โดดเดี่ยวและสิ้นหวัง หลังแม่หมาเหลือรอดเพียงตัวเดียวจากน้ำมือของมนุษย์
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Sirapatsorn Thanesmaneekul ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับแม่หมาตัวหนึ่ง น้องเป็นแม่หมาจรที่เคยมีคู่ครองกับลูกน้อยอีกหลายชีวิต แต่ตอนนี้น้องต้องอยู่อย่างโดดเดียวเพราะถูกรถชนลูกกับคู่ครองจนสิ้นใจไปกันหมด
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แม่หมาผู้โดดเดี่ยว คู่ชีวิตและลูกน้อยก็ถูกรถชนจนสิ้นกันหมด อาศัยนอนอยู่ริมถนนไม่รู้รอใครกลับมา ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นยังไงไม่ว่าฝนตกอากาศร้อนอากาศหนาว ยามใดขับรถผ่านก็จะพบเจอน้องนอนอยู่ข้างถนนแบบนี้ทุกๆวัน
ในอดีตเคยมีคนให้อาหาร! เป็นเจ้าของเขียงหมูตรงข้ามฝั่งถนนที่เขานอนคอยให้อาหารกินบ้างเป็นบางครั้ง แต่ร้านเจ๊งเลยย้ายไปทำงานอยู่ที่อื่น หมาตัวนี้เป็นหมาจรที่อาศัยอยู่บริเวณนี้กับหมาตัวผู้อีกหนึ่งตัวพร้อมลูกน้อย 4-5 ตัว แต่ก็ถูกรถชนจนสิ้นไปทีละตัวสองตัว เหลือลูกรอดอยู่ตัวเดียว ดิฉันหาบ้านให้ลูกหมาแล้ว...
แม่แมวพกลูกมาเต็มท้องมาขอข้าวกิน หลังให้ข้าวไปหนึ่งมื้อกลับเปลี่ยนชีวิตน้องไปตลอดกาล
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2564 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : สตรี' เคยซิง ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้เคยให้ข้าวกับแม่แมวที่กำลังตั้งท้องอยู่ และอาหารเพียงมื้อเดียวนั้นทำให้น้องแอบมาให้กำเนิดลูกน้อยที่บ้านของเธอเลย เพราะแม่แมวรู้ว่าสาวทาสแมวท่านนี้ใจดี และนั่นทำให้ชีวิตของน้องอาจเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า หาบ้านให้กับเด็กๆค่ะ น้องอายุประมาณเดือนครึ่ง(ตัวยังนิดเดียวกันอยู่เลย) น้องทานอาหารเม็ดและใช้กะบะทรายเป็นแล้วจ้า ตัวเราเองไม่สามารถเลี้ยงได้เพราะที่บ้านของเราเลี้ยงหมาค่ะ (หมาดุ) โดยแม่แมวเป็นแมวจร
ที่ตอนนางตั้งท้องเราเคยให้ข้าวกินแล้วน้องเองก็มาแอบให้กำเนิดลูกน้อยที่นี่เลย (อาหารมื้อเดียวเปลี่ยนชีวิตเลย) ณ ตอนนี้ท้องหลายคอกแล้วด้วยค่ะเราดูแลไม่ทั่วถึงค่ะ ขอพี่ๆใจดีรับน้องไปดูแลหน่อยนะคะ พิกัด อ.กระทุ่มแบน...
สาวร้องไห้โฮรู้สึกผิดที่ขับรถชนน้อง หลังวิ่งออกมาตัดหน้ารถด้วยความเร็ว120กม./ชม.
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : SaRa NaLux ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้ขับรถมาด้วยความเร็วเพื่อที่จะไปวัด แต่ถูกน้องแมววิ่งออกมาจากในป่าตัดหน้ารถกะทันหัน จนน้องถูกชนเข้าอย่างจัง ใครๆก็คิดว่าน้องคงไม่รอด แต่น้องกลับมี 9 ชีวิต
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขอเล่าเหตุการณ์ก่อนเลยนะคะ เมื่อวานนี้ในขณะที่เรากำลังเดินทางจะไปถวายเพลที่วัดห้วยด้วน เรานั้นใช้เส้นทางทุ่งแว่นทับกฤชใต้ อ.ชุมแสง แล้วเราชนน้องแมวตัวนี้เข้าค่ะ เราขับมาด้วยความเร็วเกือบ 120 แล้วน้องก็พุ่งออกมาจากป่าข้างทางอย่างกะทันหันซึ่งตัวเราเบรคไม่ทันจริงๆ
และชนน้องเข้าอย่างจัง และด้วยความตกใจเราก็คิดในใจไม่อยากวนรถกลับไปดูกลัวเห็นภาพน้องแล้วเราจะทำใจไม่ได้...
เป็นแมวตัวอ้วนอายุก็มากแล้ว แต่จู่ๆก็ต้องกลายเป็นแมวไร้บ้านเพราะเจ้าของจำต้องปล่อยน้องไป
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Warin Tongjumrus ได้เผยเรื่องราว ของเจ้าแมวอ้วนทั้งสอง ทั้งสองเป็นแมวของชาวต่างชาติอายุ 7 กับ 14 ขวบ แต่ด้วยความจำเป็นที่เจ้าของต้องกลับต่างประเทศทำให้ทั้งสองต้องไร้บ้าน
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เด็กๆกำลังจะกำพร้าผู้เป็นเจ้าของน้องเป็นแมววัย 7ขวบ กับ 15 ขวบ เจ้าของเขาเป็นชาวต่างชาติที่กำลังจะต้องกลับบ้าน เลยจำต้องปล่อยเด็กๆไป ด้วยน้องแมวทั้งสองถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีเพราะเจ้าของคนรักน้องทั้งสองมาก
แต่ด้วยความจำเป็นที่ตัวเขานั้นจะต้องกลับบ้านกลับต่างประเทศ...
กระเสือกกระสนคลานไปข้างถนน หลังถูกรถชนนอนแน่นิ่งกว่า3วันแม้มีคนเห็นแต่ไม่มีใครคิดช่วย
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : น้ำ วาววาว ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับหมาจรตัวหนึ่ง น้องเป็นหมาจรเดินหาของกินตามข้างถนน แต่ก็ต้องมาถูกรถเขาชนจนเดินไม่ได้ ได้แต่นอนนิ่งรอวันสิ้นลมว่าเมื่อไหร่หนอจะหมดลมหายใจเสียที
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า พอดีเราได้พบเจอน้องนอนแน่นิ่งไม่ขยับเลย น้องขยับได้แต่หัวถามคนแถวนั้นเขาบอกน้องโดนรถชนมา2-3วันแล้ว สงสารมากกลัวว่าฝนจะตกใส่ไม่รู้จะพาน้องไปไว้ใหนเงินก็ไม่มีพาน้องไปรักษาขอความเมตตาจากคนใจบุญรับน้องไปรักษานะคะน้องเป็นหมาจร พิกัดทุ่งค่าย ย่านตาขาว ตรัง
จนกระทั่งมีน้องใจดีท่านหนึ่งได้เข้ามาช่วยน้อง พาน้องขึ้นรถและส่งน้องไปยังโรงพยาบาลสัตว์ เคสนี้มีคนตั้งชื่อน้องว่าน้องเส้นหมี่ ในเบื้องต้นคุณหมอได้บอกว่าน้องน่าจะถูกรถชนมานานกว่า 2-3 วันแล้ว เพราะน้องหลังหักไม่สามารถเดินได้ตลอดทั้งชีวิต
จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมยื่นมือเข้ามาช่วย ในเรื่องของเงินค่ารักษา ส่วนแอดมินเองก็ขอเป็นกำลังใจให้ขอให้น้องหายดีได้ในเร็ววัน ส่วนในอนาคตคงจะมีการหาบ้านให้กับน้องต่อไป
ที่มา...
มนุษย์ป้าลั่น ที่ต้องให้แมวแออัดกันอยู่แต่ในกรงนาน1ปีท่ามกลางกองขยะก็เพราะว่ารัก
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Namfon Hilgers ได้เผยเรื่องราวการช่วยชีวิตของแมวพ่อแม่ลูกที่ต้องอยู่ในกรงมาตั้งแต่เกิด ไม่เคยได้เดินไปไหนมาไหนแม่แมวก็ต้องให้กำเนิดลูกในกรงที่ไร้ทางออก พอลูกเกิดมาก็ต้องทนอยู่แต่ข้างในจะกระทั่งมีคนเข้าไปช่วย...แต่ป้าเจ้าของกลับอ้างว่ารักพวกเขามากๆ
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า พ่อแม่ลูกสามชีวิต มีผู้แจ้งเข้ามาว่า น้องแมวสามตัวที่ต้องอยู่แต่ในกรงตามรูป พิกัดหลังกาดต้นพยอม เชียงใหม่ ทางเราจึงขอเวลา2-3วันเพื่อเข้าไปตรวจสอบช่วยแมว จนเมื่อวานนี้เราจึงลงตรวจสอบ พบคุณป้า ผู้เป็นเจ้าของบ้าน และเป็นเจ้าของแมว จึงพูดคุยกันใช้เวลา10นาทีในการพูดขอแมวออกมา
จากการพูดคุยเบื้องต้นป้าไม่ยอมให้แมว ป้าบอกว่ารักพวกเขามากๆ คิดถึงพวกเขา แมวต้องใช้ชีวิตอยู่ในกรงมาตลอด1ปี จากที่มีไว้ทั้งหมด8ตัวสองกรง และสิ้นใจไปจนเหลือ3ตัว แมวจะผสมกันในนั้นและก็ให้กำเนิดลูกในนั้น...
ถูกคนเขาโยนเทมาไว้หน้าบ้าน ด้วยสองขาหน้าต้องคลานตามพื้นเพื่อร้องขอให้ช่วยชีวิตหนูที
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Pak Pakasagulwong ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอกับลูกแมวตัวน้อย ที่ถูกคนเขาโยนเทมาไว้ที่หน้าบ้าน ในตอนที่พบเจอน้อง น้องเดินคลานมากับพื้นด้วยสองขาหน้าด้วยความเป็นทาสแมวเขาจึงรีบพาน้องไปหาหมอในทันที
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า นี่คือแมวตัวที่สามของปีนี้แล้วมั้งครับ พอคนเขาเอามาเลี้ยงไม่ไหวก็เอามาโยนไว้หน้าบ้าน เอาไปโยนในป่าข้างบ้านให้ฝูงหมามาฟัดบ้าง สำหรับตัวนี้เป็นแมวตัวเมียอายุ 2 เดือน น้องคลานสองขาหน้ามาถึงหน้าประตูบ้านของผม
ขาของน้องด้านหลังใช้การไม่ได้ ลากมากับพื้นดีที่ผมออกไปเจอก่อนหมาจะเข้ามา ผลสรุปก็คือพี่สาวต้องขับรถพาน้องไปหาหมอ คุณหมอบอกว่าขาของน้องหัก เดินไม่ได้เสียค่ายาค่า X-ray เรียบร้อย เจ้าของเก่าน้องน่าจะเห็นว่าน้องขาหักและไม่อยากได้แล้วและไม่อยากรักษา
ไม่อยากมีภาระต่อไปอีกเลยเอามาโยนเทไว้ ขอเถอะครับ ใครที่เลี้ยงไม่ไหวก็อย่าคิดทำเลยนะครับ...
ช่วยได้แล้วน้องหมาตัวผอมหลังต้องทนอยู่กับชายพิการ พร้อมคำสารภาพที่ทำลงไปจนจุกในอก
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : เอ้ สหายบาว ได้เผยเรื่องราวของชายพิการผู้หนึ่งที่เดินจูงหมาตัวผอมอยู่ที่ข้างถนน จนมีคนใจดีเข้าไปพบเจอและให้การช่วยเหลือ จนกระทั่งมีชาวเน็ตหลายรายได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าชายพิการคนดังกล่าวเขาเอาหมาตัวผอมมาเดินข้างถนนเพื่อเรียกความสงสาร และเขาก็ทำอยู่แบบนี้กับน้องหมาหลายตัวแล้ว
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า พบน้องแล้วครับ พบแล้วครับ น้องหมากับชายพิการที่เดินร่อนข้างถนน ขณะนี้พบน้องแล้วนะครับโดยมีผู้ใจดี ได้ช่วยน้องออกมาจากชายพิการผู้นี้แล้ว เพราะชายพิการผู้นี้ใด้นำเอาน้องหมาจูงที่คอแล้วออกมาเดินตามท้องถนนเหมือนในข่าวก่อนหน้านี้
เพื่อสร้างจุดสนใจและเป็นภาพที่น่าสงสารแก่คนที่พบเจอจนทำให้เขาใด้รับเงินสิ่งของและอาหาร ตามที่เห็นในภาพของผมก่อนหน้านี้ โดยชายพิการผู้นี้ใด้นำเงินจากการที่เขาได้รับมานั้นเพื่อไปซื้อแอลกอฮอล์กินสนองความต้องการส่วนตนเอาไปใช้ส่วนตัว
แต่ไม่ยอมมาดูแลน้องจนตัวน้องผอมแห้งจนตกเป็นเครื่องมือของเขาตลอดมานั้น ในขนาดนี้ใด้มีผู้ใจดีได้นำเขาออกมาจากขุมนรกจากชายพิการผู้นี้แล้วนะครับ และในตอนนี้เขาอยู่สุขสบายและมีความสุขขึ้นมากหลังน้องได้รับการช่วยเหลือ
และนี่คงเป็นบ้านที่แท้จริงของเขาตลอดไป เพราะเขาได้มีเจ้าของที่มอบทั้งความรัก ความมอบอุ่น บ้านที่แสนสบายให้แก่น้องอย่างดีที่สุด พวกเราเองคงหมดห่วงตรงนี้กับน้องแล้วนะครับ ส่วนตัวผมเองขอกราบขอบพระคุณท่านที่อยู่ในพื้นที่ ที่ได้มาถามและบอกกล่าวถึงชายพิการผู้นี้นะ...
ถูกเขาเทมาไว้ที่เกาะกลางแม้ตัวยังน้อย ต้องรีบคลานหนีหัวซุกซุนเข้าป่าเพราะอยากมีชีวิต
ชีวิตที่ต้องเกิดมาอยู่อย่างโดดเดี่ยว จากที่เคยมีบ้านแต่เขาก็ไม่ต้องการนำน้องมาเทไว้ที่เกาะกลางถนน รถแถวนั้นก็เยอะไม่รู้จุดจบของชีวิตจะไปอยู่เช่นไร จนมีสายตาคู่หนึ่งที่ขับรถผ่านดันมาเห็นเข้า เขานั้นยอมกลับรถที่ติดหนักเพื่อไปช่วยเจ้าสี่ขาตัวน้อยนี้
.
โดยคุณ : มิน'น นี่'เมาส์ ได้โพสต์ลงในกลุ่มชมรมคนรักแมวเหมียวและเล่าว่า สวัสดีค่ะเราได้ขับรถกลับไปยังจังหวัดอ่างทองจากจังหวัดอยุธยา แฟนเขาขับรถมาบอกเห็นน้องแมวนอนหมอบอยู่ที่ตรงเกาะกลางถนนสายเอเซีย
เขาจึงรีบย้อนกลับไปกว่าจะข้ามไปรถก็เยอะกว่าจะเอาน้องมาได้ น้องวิ่งหนีไม่ไว้ใจผู้ใดเข้าไปในป่าหญ้า ต้องลุยไปแหวกจนนำได้มาถ้าน้องไม่เจอเราจะเป็นยังไงกัน รถแถวนั้นก็เยอะจะโดนเข้าวันไหนก็ยังไม่รู้ ไปอยู่ด้วยกันนะเจ้าโชคดี ใครชั่งเอาหนูมาเทไว้ในที่แบบนี้กันและต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวแบบนี้เนาะ
จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวชื่นชมให้กับเขาทั้งสองที่ได้ช่วยชีวิตน้องเอาไว้ หากสายตาคู่นั้นไม่ได้พบเจอน้องเข้าป่านนี้น้องคงต้องสิ้นใจอยู่ตรงนั้นไปเสียแล้ว
ต่อจากนี้ชีวิตตัวน้อยๆจะมีบ้านที่อบอุ่นและรักน้องจริง ไม่ต้องมาเดินอยู่ที่เกาะกลางถนนอยู่อย่างนี้อีก โชคดีเหลือเกินนะ สมชื่อเจ้าโชคดี หากไม่มีโชคคงต้องพบจุดจบไปเสียแล้ว ต้องขอขอบคุณทางเจ้าของโพสต์ด้วยนะที่ช่วยชีวิตน้องไว้
ที่มา มิน'น...
นอนเกาะกำแพงบ้านกันเอาไว้ด้วยใจยังคงคิดถึง ฝนตกทีก็ต้องเปียกกันทั้งบ้านเพราะเจ้าของเห็นว่าไร้ค่าจะดูแลต่อ
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : บุคคลสำคัญ คงไม่ใช่ฉันคนนี้ ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอแมว 5 ชีวิตที่ต้องไร้เจ้าของแม้มีบ้านแต่บ้านก็ไม่มีหลังคาไม่มีอาหารไม่มีพื้นที่ชีวิตให้กับน้องๆเลย เหลือเพียงกำแพงกับความรักที่เคยมีให้เพียงเท่านั้น
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เนื่องด้วยเจ้าของบ้านย้ายบ้านไปประมาณ4-5วันแล้ว แถมรื้อบ้านออกทั้งหมดเหลือเพียงกำแพงบ้าน โดยเทน้องๆไว้แบบไม่ใยดีส่วนเจ้าของก็เอาตัวรอดไม่ยอมพาน้องไปอยู่ด้วย แถมอาหารก็ไม่มี หลังคาก็ไม่มีให้หลบฝนหลบแดด
ผมจะเอาไปเลี้ยงก็เยอะเกินไป เพราะที่บ้านก็มีอยู่3ตัวแล้วครับ ผมสงสารน้องๆมากเลย วันนี้เลยเอาข้าวกับอาหารมาให้น้องๆได้กินกันครับ วิงวอนผู้ใหญ่ใจดีช่วยรับน้องๆไปอุปการะหน่อยนะครับ พิกัดซอยทางลัดหลังโลตัสกระบี่มาออกซอยวัดถ้ำเสือจังหวัดเมืองกระบี่
แมวแต่ละตัวก็ลายสีสวยทุกตัวเลย ทำไมใยเจ้าของถึงทำกับน้องได้แถมบ้านที่เคยมีเจ้าของที่เคยรัก แต่พอย้ายบ้านไปกลับไม่เอาน้องไปอยู่ด้วย...