หน้าแรก บล็อก หน้า 479

จุกในอกเขาลักสุดดวงใจไปปล่อยถึงในบ้าน เฝ้าตามหานานแสนนานน้ำตาไหล ไม่เคยคิดแม้ว่าจะมีจิตใจไม่รู้เป็นไงใยมาทำกัน

เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่ได้เกิดขึ้น มาจากการที่เราได้เลี้ยงแมวในระบบที่เปิดจึงเป็นเหตุทำให้พวกเขาได้สูญหายมากกว่าคนที่เลี้ยงดูพวกเขาในระบบที่ปิด หรืออาจจะมีในสิ่งที่เราได้มองข้ามทั้งเรื่องของคนข้างบ้านที่ไม่ชอบหรือเพียงแค่อันตรายจากภายนอกที่แม่นั้นมองไม่เห็น เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sunattha Neamplipol‎ ได้โพสต์เล่าร้องขอความช่วยเหลือลงในแฟนเพจ มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร หลังจากที่เธอถูกเขาลักสุดดวงใจไปปล่อยแม้จะอยู่ในบริเวณบ้าน ด้วยตัวเธอเองได้เลี้ยงน้องในระบบที่เปิด ซึ่งเธอก็ได้แต่เฝ้าตามหาน้องๆ เพราะเป็นแมวที่เลี้ยงดูมาตลอดจึงหากินเองไม่เป็นเธอก็กลัวว่าเด็กๆจะต้องอด โดยในตอนแรกเธอได้ไปถามคนข้างบ้านที่เอาไปปล่อยว่าไปเอาไว้แถวไหนเธอจะไปตามหาน้องๆคืนมา โดยเขาได้บอกว่าปล่อยแถวสาย 4 เอกชัย พอตอนเช้าเธอจะไปตามน้องๆเธอก็ไปถามย้ำและก็ให้เบอร์เอาไว้ และพอสักพักก็ได้มีคนโทรมาบอกเธอว่าเอาไปไว้ที่โรงเหล็กมาเฮงกี่ พระราม 2 ซอย 83 ซึ่งเธอก็พยายามที่จะไปตามหาทั้งน้ำตาไหลเธอวนแล้ววนเล้าก็ไม่เจอเด็กๆ แม้จะถามคนในระแวกนั้นก็บอกว่าไม่มี จึงอยากจะฝากตามหาด้วยใจหวัง เพียงสักครั้งได้เห็นหน้า ด้วยรักด้วยเอ็นดูสุดอุราลูกจ๋าแม่เป็นห่วงแทบขาดใจ ซึ่งเธอก็กลัวว่าน้องจะต้องพบเจอกับสุนัขเจ้าถิ่นเพราะน้องๆไม่เคยได้ออกไปใช้ชีวิตภายนอกบ้านอย่างเต็มตัว จะมีก็แค่อยู่ในรั้วบริเวณบ้านและไม่สามารถที่จะหากินเองได้ตามธรรมชาติ ซึ่งหากเพื่อนคนไหนพอจะเห็นน้องก็อยากจะให้ช่วยติดต่อเธอที ที่มา Sunattha Neamplipol‎ 

ได้ยินเสียงแมวร้องคิดว่าฟัดวิ่งเล่นกันเอง วิ่งออกมาไม่ทันได้แต่โทษตัวเองทั้งน้ำตา

หนึ่งชีวิตนั้นแสนจะมีค่าหากคิดว่าต้องการที่จะเลี้ยงดูให้เติบใหญ่ เพราะเอามาเลี่ยงก็เหมือนเด็กที่ต้องคอยหมั่นเอาใจ จะมีใครหน้าไหนคิดว่าตนเป็นลูกเหมือนตัวเรา เมื่อได้เลี้ยงเติบใหญ่ก็มักจะเรียกตัวว่าเป็นแม่สุดจะแท้ร้องหาเรียกเหมือนใจฝัน เมื่อไม่เห็นหน้าเห็นตาก็แสนจะคิดถึง หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า มะเดี่ยว เดี๋ยวเดียวกลับได้โพสต์หาผู้เป็นเจ้าของเจ้าเหมียวรายนี้ให้กับน้องลงในกลุ่ม ทาสแมว ชลบุรี ในวันที่ 11 สิงหาคม แต่ทว่าก็ไม่ได้พบเจอผู้เป็นเจ้าของ จนมาในวันนี้ผู้โพสต์ได้เล่าทั้งน้ำตาและโทษตัวเองว่าเมื่อตนนั้นออกมาช่วยเอาไว้ไม่ทัน โดยมาในวันนี้เขาเองก็ได้โพสต์ลงในกลุ่มดังกล่าวตามเดิม แต่ข้อความนั้นได้เปลี่ยนไปเพราะเขาได้แสดงความเสียใจและขอโทษกับความรู้สึกผิดของตน โดยได้เล่าว่าน้องได้เสียไปแล้ว เขานั้นออกมาช่วยเอาไว้ไม่ทันจริงๆไม่รู้ว่าเจ้าของน้องจะรู้หรือยัง น้องโดนงูรัดเมื่อคืน ซึ่งในตอนแรกเขาคิดว่าแมวฟัดกันจึงออกมาดูช้า เพราะโดยปกติในระแวกบ้านจะมีแมวจรเยอะและจะฟัดกันอยู่เป็นประจำ เขาก็ได้ยินเสียงแมวร้องด้วยปกติแต่ในวันนี้เมื่อเขาได้ออกมาก็ช่วยเหลือน้องเอาไว้ไม่ทันเสียแล้ว เขารู้สึกผิดกับตัวเองเป็นอย่างมากและอยากจะขอโทษทั้งเพื่อนๆในกลุ่ม และทางผู้เป็นเจ้าของแมวเอาไว้ เพราะเพียงแค่น้องเป็นแมวที่พลัดหลงมาและเขาได้ให้ข้าวกับน้องเพียงแค่ไม่กี่มื้อทำให้เขาก็คิดถึงและเสียใจในสิ่งที่ได้เกิดขึ้น ซึ่งถ้าหากว่าเขาพยายามตามหาผู้เป็นเจ้าของให้กับน้องมากกว่านี้น้องก็อาจจะไม่ต้องมาจบชีวิตลงเช่นนี้ และอยากจะฝากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงแมวเอาไว้ว่าสิ่งที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับแมวที่เรารักนั้นก็คืออ้อมอกอ้อมแขนของผู้เป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราเท่านั้น ที่มา ทาสแมว ชลบุรี

ผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมใหญ่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หลังพลเรือนนับมือมาร่วมตัวกันปราศัยคาดเป็นแกนนำ

ด้วยประเทศของเรานั้นเกิดการชุมนุมใหญ่เพราะจากการที่ต่างผ่ายต่างแสดงความคิดเห็นไม่ตรงกันในยุคสมัยของรัฐบาลดังกล่าว ทำให้เกิดการชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ทว่าได้มีชาวเน็ตบางรายได้มาเผยว่าได้ทราบตัวของแกนนำผู้ก่อตั้งการชุมนุมนี้ขึ้น นั่นก็คือเจ้าเหมียวตัวสีขาวส้มที่ขึ้นไปอยู่บนอนุสรณ์ของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย์ ในระหว่างที่เขาได้ก่อการชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ประชาธิปไตย และมีการปราศรัยต่างๆ โดยในระหว่างนั้นได้มีคนเห็นเจ้าเหมียวตัวนี้นอนอยู่บนปีกอนุสาวรีย์ดังกล่าว ในฝั่งของสตรีวิทย์ จึงได้ถ่ายรูปและเอามาโพสต์ลงในทวิตเตอร์ จนกลายเป็นไวรัลที่มีผู้คนได้ทวิตมากถึง 70,000 ครั้ง โดยต่อมาก็ได้มีคนเริ่มสงสัยว่าน้องอาจจะขึ้นไปแล้วลงมาไม่ได้เพราะจำได้ว่าในตอนที่ชุมนุมกันครั้งที่แล้วเมื่อวันที่ 18 กรกฏาคมเอง ก็มีเจ้าเหมียวตัวสีส้มขาวขึ้นไปอยู่บนนั้นเหมือนกัน ซึ่งอาจจะเป็นตัวเดียวกันหรือน้องอาจจะติดอยู่บนนั้นนานแล้ว จนในตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ทำให้หลายคนขำไม่ออกและพยายามที่จะหาทางช่วยน้องกันใหญ่ ด้วยในบางรายก็พากันไปร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิบ้าง เพจแมวกลุ่มแมวต่างๆบ้าง แต่ทว่าก็มีบางคนได้บอกว่าน้องส้มนั้นไม่ใช่แมวจร น้องมีเจ้าของและเจ้าของน้องก็เปิดร้านอยู่แถวนั้น น้องชอบขึ้นไปอยู่บนอนุสาวรีย์ โดยน้องสามารถที่จะขึ้นลงเองได้ และต่อมาก็มีคนมาบอกว่าไปเจอแมวในลักษณะเหมือนน้องส้มแถวร้านขายของ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแมวตัวเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อม๊อบได้เลิกการชุมนุมก็ได้ตรวจพบว่าน้องส้มไม่ได้อยู่ที่ปีกอนุสาวรีย์แล้วแสดงว่าน้องน่าจะขึ้นลงเองได้ทำให้ทาสแมวทั้งหลายโล่งอกโล่งใจไปตามๆกัน ที่มา Poetry of Bitch

สาวช่วยชีวิตหมาจรหน้าเซเว่น พยายามให้ใจไปทั้งหมดที่มีแต่น้องกลับเลือกที่จะหนีออกจากบ้าน

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ชนิดา พูลสวัสดิ์ ได้เผยเรื่องราวของหมาจรตัวหนึ่ง น้องเป็นหมาจรที่ถูกรถเขาชนมาอยู่บ่อยครั้ง จนน้องเกิดฝังใจวิ่งไล่รถมอเตอร์ไซค์ที่ผ่านไปมา จนกระทั่งน้องเกิดพลาดเข้าไปวิ่งตัดหน้ารถเขาจนเขาโกรธเอาก้อนหินวิ่งไล่ จนผู้โพสต์เห็นท่าไม่ดีต้องช่วยหมาจรตัวนี้สักทางเพื่อให้น้องปลอดภัย . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า จากคนแอบหลงรักหมาจร เราเรียกน้องว่าหลง หลงเป็นหมาจรหน้าเซเว่นแล้วอาศัยอยู่ที่ตลาดที่เราขายของอยู่ หลงเป็นที่รักของทุกคนทั่วไป แต่ตั้งแต่โดนรถชน 4 รอบนี้ท่าจะเจ็บจริงๆแล้ว นอนร้องไปสองสามวันเลย เราสงสารซื้อยามาป้อนรักษาตามมีตามเกิดจนน้องหาย หลงก็เปลี่ยนไปจนกลายมาวิ่งไล่เห่ารถมอเตอร์ไซค์หลายคันแทน สุดท้ายท้ายสุดดันไปวิ่งไล่รถกระบะ แต่ดันตัดหน้ารถมอไซค์จนเขาล้มลง คนแถวตลาดบอกว่า เค้าโกรธจนจะเอาก้อนหินไล่ เราสงสารเลยแบกน้องมาเลี้ยง ทั้งๆที่บ้านเรามีหมาอยู่ 5 ตัว แมวอีก 2 ตัว ตรงข้ามบ้านมีเกือบ 6 ตัว แต่เลี้ยงได้ 10 วัน ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากบ้านถึงตลาดนัก หลงก็กลับมาเองทุกครั้ง เราเครียดอยากให้หลงอยู่ด้วยก็เลยต้องใส่กรง หลงร้องโหยหวนจนชาวบ้านไม่ได้หลับได้นอนเลย จนเค้าร้องเรียนว่าจะให้เทศบาลมาเอาตัวไป เราเลยต้องเลี้ยงหลายๆแบบทั้งระบบปิดละเปิด แต่แปบเดียว หลงก็หนีมาที่เดิมอีกแล้ว เราเอาหลงกลับมาหลายครั้งหลงก็หนีมาทุกครั้ง จนตอนนี้ เราใกล้หลง เค้าก็เดินหนีเราแล้วหลงไม่เข้าใกล้เราเลย เราเป็นห่วง แต่เค้าไม่กลับ เราเครียดจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย เราควรไปยังไงต่อดีค่ะ หรือใครเมตตาน้องมีที่บริเวณให้น้องวิ่งเล่นไกลจากที่เก่าโปรดเมตตารับน้องไปเลี้ยงด้วยเถิด ก็แค่ความหวังเล็กๆจากคนรักหมา พิกัดปทุมธานีอยู่ซอยเมืองเอกใกล้มหาวิทยาลัยรังสิต ที่มา ชนิดา พูลสวัสดิ์

เป็นลูกแมวตัวน้อย ต้องนอนกกกันไว้เพราะหนาวสั่นด้วยฝนที่เทลงมาไร้ที่พึ่งให้อิงแอบเหมือนใครๆ

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ‎Immy Lee‎  ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับลูกแมวจรตัวน้อย ที่ต้องแอบหลบและอาศัยอยู่ในพุ่มไม้หน้าตึกแห่งหนึ่ง ด้วยฝนที่ตกลงมาแทบทุกวันทำให้น้องไม่มีที่หลบฝนหลบแดดต้องนอนด้วยความหนาวสั่น . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เราเดินมาเเถวๆตึกแกรมมี่เเล้วพบเจอน้องๆแมวนอนตัวสั่น เพราะน้องต้องตากฝนกันอยู่ตรงพุ่มไม้หน้าตึกซิโนไทยทาวเวอ ด้วยสภาพของน้องตัวผอมและดูหิวมากๆค่ะ แต่เราคงนำน้องไปเลี้ยงไม่ได้จริงๆ หากใครผ่านมาฝากมาดูน้องด้วยนะคะ หรือใครพอเอาน้องไปเลี้ยงในสถานที่ที่ดีกว่านี้ได้ หรือเป็นบ้านที่มีรั้วรอบขอบชิด ก็จะเป็นบุญมากค่ะ เราคงทำได้เเค่บอกสถานที่ๆของน้องๆเผื่อช่วยน้องได้ไม่มากก็น้อยค่ะ ขอบคุณค่ะ (เท่าที่เห็นน้องมีประมาณ4ตัวค่ะ) เท่าที่สังเกตคาดว่าน้องน่าจะถูกคนเขานำมาเทไว้ เพราะลูกแมวตัวยังเล็กนักแถวนั้นก็ไม่มีแม่คอยอยู่เคียงข้าง โดยปกติแล้วแม่แมวจะรักลูกมาก แม่แมวจะต้องดูแลลูกน้อยเสมอ แต่นี่น้องแมวทั้ง4ต้องอยู่กันตามยถากรรม โดยที่ไม่มีแม่คอยอยู่เคียงข้าง หากท่านใดสนใจรับเลี้ยงก็ลองติดต่อไปยังผู้โพสต์ได้เลยนะ ส่วนพิกัดก็อยู่แถวๆหน้าตึกแกรมมี่ ขอบ้านที่อบอุ่นให้กับน้องๆด้วยนะ น้องจะได้ไม่ต้องนอนตากฝนและทนทุกข์อยู่อย่างที่เป็นอยู่ ขอพื้นที่เล็กๆมีอาหารวันละ 1-2 มื้อแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ที่มา ‎Immy Lee‎ 

เจ้าของเก่าคิดว่าสิ้นลมจึงนำไปเทที่กองขยะ แต่โชคดีมีคนไปเจอนำรักษาชุบเลี้ยงจนเติบใหญ่

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ศักดิ์ ลอสูงเนิน ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอน้องหมาหายใจโรยรินใกล้สินใจอยู่ที่กองขยะ เพราะเจ้าของคิดว่าน้องไม่รอดแล้วจึงถูกนำมาเทไว้ให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว จนตัวเขานั้นไปพบเข้าและรีบพาน้องไปรักษาและชุบชีวิตเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า นี่ครับกำนัน สงกรานต์ ที่เจ้าของเดิมนึกว่าน้องหมดลมหายใจไปแล้ว แล้วนำไปเทไว้ที่กองขยะเพราะตัวน้องป่วยด้วยโรคพยาธิ แถมไตวายเฉียบพลันขาหลัง 2 ข้างไม่มีแรงเดินบริเวณนั้นมีหมาจรอยู่หลายตัวที่ผมคอยให้อาหารอยู่ทุกวัน เจ้าสงกรานต์โดนหมาจรบริเวณนั้นฟัดแต่ผมช่วยไว้ได้ทันวันนั้นเป็นวันที่ 13 เมษายนซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ตัวผมนำสงกรานต์ขึ้นรถออกจากกองขยะ และระหว่างทางฝนก็เกิดตกตลอดแถมสองข้างทางเขาเล่นน้ำสงกรานต์กันผมกับสงกรานต์เปียกทั้งสองคนเลยครับ   ปัจจุบันกำนันสงกรานต์สุขภาพร่างกายแข็งแรงดีเยียมเลยครับ ผมกราบขอร้องทุกๆคนครับ คนที่เลี้ยงหมาถ้าไม่พร้อมไม่รักจริงอย่าเลี้ยงเลยครับยามเจ็บยามป่วยรักษาเขาเถอะ ดูแลเขาเถอะครับ จากเพจ มะหมาผู้น่ารัก ปัจจุบันสงกรานต์เป็นหมาผู้สง่างาม เพราะได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าของโพสต์เป็นอย่างดี จากหมาที่ใกล้สิ้นลมแต่ปัจจุบันเติบใหญ่จนจำแทบไม่ได้เลย และตัวน้องเองก็กลายเป็นที่รักในกลุ่มคนรักหมา จากวันนั้นจนถึงวันนี้เลย ขอขอบคุณพี่ใจดีที่ช่วยชีวิตน้องเอาไว้ด้วยนะ   ที่มา ศักดิ์ ลอสูงเนิน

ถูกเขาฟัดนอนแน่นิ่งไร้เรี่ยวแรงจะรุกเดินต่อ ด้วยตัวเป็นจรไร้แม้เจ้าของเลยไม่รู้จะไปร้องบอกใครเขา

ยามเดือดร้อนทุกข์ยากลำบากใจ ยังมีใครที่คอยห่วงคอยถวิลหาแต่ในเมื่อได้เกิดมาเป็นเพียงจรที่ไร้บ้านที่อาศัย จะให้ไปร้องบอกกับใครว่าตนเจ็บหรือเดือดร้อนใครเล่าเขาจะฟัง เพราะชีวิตเลือกไม่ได้จึงต้องใช้ทนไปในแต่ละวันให้ผ่านพ้น แม้เพียงตนจะไร้เรี่ยวแรงสู้หรือเดินต่อ เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า วชิระ เริงสมุทร ได้โพสต์เล่าเรื่องราวหลังจากที่เขาได้พบเจ้าเหมียวนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ด้วยไร้แม้เรี่ยวแรงที่จะรุกเดินต่อไหว เพราะหมารุมฟัด แทบขาดใจจะมีใครเขามาสนชีวิตตนที่ไร้ค่า เขาจึงได้พยายามที่จะด้วยการกันสุนัขออกไปและมาโพสต์ลงในกลุ่มดังกล่าว ดัวยตัวเขาเองก็ไร้แม้ทรัพย์ที่จะสู้ไหว อีกทั้งจะปล่อยเอาไว้ก็คงจะสิ้นใจไปไม่นาน โดยผู้โพสต์จึงได้มาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในกลุ่มเพื่อว่าจะพอมีใครมาเมตตาน้อง ซึ่งได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ พรประภานิมิต 27 ร่วมสุข หรือหากอยากจะช่วยหรือรับเลี้ยงก็ติดต่อได้ที่ต้นโพสต์ และในเวลาต่อมาก็ได้มีคนใจดีได้รับดูแลเคสของน้อง เขาจึงได้พาน้องไปหาหมอเพื่อดูอาการต่อไปโดยมีผู้ใจบุญได้ออกค่ารักษาพยาบาลให้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะต่อลมหายใจได้อีกกี่วัน เพราะสภาพนั้นแสนจะยับเยินเกินครหา แต่ทั้งนี้น้องก็ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์แล้ว เราเองก็คงจะโล่งใจได้ไปอีกเปรอะนึง จึงอยากจะขอขอบคุณผู้โพสต์เอาไว้ที่เลือกจะช่วยและไม่ปล่อยให้ชีวิตน้อยๆนอนสิ้นลมไปต่อหน้าต่อตา และก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆที่ได้พบเจอสัตว์ต้องการความช่วยเหลือ ด้วยก็อยากที่จะให้ช่วยเพราะเราอาจจะเป็นความหวังและที่พึ่งสุดท้ายของพวกเขาในชีวิต ที่มา วชิระ เริงสมุทร

เดินเร่ร่อนไร้จุดหมาย ด้วยตัวยังน้อยจนเผลอเดินตกโคลนข้างถนน ไร้ผู้คนจะสนใจไร้แม่คอยดูแล

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Mew'Mew Soisema ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอลูกแมวตัวน้อยกำลังตกทุกข์อยู่แถวโคลนข้างถนน โดยเขานั้นก็เป็นทาสแมวอยู่แล้ว เมื่อได้พบเจอเขาก็ไม่ลังเลและรีบเข้าไปช่วยเหลือน้องเอาไว้ก่อน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า จะเอากลับหรือเอาไว้ที่เดิม ขณะเรากำลังขี่รถกำลังจะกลับบ้านผ่านถนนเส้นทางนี้ สายตาเราก็เหลือบไปสะดุดกับสิ่งมีชีวิตตัวน้อยอยู่กลางถนน แต่ด้วยความที่รถกำลังใช้ความเร็วมาพอสมควรและมีรถตามหลังมาจึงทำให้ไม่สามารถหยุดรถตอนนั้นได้ ผมเลยต้องเปิดไฟเลี้ยวไว้แล้วไปจอดรถค่อยย้อนหัวกลับมาอีกที แต่โชคยังดีที่รถสวนทางกลับมาไม่เหยียบสิ่งมีชีวิตตัวนี้ซะก่อน ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นทาสแมวจึงหันหัวรถกลับโดยไว สายตากวาดหาว่าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆอยู่ไหน และเราได้เจอน้องไปนอนในแอ่งน้ำโคลน(แอ่งน้ำของล้อรถที่ฝนตกแล้วมีน้ำขังอยู่) เราจึงรีบอุ้มน้องขึ้นมาแล้วสำรวจร่างกายว่าบาดเจ็บไหม โดยเบื้องต้นไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด น้องแค่ตัวสั่นเพราะความกลัวเท่านั้น เราจึงตัดสินใจอุ้มกลับบ้านมาในทันที จนเรื่องราวถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตเองหลังได้รับชมเรื่องราวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวคำชื่นชมกับหัวจิตหัวใจที่มีต่อน้องแมวที่กำลังตกทุกข์ ชาวเน็ตมากมายต่างพากันเชียร์อย่างสุดแรงอยากให้น้องอยู่กับทาสแมวที่มีจิตใจเหมือนกับเขา และทางผู้โพสต์เองก็รีบเอากลับมาบ้านและชุบเลี้ยงให้เป็นอย่างดี ที่มา Mew'Mew Soisema

ถูกเขาต้มน้ำร้อนสาดเข้าให้ เพราะเป็นแมวเขาถึงคิดว่าไม่มีใจ แค่ตัวไปเดินเฉียดกำแพงบ้าน

อาจจะด้วยความเมตตาของจิตใจมนุษย์เรานั้นแตกต่างกัน ทำให้มนุษย์บางคนมีใจที่เมตตาต่อสัตว์แตกต่างกัน เพราะด้วยการเลี้ยงดูที่ได้เติบใหญ่มาหรืออาจจะการเติบโตที่ถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวที่รักสัตว์กับบางครอบครัวที่ไม่ชอบสัตว์ ทำให้ไม่คิดว่าพวกเขาก็มีความรู้สึกหรือใจ เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เกิยรติศักดิ์ ยีเหม ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ในกลุ่ม ประเทศดอน หลังจากที่แมวของเขาถูกคนข้างบ้านใจร้ายเอาต้มน้ำรอด และสาดใส่น้องเพียงเพราะน้องไปเดินเฉียดกำแพงบ้างของเขาซึ่งเป็นกำแพงติดกัน ซึ่งทางผู้โพสต์เองได้เล่าว่า จิตใจคุณทำด้วยอะไร ต้มน้ำรอดสาด แมว แมวแค่เดินบนสันกำแพงบ้าน กำแพงและคูน้ำของผมก็สร้างขึ้นมา เจ้าของบ้านคุณ ที่คุณเช่าอยู่ยังขอร่วมใช้ แมวก็มีหัวใจให้สงสารเค้านะครับ เค้าฟังรู้เรื่องทุกอย่างแต่เค้าพูดภาษาเราไม่ได้เท่านั้น ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายนะคับ ด้วยสภาพที่เขาได้พบเห็นน้องมีผิวตัวที่แดงเหมือนกับโดนของร้อนสาดใส่ แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บมากแต่อย่างใดแต่น้องก็คงจะเจ็บมากน่าดู จึงอยากจะฝากเอาไว้สำหรับใครๆที่ไม่ชอบแมวหรือสุนัขก็อย่าไปทำอะไรพวกเขาเลย เพราะพวกเขาก็มีจิตใจไม่ได้ต่างจากมนุษย์เรา เพียงแค่เขาพูดไม่ได้ และอีกเรื่องการทำกับสัตว์เช่นนี้ก็มีความผิดในยุคสมัยนี้ หากทางผู้เป็นเจ้าของเอาเรื่องขึ้นมาไม่ว่าจะภายในหรือนอกรั้วบ้านของคุณเองก็มีความผิดเช่นเดียวกัน อีกทั้งการเลี้ยงสัตว์ในระบบปิดก็สำคัญแม้พวกจะให้พวกเขาออกไปข้างนอกเพียงแค่ชั่วครู่แต่ก็ควรที่จะอยู่ในสายตา ขอขอบคุณข้อมูลจาก เกิยรติศักดิ์ ยีเหม

เกิดเป็นจรแต่โชคดีเกิดมาหล่อ อาศัยอยู่ตามป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนสาวๆเห็นเป็นต้องกรี๊ด

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : จุติเวช รอดทอง ได้เผยเรื่องราวของแมวหน้าหล่อตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวจรหน้าหล่อที่อาศัยอยู่ตามป้ายรถเมล์ จนหนุ่มทาสแมวคนนี้ไปพบเข้าและได้โพสต์เผยโฉมหน้าอันหล่อเหล่าลงในโลกออนไลน์ เพราะหวังว่าสักวันน้องจะมีบ้านเหมือนใครๆเขา . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แมวหล่อบอกต่อครับ น้องอาศัยอยู่ตรงป้ายรถเมล์​แถวๆหน้าโรงเรียนบ้านบางกะปิ น้องเป็นมิตร​ดีครับ จะนอนอยู่ตรงบนกำแพงของโรงเรียน​ ผ่านไปผ่านมาติดอาหารไปให้น้องได้นะครับ เผื่อ​ว่าจะได้บ้านอยู่เหมือนใครๆเขา โดยตัวน้องนั้นเป็นผู้ชาย (หลังดำทั้งตัว มีลายอยู่ใต้ท้องอย่างเดียวครับน้องเป็นลายเสือ) ถ้าน้องได้บ้านบอกมาด้วยนะครับ ลองดูหน้าน้องดีๆสิครับหล่อมั้ยล่ะ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในกลุ่มทาสแมว จนชาวเน็ตแห่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกับความหล่อเหล่าของน้อง ด้วยหน้าตาที่คมเข้มไม่เหมือนกับแมวทั่วๆไป แถมน้องหน้าตาของน้องยังน่าเกรงขามผสมไปด้วยความดุดัน เหมือนกับเสือที่กำลังล่า จนเหล่าทาสแมวเสนอตัวเองขอรับเลี้ยงอยากเอาไปดูแล เพราะอยากให้น้องมีบ้านเหมือนกับใครๆ   ที่มา จุติเวช รอดทอง