หน้าแรก บล็อก หน้า 185

แมวหน้าเศร้าเคล้าน้ำตา กับชีวิตที่เคยมีบ้าน แต่พอเจ้าของย้ายไปกลับไม่เอาไปด้วย

มีแมวน้อยใหญ่มากกมายจากแต่ก่อนที่เคยมีบ้าน แต่พอเจ้าของย้ายบ้านไปกลับไม่เอาน้องไปด้วย เหมือนกับน้องแมวตัวดังกล่าวนี้ที่เจ้าของหมดรักไปเสียดื้อๆ จนน้องต้องกระเสือกกระสนเดินไปขอข้าวกิน และน้องก็ได้มาพบเจอกับทางผู้โพสต์ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : สายธาร แซ่ลี ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมว Official อันมีใจความระบุว่า ขอเล่าก่อนนะคะ น้องแมวตัวนี้เป็นแมวข้าบ้าน แต่เจ้าของแมวเขาย้ายบ้านไปอยู่ที่ใหม่ น้องเลยกระเสือกกระสนมาบ้านเราแทน เราเลยให้อาหารน้องกิน จนน้องแกก็ย้ายมาอาศัยบ้านเราแทน เราก็เลยรับเลี้ยงน้องเอาไว้ได้ปีกว่าแล้วค่ะ ที่น้องแกมาอยุ่กับเรา ทุกๆวันเราจะให้แต่ปลาทูกิน เพราะเราไม่มีเงินซื้ออาหารเม็ด จนได้โครงการคนละครึ่งมานี้เราก็ไปรูดอาหารเม็ดให้น้องกิน และหลังจากคนละครึ่งหมด เราก็เลยกลับไปซื้อปลาทูให้น้องแกกินเหมือนเดิม เพราะไม่มีเงินจะซื้ออาหารเม็ดแล้ว พอผ่านไป3วัน เรารู้สึกว่าน้องกินข้าวได้น้อยลง และอาการก็ดีไป2วัน พอกลับมาอีกทีเราตกใจเลย เห็นสภาพน้องเหมือนอาการป่วย เราสังเกตดูปากของน้องจะเป็นสีเขียวออกม่วง น้องไม่ยอมกินอะไรเลย เราสงสารแต่ไม่มีเงินพาไปรักษา ใครใจดีรับไปรักษาได้ไหมคะ เราไม่มีเงินจริงๆ ที่มา สายธาร แซ่ลี

กระเสือกกระสนจำกะเผลกเดินลากขา เก็บเอามารักษาจนหายดีวันนี้ต้องพาไปปล่อยไว้ที่เดิม

เพราะชีวิตของการเกิดมาเป็นจรเวลาเขาเกิดความเจ็บ ตัวเองไม่สามารถจะช่วยเหลือตัวเองได้ก็ต้องทนอยู่แม้จะต้องทนกะเผลกแบกสังขารลากขาไป เพราะตัวเองไม่สามารถจะไปร้องบอกใครให้มาช่วยเหลือตัวได้ก็ต้องเฝ้าทนไป แต่ก็ยังโชคดีมีคนมาช่วยไว้และพาไปรักษาให้หายดี เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Namfon Hilgers ได้โพสต์เรื่องราวอัพเดทของเจ้าเหมียวที่ไร้บ้าน และได้รับบา ดเจ็บที่สะโ พกห ัก ที่ทางมูลนิธิสัตว์สุขเพื่อสุนัขและแมวจร ช่วยเหลือรักษาพยาบาลให้ และในช่วงแรกเจ้าเหมียวเองก็ไม่สามารถที่จะเดินได้เลย เพราะตัวมีแ ผลที่สะโ พกที่ใช้สองขาหน้าในการลากตัว เลยต้องใช้เวลาในการรักษาไปร่วม 1 เดือน วันนี้เจ้าเหมียวสามารถกลับมาเดินเองได้แล้ว 90% เลยพาไปทำหมันและทำวัคซีนและให้ทางคุณหมอตรวจดูโรคต่างๆก็ไม่ได้เจอความผิดปกติแต่อย่างใด แต่ทางมูลนิธิก็ต้องทำใจพาเขากลับไปส่งไว้ที่เดิมที่เขาเคยอยู่ เพราะเขาสามารถจะใช้ชีวิตได้ตากปกติแล้วไม่เจ็บปวดและจะไม่สามารถมีลูกและมีอิสรภาพและมีความสุขในที่ๆเขาอยู่และเติบโตใา วันนี้เธอเลยได้มาส่งข่าวให้ท่านที่ติดตามอาการของเจ้าเหมียว และขอบพระคุณทุกคนมากๆ เพราะชีวิตที่เขาเคยเกิดมาอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เคยได้อยู่ทางมูลนิธิเลยตัดสินใจจะให้น้องกลับไปอยู่ในที่เดิมเพราะการรักษาหายดีแล้ว และอีกหนึ่งเหคุผลที่ไม่สามารถให้น้องอยู่กับทางมูลนิธิได้ต่อคือช่วงรักษาตัวน้องดุมากและไม่เอาใครเลย แต่พอส่งกลับก็เห็นว่าเขามีความสุขมากกว่าที่จะอยู่แบบนี้ และถ้าเพื่อนๆอยากจะรับไปเลี้ยงดูก็อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้กับน้องมากเพราะเขาเกิดมาเป็นจรเลยเคยชินกับสภาวะแวดล้อมที่ต้องปกป้องตัวเอง ที่มา Namfon Hilgers

จำต้องหาบ้านให้ตัวไปอุ้มมาจากใต้ท้องรถเขา เป็นลายลูกบอลเศร้าที่บ้านก็เลี้ยงอีกไม่ได้แล้ว

แม้แต่หนึ่งชีวิตที่ต้องเกิดมาเป็นจรและต้องจำขออาศัยแม้ใต้ท้องรถคนอื่น แม้เช้าตื่นต้องระหกเร่ทนออกหาและทนหิววันดีคืนดีถูกเขาทับเจ็บมากก็ต้องทนอยู่ไปอีก เพราะชีวิตของการเกิดมาเป็นจรที่ไร้แม้คนรักหรือผู้เป็นเจ้าของมันไม่ได้ง่ายเหมือนที่ใครเขาเห็นเลย เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า PangRum Meephol ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้ามิ้วลายลูกฟุตบอลเพื่อที่จะหาผู้อุปการะ เพราะเธอเองไปอุ้มน้องมาจากใต้ท้องรถ เป็นตัวเมียอายุประมาณ 4 เดือนได้น้องมีนิสัยอ้อนมากๆข ั้นสุดเดินตามเธอตลอดไม่ยอมห่างเลย เพราะทางเธอเองมีแมวอยู่แล้ว 3 ตัวและอยู่ในห้องพักที่ทำงานระบบปิด เป็นชุมชนแออัดแม้ทรัพยากรเองก็ไม่ได้มีเพียงพอต่อแมวจะงอกอีกได้ เลยมาหาบ้านให้แม้ลายของน้องก็น่ารักมาจนเธออยากจะเก็บเอาไว้เลี้ยงเองแต่ก็คงจะดูกำลังตัวเองและเข้าใจว่าเลี้ยงเพิ่มอีกไม่ได้ เพราะแมวในวัยสี่เดือนพวกเขาก็กำลังอยู่ในช่วงของวัยรุ่นและวัยอยากจะอยู่ใกล้ชิดกับคนเพราะเป็นแมวจรแล้วด้วยพวกเขาก็คงอยากจะมีใครสักคนคอยรักและหวังดีกับเขา แม้การเกิดมาแล้วไร้คนรักคนดูแลรักษาคงต้องทุกข์ไม่ได้เบา ก็ตัวเขาไม่สามารถจะเลือกอะไรได้ด้วยแค่เกิดมาเป็นเพียงจร แม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วยตัวก็คงจะต้องทนไปแต่ก็ยังโชคดีว่าผู้โพสต์อุ้มมาก่อนแล้วค่อยหาบ้านให้เราก็ขอบคุณมากๆ ที่ไม่ปล่อยเทน้องเอาไว้ให้อยู่อย่างยากลำบาก ลายก็สวยมากถ้าใครอยากจะรับอุปการะน้องก็สามารถจะติดต่อกับทางต้นโพสต์ดูได้เลย . ที่มา PangRum Meephol

กระเสือกกระสนคลานเข้าฟุตบาท แม้ตายังปิดสนิทร้องสุดชีวิตให้ช่วยเหลือตัว

เพราะชีวิตกว่าจะเกิดมาได้และมีลมหายใจอยู่บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องง่ายกับการที่แมวจะออกลูกมาแล้วโตขึ้นมามีสภาพร่างกายที่แข็งแรงหรือแม้แต่การจะเกิดมาแล้วเป็นแมวจรตัวหนึ่งที่มาขออาศัย เพราะชีวิตจริงๆแล้วมันไม่ได้ง่ายกว่าจะโตมาได้ต้องสิ้นใจกันไปเท่าไหร่ถึงตัวจะรอด เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า NP Pongsan Pechsuwan ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้ามิ้วตัวน้องสองชีวิตที่กระเสือกกระสนคลานเข้ามายังริมฟุตบาทแม้สายสะด ือยังคาร กยังไม่หลุดและตาน้องก็ยังไม่ได้ลืม แต่ก็ต้องพยายามจะคลานและช่วยเหลือตัวเองให้รอดพ้น เขาก็เลยมาโพสต์หาบ้านให้กับน้องๆเพราะเขาไม่สามารถจะรับไปเลี้ยงเองได้แต่สามารถจะพาไปส่งให้ได้ในพื้นที่กรุงเทพ และถึงแม้จะมีเพื่อนๆหลายคนเข้ามาโพสต์ถามหาแม่ของเด็กๆเขาเองก็ได้ไปตามหาและถามคนในพื้นที่แล้วคนในพื้นที่ก็บอกว่าแถวนี้ไม่มีแมวสีขาวส้มเลย และภายหลังจากการโพสต์หาบ้านให้ก็ได้มีคนใจดีเข้ามารับอุปการะน้องท ั้งสองไปเลี้ยงดูและผู้โพสต์ยังมาอัพเดทอีกว่า ทุกท่านสามารถจะติดตามช่วยของน้องๆได้จากเพจ น้องมิ้ว นะครับเพราะพี่ที่รับไปเขาเป็นเจ้าของเพจและเขาก็จะพยายามมาอัพเดท น้องๆให้ทุกคนทราบจากเพจเลย เพราะสองชีวิตที่เพิ่งจะเกิดมาตายังไม่ทันได้ลืมเลย เราเลยพยายามจะบอกเสมอว่าการช่วยเหลือหรือถ้าเราได้เจอเขาตกอยู่ในสภาพกำลังเดือดร้อน ก็อยากจะให้ยื่นมือเข้าไปช่วยเพราะมันอาจจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่พวกเขามี เพราะถ้าไม่มีผู้โพสต์คนนี้ลูกแมวท ั้งสองตัวก็คงจะไม่รอดชีวิต เพราะแมวเด็กพวกเขาต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมากแค่อุณหภูมิในร่างกายไม่อบอุ่นมากพอก็สามารถจะสิ้นลมไปได้แล้ว เราก็ขอบคุณผู้โพสต์ที่ไม่เลือกจะเทพวกเขาไว้ . ที่มา NP Pongsan Pechsuwan

จุกในอกเพราะเห็นน้องหมดลมหายใจอยู่ตรงหน้า กับภาพสุดท้ายที่หลงเหลือเพียงความทรงจำ

คนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวอย่างเราๆคงจะทราบกันดีว่า สักวันหนึ่งแล้วน้องหมาน้องแมวของเราจะต้องจากเราไปก่อน เราเองจะต้องทำใจให้ได้เพราะอายุขัยของน้องมันสั้นกว่ามนุษย์อยู่มากนัก เหมือนกับเรื่องรางสุดเศร้าของสาวทาสแมวท่านนี้ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Sommai Udomchum ได้เผยเรื่องราวสุดเศร้าลงในกลุ่มทาสแมว4.0 อันมีใจความระบุว่า ภาพสุดท้ายของหนูฮาโล จากแม่ไปแล้วไม่มีวันกลับ “ หลังจากน้องต้องผ่ารอบที่สอง น้องทำอัลตร้าซาวด์และให้คีโม รักษาตามอาการ แต่น้องไม่ไหว เพราะมะเร็งมันลามไปจนทั่วแล้ว สัตว์แพทย์เขาก็บอกว่า ปอดน้องมีโลหิตออกมา หนูหายใจเองไม่ใด้ ต้องหายใจทางท้อง เราสงสารลูกมาก หัวใจของแม่แตกสลาย เมื่อกอดสุดท้ายเห็นหัวใจหนูหยุด เราก็กลั้นใจ จนเขาจากไปตรงหน้า ลูกรักของแม่ Rip จนเรื่องราวการจากไปของน้องได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเม้นต์กับการจากไปของน้อง และขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดี ท้ายที่สุดนี้เราเองก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้เป็นเจ้าของด้วยนะครับ ที่มา Sommai Udomchum

หนุ่มขอระบาย บอกใครเขาจะเชื่อว่าบ้านไม่ได้เลี้ยงแมว แต่กลับมีแมวมาหาทุกวันทั้งๆที่บ้านตัวเองก็มี

แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่อินดี้สุดๆ พวกเราชาวมนุษย์ไม่สามารถคาดเดาใดๆเกี่ยวกับตัวน้องได้เลย ยิ่งเป็นแมวของเพื่อบ้านแล้วนี่ยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่ เหมือนกับเรื่องราวของเจ้าเหมียวเพื่อนบ้านตนนี้ ที่จะไปบอกใครเขาว่าไม่ใช่แมวของตนก็ไม่มีใครจะอยากเชื่อ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ต้นไม้ กับ กาแฟ ได้เผยเรื่องราวสุดน่ารักลงในกลุ่มชมรมแมวสายดาร์กอันมีใจความระบุว่า ไม่มีใครเชื่อว่าเจ้าแมวตนนี้มันไม่ใช่แมวตรู มันไม่ใช่แมวตรูจริงๆนะ อ่ะๆบ้านแกก็มีแต่แกก็ไม่อยู่ กลับไปนอนเฉพาะกลางคืน พอตีห้าเท่านั้นแหละมานั่งเหรอหราอยู่บ้านตรูอีกแล้วแล้ว คืออะไรกันหน้อบ้านตัวเองก็มีแท้ๆ แล้วตรูที่ต้องซื้ออาหารเม็ดไว้รออีก เพราะกลัวว่าแกจะหิว นี่ฉันทำไปเพื่ออะรายยยยย ฉันทำไปเพื่อออออ นี่แหละหนาอันแมวนั้นไม่สามารถคาดเดาใดๆกับตัวนางได้เลย ขนาดบ้านตัวเองไม่มีแมวแท้ๆก็ยังมีแมวมาหา จะไปบอกใครเขาก็ไม่เชื่อว่านี่มันไม่ใช่แมวของฉันเลย จนเรื่องราวของน้องได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเม้นต์และยิ้มไม่หุบกับน้องแมวตัวดังกล่าวนี้ ที่มา ต้นไม้ กับ กาแฟ

กลายเป็นจรเร่ร่อนกับดวงตาที่มองไม่เห็น แม้มีเจ้าของแต่เขากลับไม่รักคิดเทแบบไร้ค่า

ถ้ามีพลังวิเศษอยากจะให้โลกของเราไม่มีหมาแมวจรอีก เพราะชีวิตของน้องน่าสงสารมากๆ จากที่เคยมีบ้านมีครอบครัวแต่จู่ๆกลับเป็นจรโดยไม่ได้ตั้งใจ เหมือนกับน้องแมวตัวดังกล่าวนี้ทีมีดวงตาเพียง 1 ข้างกับชีวิตที่ไม่เหลือใคร . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : แพร แพรสินีย์ ได้เผยเรื่องราวลงในโลกออนไลน์อันมีใจความระบุว่า สวัสดีครับน้องอยากจะมาขอความเมตตาอยากมีบ้านที่อบอุ่นอีกสักครั้งค่ะ ใครเอานุ้งแมวมาปล่อย! ตาก็เลอะเทอะมาก เอาน้ำอุ่นเช็ดตาให้ อีกข้างไม่มีลูกตาของน้องแล้วด้วย ส่วนตาอีกข้างคิดว่าไม่น่าจะมองเห็นแล้ว น้องหิวโซมากแถวนี้รถก็เยอะ หมาเย๊อะ เราอยากจะหาบ้านให้กับน้องหากปล่อยให้เป็นแมวจรอีกน้องคงไม่น่ารอดแน่ๆ ด.ญ.อายุไม่น่าจะเกิน3เดือนค่ะ หากท่านใดอยากช่วยเหลือน้องแมวหน้าเศร้าตัวนี้ลองติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะ เพราะน้องไม่ขออะไรมากน้องเพียงขอบ้านที่อบอุ่นอีกสักครั้งในชีวิต เพราะถ้าน้องต้องกลายเป็นจรคงจะมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้อีกไม่นาน   ที่มา แพร แพรสินีย์

ระหกเร่กระเสือกกระสนปีนขึ้นกำแพงหนี ข้าวปลาก็ไม่ค่อยจะมีตกถึงท้อง

เพราะชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นจรแล้วพวกเขาไร้แม้ทางจะให้เลือกต้องทนอยู่แม้ตัวเจ็บก็ไร้คนจะพาไปรักษา เวลาจะนอนต้องคอยแอบปี่นขึ้นกำแพงหนีหมา เจอแมวจรมาถูกเขาไร้ก็ต้องหนีไม่ได้นอนเลย แม้เวลาถูกคนเขาไล่ก็ต้องเฝ้าคอยแม้แอบหนีมาอาศัยบ้านคนเขา เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Bussaraporn Sittipon ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้ามิ้วแมวจรหลังเธอได้เจอน้องมาน่าจะถูกสุนัขฟัดมา และเจ็บค่อนข้างมากและยังมีอาการซึมแม้ตอนนี้เธอก็ให้อาหารน้องกินแล้ว เลยอยากจะมาขอความช่วยเหลือ เพราะเธอเองก็ไม่มีเงินจะพาน้องไปรักษาและคิดว่าน้องน่าจะเป็นแมวจรที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน น้องอยู่หมู่บ้านเมืองประชาซอย 11 ถ้าใครอยากจะรับเคสหรือพอจะมีกำลังช่วยเหลือน้องได้ก็จะขอขอบคุณมาก เพราะตัวน้องก็คงไร้ที่ให้ไปแล้วจริงๆ หนึ่งชีวิตที่ต้องทนอยู่กับความเจ็บมันคงลำบากมากเลย เพราะกว่าจะหลับตาลงนอนได้แม้กลางคืนย ุงก็เยอะ ตัวก็เลอะแม้ความเจ็บจะให้หลับตาลงนอนสนิทได้ยังไงลง เราเลยอยากจะบอกกับทุกคนเวลาเจอแมวจรที่เจ็บตัว อยากจะให้ช่วยอย่างน้อยก็ถ่ายรูปของพวกเขามาลง และบอกที่อยู่ของพวกเขาเพื่อว่าจะมีคนใจดีเห็นแล้วเกิดความสงสารเขา และสามารถจะช่วยพาเขาไปหาหมอเพื่อรักษาให้หายดี และถ้าเพื่อนๆพอจะมีกำลังเหลือและอยากจะช่วยน้องเราก็ขอให้ช่วยหนึ่งชีวิตที่ไร้แม้ทางจะไปและต้องทนอยู่อย่างไร้แม้ความหวัง ที่มา Bussaraporn Sittipon

จำกะเผลกนิ้วบวมเป่งไม่ส่งเสียงร้อง หลังตัวถูกหม้อแปลงแตกใส่ทนมาร่วม 5 วันแล้ว

เพราะการมีชีวิตในการที่ได้เกิดมาเป็นจรแล้วแสนจะยากลำบาก ต้องทุกข์อยากเรื่องกินอยู่ก็ลำบากจะแทบไม่ไหวแล้ว ยังต้องเจอกับเคาระห์ซ้ำกรรมซัดให้อีกเพราะตัวไปปีนไม่รู้ยังไงแล้วถูกหมอแปลงตะเบ ิดใส่จนนิ้วบวมเป่ง แต่ก็ไม่มีแม้จะร้องส่งเสียงจนช่างไฟฟ้าเขามาซ่อม ยังคิดว่าน้องสิ้นใจไปแล้วเลยเขี่ยน้องตกลงมาที่พื้น เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nawat K. Rattikarn ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้ามิ้วแมวส้มตัวหนึ่งที่นอนหมดเรี่ยวแรง ซึ่งจากการไปถามกับน้ายามเพิ่มเติมเขาบอกว่าน้องถูกหม้อแปลงแตกใส่มาร่วม 5 วันแล้ว ต ั้งแต่เย็นวันพฤหัสที่ 24 ก.พ. แต่ก็ไม่มีใครเห็นน้องเพราะน้องนอนแน่นิ่งอยู่บนน ั้น จนกระท ั่งมีช่างไฟมาซ่อมหม้อแปลงและเขาก็คิดว่าน้องสิ้นใจไปแล้วเลยเขี่ยน้องร่างลงมาที่พื้นด้านล่าง ซึ่งปกติถ้ามีแมวมูหรืออะไรขึ้นไปถูกไฟช ็อตและหม้อแปลงตะเบ ิดแบบนี้บ่อย แต่ก็ไม่เคยจะมีเห็นรอดมาได้สักตัวเลยมีน้องตัวแรกที่ทนและรอดมาได้ เธอก็กำลังติดต่อหารถและรพ.ที่จะพาน้องไปหาหมออยู่นะคะ เธอเองก็ไม่รู้จักคลินิคแถวนี้เลยค่ะ ตอนนี้กำลังติดต่อเพื่อนๆพี่ๆคนในพื้นที่แถวนี้ให้ช่วยอีกแรง และเธอก็มาอัปเดทเวลา 21.40 น. น้องได้ถึงมือหมอแล้วนะคะประมาณ 1 ทุ่มไปถึงร้านหมอเหมียวจรที่โรงเรียนถูกหม้อแปลงตะเบ ิดใส่ตามืดสนิทขาก็เจ็บทานอะไรไม่ได้ น้ายามได้บอกกับเธอมา และหมอก็แจ้งว่าอาการเบื้องต้นน้องน่าจะปลอดภัยแล้วแต่ก็ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดอีกที ที่มา Nawat K. Rattikarn

“แอนนา” โพสต์แล้วเดี๋ยวแม่จะเลี้ยงหนูให้ดีที่สุดเลยนะ หลังจากเสียเพื่อนรัก “แตงโม นิดา”

เพราะหลังจากที่เป็นข่าวและทุกคนก็คงจะรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับดาราสาวอย่าง แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ซึ่งตัวของคุณแตงโมเองก็เป็นทาสแมวและทาสแมวก็ได้หันกลับไปถามว่าแล้วหลังจากนี้เด็กๆจะอยู่กันอย่างไรเมื่อต้องไร้แม่แล้ว ซึ่งล่าสุดทางเพื่อนสาวอย่างแอนนา ก็ได้ออกมาโพสต์เกี่ยวกับน้องแมวว่าเดี๋ยวแม่จะเลี้ยงหนูให้ดีที่สุดเลยนะ เตรียมบ้านให้ลูกสาวก่อน เพิ่งคุยกับพุดเดิ้ลว่าโมไม่เทอะไรไว้ให้เห็นแทนใจบ้างเลย ก็เลยได้แบมบี้มาทันที เพราะหลังจากการที่เธอโพสต์ลงไป ทางฮิปโปเพื่อนสาวของคุณแตงมาก็ได้พาแบมบี้มาส่งให้ถึงในบ้านคุณแอนนาเลย และน้องแบมบี้ก็น่ารักมากรู้งานเพราะมาถึงก็เข้ามานวดให้กับทางคุณแอนนาเลยด้วย แม้ในตอนแรกทางคุณแอนนาก็กะว่าจะรับแค่แบมบี้เพียงแค่ตัวเดียว แต่พอรับฟังเรื่องราวจากเพื่อนๆของคุณแตงโมแล้ว ว่าทางคุณแตงโมเขาตั้งใจให้น้องแบมบี้และน้องบ๊อบเป็นแฟนกันเพราะเขาได้รับเข้ามาอยู่ร่วมกันเป็นคู่ๆ ทางแอนนาก็เลยต้องเปลี่ยนใจและรับเลี้ยงน้องสองตัวพร้อมกันเลย ส่วนทางคุณปู่หรือน้องเตอร์ทางฮิปโปจะเป็นคนรับไปเลี้ยงดูส่วนน้องแมวพันธุ์สฟิงซ์ อีกตัวคุณเบิร์ดแฟนของคุณแต่งโมจะขอเลี้ยงไว้ เนื่องจากน้องแมวสฟิงซ์มีนิสัยคล้ายกับคุณแตงโมมากและคุณเบิร์ดกับคุณแตงโมก็รักแมวทุกตัวมากเหมือนกัน และในเวลาต่อมาทางแอนนาก็ได้ไลฟ์สดลงในเฟสบุ๊คทำให้เราเห็นโมเม้นต์น่ารักๆของน้องแมว พร้อมกับแววตาที่แสนจะเศร้าใจของน้องบ๊อบเพราะเขาก็คงจะคิดถึงผู้เป็นแม่ที่เคยเลี้ยงดูแลพวกเขามา และประกอบกับการต้องเปลี่ยนบ้านเปลี่ยนที่อยู่อาศัยเขาก็คงจะต้องใช้เวลาปรับตัวไป แต่เราก็ขอให้น้องได้อยู่ในบ้านใหม่และมีแม่คนใหม่ดูแลให้หนูเป็นอย่างดีนะ . . ที่มา แอนนา