการ ใครหลายคนต่างก็บอกว่าน้องแมวทั้งสองเป็นแมวที่มีลักษณะที่ผิดเลี้ยงแล้วจะไม่ดี . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า สอบถามความคิดเห็นของพี่ๆทาสแมว โปรดใช้คำดีๆด้วยนะคะ คือมีคนเอาลูกแมวมาเทเอาไว้ที่โรงเรียน เหลือ 2 ตัวไม่มีใครเอาตัวนึงเป็นแมววิเชียรมาสครบจุดเลยค่ะ แต่หางกุด ผิดลักษณะที่คนไทยเขามีความเชื่อนี้ชื่นชอบ น้องเลยไม่มีใครเอาเลยสักคน ตัวนึงสีโกนจา แต่น้องไม่ดำสนิทมีสร้อยคอขาว และหางคดกุดผิดลักษณะแมวมงคลไปอีก ไม่มีใครเลี้ยงบอกสีดำไม่ดีอะไรแบบนี้ น้อง2ตัวไม่ดื้อไม่ซนเลยนะคะ เหมือนกับเจียมเนื้อเจียมตัวมากค่ะ เราเลยถ่ายรูปไปนำเสนอแม่ 555+" แม่บอกเอามาเลยจ้า เดี๋ยวแม่เลี้ยงเอง...

ช่วยได้แล้วน้องหมาตัวผอมหลังต้องทนอยู่กับชายพิการ พร้อมคำสารภาพที่ทำลงไปจนจุกในอก

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : เอ้ สหายบาว ได้เผยเรื่องราวของชายพิการผู้หนึ่งที่เดินจูงหมาตัวผอมอยู่ที่ข้างถนน จนมีคนใจดีเข้าไปพบเจอและให้การช่วยเหลือ จนกระทั่งมีชาวเน็ตหลายรายได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าชายพิการคนดังกล่าวเขาเอาหมาตัวผอมมาเดินข้างถนนเพื่อเรียกความสงสาร และเขาก็ทำอยู่แบบนี้กับน้องหมาหลายตัวแล้ว . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า พบน้องแล้วครับ พบแล้วครับ น้องหมากับชายพิการที่เดินร่อนข้างถนน ขณะนี้พบน้องแล้วนะครับโดยมีผู้ใจดี ได้ช่วยน้องออกมาจากชายพิการผู้นี้แล้ว เพราะชายพิการผู้นี้ใด้นำเอาน้องหมาจูงที่คอแล้วออกมาเดินตามท้องถนนเหมือนในข่าวก่อนหน้านี้ เพื่อสร้างจุดสนใจและเป็นภาพที่น่าสงสารแก่คนที่พบเจอจนทำให้เขาใด้รับเงินสิ่งของและอาหาร ตามที่เห็นในภาพของผมก่อนหน้านี้ โดยชายพิการผู้นี้ใด้นำเงินจากการที่เขาได้รับมานั้นเพื่อไปซื้อแอลกอฮอล์กินสนองความต้องการส่วนตนเอาไปใช้ส่วนตัว แต่ไม่ยอมมาดูแลน้องจนตัวน้องผอมแห้งจนตกเป็นเครื่องมือของเขาตลอดมานั้น ในขนาดนี้ใด้มีผู้ใจดีได้นำเขาออกมาจากขุมนรกจากชายพิการผู้นี้แล้วนะครับ และในตอนนี้เขาอยู่สุขสบายและมีความสุขขึ้นมากหลังน้องได้รับการช่วยเหลือ และนี่คงเป็นบ้านที่แท้จริงของเขาตลอดไป เพราะเขาได้มีเจ้าของที่มอบทั้งความรัก ความมอบอุ่น บ้านที่แสนสบายให้แก่น้องอย่างดีที่สุด พวกเราเองคงหมดห่วงตรงนี้กับน้องแล้วนะครับ ส่วนตัวผมเองขอกราบขอบพระคุณท่านที่อยู่ในพื้นที่ ที่ได้มาถามและบอกกล่าวถึงชายพิการผู้นี้นะ...