เห็นจนชินตาแต่ปลาบปลื้มไม่มีวันลืม พระอุ้มหมาเดินไกลหลายกิโลเพื่อพาน้องไปรักษา

การทำบุญไม่จำเป็นต้องเข้าวัดเสมอไป ไม่ว่าเราจะช่วยเหลือสัตว์ด้อยโอกาสหรือช่วยเหลือคนแก่ข้ามถนนสิ่งเหล่านี้ก็ถือเป็นการทำบุญอย่างนึงนะ เหมือนกับพระท่านรูปนี้ที่คนแถวนี้พบเห็นจนชินตาที่พระท่านจะอุ้มหมาป่วยและไร้โอกาสอุ้มด้วยมือทั้งสองข้างเพื่อพาน้องไปหาหมอด้วยตัวเอง . โดยคุณ : บุ้งกี๋ หิรัญวัฒน์ ได้โพสต์เรื่องราวลงในโลกออนไลน์และเล่าว่า พระผู้ที่มีแต่ความเมตตากรุณาต่อสัตว์ยากไร้นั้นหายากนะคะ และมันเป็นภาพที่คุ้นชินของคนในระแวกแถววัดปากน้ำจังหวัดนนทบุรี ที่จะเห็นพระท่านเขาอุ้มหมาวัดป่วยเดินไปหาหมอ ซึ่งคลีนิคอยู่ห่างจากวัดราวๆ 1 ป้ายรถเมล์ พระท่านบอกกับเอ๋ว่าไม่อยากไปรบกวนญาติโยมเขา อะไรที่อาตมาพอจะทำเองได้ก็จะทำเอง หากไหวก็จะพยายามช่วยเหลือหมาที่วัดที่นี่ให้ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ สงกรานต์ปีนี้หากใครไม่ได้ไปทำบุญทำทานที่ไหนไกลๆ เราอยากจะชวนมาทำทานกับพระตี๋ท่านที่วัดปากน้ำ จังหวัดนนทบุรีนะคะ หากท่านมีภาระที่ต้องดูแลหมาวัดทั้งให้ข้าวทั้งหมาป่วยพาไปรักษา ใครพอเมตตาช่วยเหลือกันได้เอ๋ว่าพระท่านก็คงยินดีที่จะอนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ ที่มา บุ้งกี๋ หิรัญวัฒน์

ขนาดหมอยังเอ่ยปากไม่เคยพบเจอหมาดุขนาดนี้ หลังต้องใช้7คนช่วยกันจับเพื่อช่วยชีวิตน้องไว้

โดยคุณ : Anny Koomsup ได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์อันมีใจความระบุว่า สวัสดีค่าา วันนี้มีเรื่องของ 'โจ' มาเล่าให้ฟังค่ะโดยค่ำคืนของปลายปีที่แล้ว ตอนที่เรากำลังกลับมาจากที่ทำงานมา เด็กที่บ้านเดินมาบอกว่ามีใครไม่รู้เอาหมาดุๆดุม๊ากกก . มาปล่อยในซอยบ้านเราก็เลยเดินไปดูพอเจอก็(โอ้โห) ดุสมคำร่ำลือคุยเลยค่ะ อ่ะพักไว้ก่อนอาจจะหลงขอถ่ายรูปนึงก่อน(รูปแรกนั่นแหละจ้า) แล้วเอามาลงประกาศตามหาเจ้าของตามเพจต่างๆ พอวันรุ่งขึ้นเด็กๆที่บ้านบอกว่าคนในซอยบอกว่ามีคนใส่รถกระบะมาปล่อยจ้า อห (ไม่ใช่โอ้โห) ทำไงดีน้าา เพราะนางดุมากๆแล้วก็ในซอยมีเจ้าถิ่นอยู่ปากซอยบ้าน กับท้ายซอย เจ้าโจนี่อยู่กลางซอยไม่กล้าไปไหนให้อาหารก็กินนะคะ แต่เค้าก็ขู่ตลอดเวลาพออีกวันนึงเลยตัดสินใจให้คนเขามาทำให้น้องซึมแล้วก็เอาตัวไปโรงพยาบาลสัตว์ เอาไปในที่ปลอดภัยก่อนละค่อยว่ากันเนอะ ตอนที่ไปถึงหมอรายงานมาเลยค่ะว่านางดุมากกก ดุมากๆๆๆค่ะ ไปถึงตรวจนั่นนู่นนี่แบบใช้คนจับ...

หนูน้อยวัยเพียง10ขวบ รีบวิ่งกลับบ้านไปคว้าสวิงของพ่อเพื่อช่วยแมวติดท่อที่กำลังจะสิ้นลม

เมื่อไม่นานมานี้แฟนเพจเฟสบุ๊ก : Poetry of Bitch ได้เผยเรื่องราวของเจ้าหนูคนหนึ่ง เจ้าหนูคนนี้กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ที่หลายคนพูดถึง หลังภาพของน้องถูกเผยแพร่ออกไปในขณะที่น้องกำลังช่วยลูกแมวติดอยู่ในท่อระบายน้ำ จนทางแฟนเพจดังกล่าวได้ไปหาข้อมูลความเป็นมาว่าน้องได้ช่วยเหลือได้อย่างไร และน้องเป็นใครมาจากประเทศไหน . โดยทางแฟนเพจได้เล่าว่า หนูน้อย 10 ขวบคนนี้ อยู่ที่รัฐเคดาห์กับพ่อแม่ และพี่ชาย-น้องสาวรวม 4 คน น้องเป็นลูกคนที่ 3 และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ในขณะที่น้องกำลังเล่นอยู่กับเพื่อนๆอยู่ ในละแวกบ้าน...

ผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง ลุงดำแม้จะเป็นใบ้แต่ช่วยหมาจรกว่า20ปี แม้ตนจะลำบากแต่สุขใจที่ได้ทำ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Orawan Aunsopa ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับคุณลุงวินท่านหนึ่ง คุณลุงวินท่านนี้เป็นใบ้ไม่สามารถพูดได้เลย แต่คุณลุงท่านนี้ถือเป็นผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง เพราะชีวิตของคุณลุงจะคอยให้ข้าวหมาจรมาแล้วกว่า 20 ปี แม้ทางบ้านของคุณลุงจะลำบากก็ตามที . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ถ้าใครอยู่ในพื้นที่แถวสายไหมเพิ่มสิน น่าจะคงเคยเห็นผู้ชายใส่เสื้อวินมอไซต์ที่จะคอยเอาข้าวใส่ถุงก๊อบแก๊บไปให้หมาจรตามจุดพื้นที่ต่างๆ เห็นแกบ่อยแต่ก็คลาดกันตลอด พอมาวันนี้ได้มีโอกาสเจอกันที่ท็อปเพิ่มสิน เรารีบลงจากรถเพื่อไปถามไถ่คุณลุงแกดู แกพูดไม่ได้ แต่ฟังเราพูดรู้เรื่องนะคะ ถามว่าทำข้าวมาแจกเองหรือมีคนจ้างให้เอามาให้แกบอกแกทำเองทั้งหมด ถามว่าชื่ออะไรแกใบ้ด้วยการชี้ไปที่ผิวของแกไอ้เราก็ไม่เข้าใจ แต่สรุปต้องใช้วิธีพิมพ์ในมือถือเอาถึงจะได้เข้าใจ พี่ดำอายุ 56 ปี ให้ข้าวหมาย่านนี้มา...

พี่ไปรษณีย์ขี่รถมาหาหมาแทบทุกวัน และน้องหมาก็รอพี่เขาเสมอทั้งๆที่วันนี้ไม่ได้มีพัสดุหรือจดหมายมาส่ง

มิตรภาพมันสวยงามเสมอไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ก็ตาม แต่มิตรภาพมันยิ่งใหญ่เนื้อคำบรรยายแม้วันๆจะเจอกันเพียงแค่ครั้งเดียวก็ตาม เหมือนกับเจ้าหมาตัวดังกล่าวนี้กับพี่ไปรษณีย์ที่เขาทั้งคู่จะได้เจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่พี่ไปรษณีย์ก็จะเข้ามาหาน้องหมาทั้งๆที่วันนี้ไม่ได้มีพัสดุหรือจดหมายมาส่ง . โดยคุณ : Preeyaporn Phuangsuwan ได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์อันมีใจความระบุว่า หนูแอบชอบพี่ไปรษณีย์ พี่เค้าก็มีใจคอยแวะมาหาหนูตลอด ถึงจะไม่มีจดหมายหรือพัสดุมาส่งบ้านนี้ก็ตาม แต่แม่ชอบเรียกเข้าบ้านทำไมแม่ไม่เข้าใจหนูเลย ถ้าลูกสาวคิดจะหนีออกจากบ้านเราควรทำยังไงดีคะ ไม้เรียวในมือแอบสั่นได้มั้ยคะ นางมีชื่อว่าแครกเกอร์ และพี่ไปรษณีย์คนดังกล่าวนี้ก็มักจะแวะเวียนเข้ามาเล่นกับหมาของเธออยู่เป็นประจำ ทั้งๆที่วันนี้ไม่ได้มีพัสดุหรือจดหมายมาส่งเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะด้วยความน่ารักของน้องหมาที่เฟรนลี่กับพี่ไปรษณีย์แบบสุดๆ ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนซี้กันทั้งๆที่ไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันเลย แต่มิตรภาพของทั้งคู่ทำให้คนในโลกออนไลน์ต่างพากันยิ้มไม่หุบกับเรื่องราวดังกล่าวนี้ น่ารักทั้งคนทั้งหมาเลยเนอะ ก็คิดว่าเรื่องราวแบบนี้จะมีแค่ในต่างประเทศ ที่มา Preeyaporn Phuangsuwan

ยิ้มได้ทั้งวันหลังถูกใส่กระสอบ และมีสาวใจดีเข้าไปช่วยและนางยิ้มเพื่อแทนคำขอบคุณ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Pearwa Kaewkong‎ ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอลูกหมาตัวหนึ่งถูกใส่กระสอบ แล้วนำน้องมาวางไว้ที่หน้าบ้านของเธอ ในตอนแรกเธอก็สงสัยนะว่าข้างในกระสอบนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ แต่พอลองเปิดดูกลับพบว่ามีลูกหมาตัวน้อยกำลังส่งยิ้มหวานให้เหมือนกำลังขอบคุณที่ช่วยชีวิตน้อง . โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า เคยมั้ยเห็นคนเอากระสอบต้องสงสัย มาวางหน้าบ้านแล้วขับรถหนีไปกระสอบมันขยับได้ รีบวิ่งมาดู สรุปเป็นอย่างในรูป ตั้งชื่อให้ว่าน้องบุญทิ้ง โชคดีพอโพสต์ลงเฟสบุ๊กได้ไม่นานแล้วก็มีคนสนใจรับไปเลี้ยง น้องน่ารักยิ้มหน้าบานเลย ดูรอยยิ้มนี่สิ มันคือรอยยิ้มแห่งความสุขเลยนะถึงแม้ว่าน้องจะไม่เป็นที่ต้องการของเจ้าของคนเก่าแล้วก็ตาม เหมือนน้องยิ้มเป็นการขอบคุณเลยที่ช่วยชีวิตน้องเอาไว้ และน้องเองไม่ได้ยิ้มแค่แปบเดียวนะ แต่น้องยิ้มนานมาก นานมากๆ จนสาวผู้โพสต์ขอถ่ายรูปหน่อยและโพสต์ในกลุ่มรักหมาจัง นี่ขนาดออกมาถ่ายรูปไกลๆน้องก็ยังส่งยิ้มหวานให้เลยนะ มนุษย์หนอมนุษย์ทำกันได้ลงน้องน่ารักซะขนาดเนี้ย คุณพลาดแล้วแหละกับหนึ่งชีวิตที่จะซื่อสัตย์กับคุณไปตลอดทั้งชีวิต และไม่ต้องเป็นห่วงนะน้องได้บ้านแล้ว...

เจ้าแมววิ่งหนีหมาหนีขึ้นไปบนต้นไม้ เห็นคนผ่านมาตัดสินใจตีสนิทเพื่อหวังให้ช่วย

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : นคร ชล‎ ได้เผยเรื่องราวของแมวตัวหนึ่ง แมวตัวนี้วิ่งหนีหมาขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ และด้วยความกลัววิ่งหนีจนเหนื่อยทำให้น้องไม่กล้าที่จะลงมาจากต้นไม้ หนุ่มรายดังกล่าวไปพบเจอตัวเข้าจึงตัดสินใจอุ้มเข้าบ้านไว้ก่อน เพราะกลัวน้องจะเกิดอันตราย . และถ้าจะดูจากรูปร่างหน้าตาของน้องแล้วน้องน่าจะเป็นแมวที่มีเจ้าของและหนีออกจากบ้านมา เพราะด้วยสภาพร่างกายที่ดูอวบอ้วน และเป็นแมวสายพันธุ์ ตามเนื้อตัวขนก็ดูค่อนข้างสะอาดเรามั่นใจได้เลยว่าน้องต้องมีเจ้าของแน่ๆ แต่จะทำยังไงได้ก็ต้องช่วยน้องไว้ก่อนแหละเนอะ ถ้าปล่อยให้น้องอยู่บนต้นไม้อย่างนั้นก็คงจะไม่ดีแน่ๆ หนุ่มใจดีจึงหาอาหารให้น้องได้กินก่อนและน้องก็คงหิวมากด้วย ชาวเน็ตเองก็อยากให้ดูแลน้องไปก่อน และดูว่าจะมีเจ้าของมาตามหาน้องแมวหรือไม่ ชาวเน็ตหลายท่านอยากให้หนุ่มรายดังกล่าวประกาศตามหาเจ้าของ ไม่ก็ติดป้ายเอาไว้แถวบ้านว่าแมวตัวนี้ของใครหาย ตอนนี้อยู่บ้านหลังนี้นะ ถ้าคุณเป็นเจ้าของและมาแสดงหลักฐานก็สามารถรับน้องไปเลี้ยงได้เลย เราหวังว่าน้องจะได้กลับบ้านในเร็ววันที่สุดนะ ทางเจ้าของคงคิดถึงน้องมาก ถ้าเจ้าของเห็นโพสต์นี้และมั่นใจว่าเป็นแมวของตนเองก็สามารถติดต่อไปยังต้นโพสต์ในลิ้งด้านล่างได้เลยนะ คราวหลังก็อย่าหนีเที่ยวอีกนะเจ้าของเขาเป็นห่วง ขอขอบคุณ : นคร...

โชคดีที่ไม่มีใครเอา เอาไปให้ใครเขาก็ไม่ต้องการความคิดเปลี่ยนจากคนไม่ชอบแมวกลายเป็นรักสุดหัวใจ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : J-Pasu Pramokchon ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอลูกแมวตัวหนึ่งที่ติดฝากระโปรงรถของแฟนมาตั้งแต่ลำปางจนถึงเชียงใหม่ ใจนึงก็ไม่ชอบแมว แต่อีกใจก็คิดถึงตัวเองว่าแมวตัวนี้เหมือนกับชีวิตของเขาที่เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกับเขา ก็เลยตัดสินใจเอาไงเอากันจะเลี้ยงน้องให้สุดความสามารถเลย . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เมื่อ 6 ปีก่อน ได้เก็บลูกแมวตัวหนึ่งได้เพราะน้องติดมากับใต้ฝากระโปรงรถของเมียจากลำปาง พอมาถึงเชียงใหม่ผมกะจะล้างรถทำความสะอาด ผมได้ยินเสียงเลยล้วงเอาออกมา สภาพอย่างที่เห็นเลย เอาให้ใครเขาก็ไม่เอาเพราะผมไม่ชอบแมวอยู่แล้ว แถมเลี้ยงไม่เป็นด้วย สุดท้ายเพราะเห็นเขาพยายามเลียทำความสะอาดตัวเอง ซึ่งปกติแล้วแม่แมวจะทำให้ลูก แต่เขาไม่มีแม่ เลยคิดถึงตัวผมเองที่กำพร้าเหมือนกับแมวตัวนี้ เลยตัดสินใจว่าจะเลี้ยงสักตั้ง พาไปหาหมอ ตรวจสุขภาพ ซื้อนมสำหรับสัตว์มาป้อนทุกๆ...

นอนร้องไห้พยายามสบตา พยายามเข้ามากอดเข้ามาจับแก้วเพราะอยากได้ความรักสักครั้งในชีวิต

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Mythycal Minnie ได้เผยเรื่องราวของเจ้าส้มแมวที่เธอนั้นได้ตัดสินใจเลี้ยงเอาไว้ หลังน้าสาวฝากแมวเอาไปส่งให้คุณป้าท่านหนึ่ง แต่ป้าท่านนั้นก็ไม่ยอมมาเอาแมวที่นัดกันไว้จนกระทั่ง เจอสายตาคู่น้องๆเข้ามาสบตา และพอได้รู้จักนิสัยใจคอทำให้เธอนั้นหลงรักจนสุดหัวใจในครั้งแรกที่เห็น . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว น้าสาวเขาได้โทรมาหาเราให้ขับรถเอาเอกสารไปให้ที่โรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ในตอนขากลับแกฝากกล่องใบใหญ่ใบนึงมาด้วยและบอกว่า ฝากให้ป้าแถวบ้านด้วยนะเดี๋ยวเย็นๆป้าแกจะมารับไปเลี้ยงเอง แมวใครก็ไม่รู้มันน่าสงสารมันหลงมาจ้า ระหว่างทางเค้าก็ร้องตลอดทางจนมาถึงบ้าน พอถึงบ้านได้ก็เปิดกล่องออกมาดูผลปรากฏว่าตัวใหญ่มาก ทำเราต๊กกะใจอย่างแรง กลัวว่าเค้าจะฟัด กลัวจะมาข่วนเรา แต่ไม่เลยเค้ามองหน้าเราแล้วก็ร้อง เรากะลองไปเอาข้าวเอาน้ำมาให้ เค้ารีบกินจนสำลักออก จากนั้นเอาเค้าไปอาบน้ำในห้องน้ำคือเค้านั่งนิ่งๆให้อาบน้ำให้ไม่ร้องไม่ข่วนใดๆเลย เรียบร้อยมากๆวันนั้นรอป้าจนเย็นจนค่ำจนมืดแล้วไม่มีใครมารับแมวไปเลย คืนนั้นเองเลยต้องเอาเค้ามานอนด้วยในห้องเค้าเดินมานอนบนหน้าอกเราเค้าจ้องตาเราพยายามสบตากับเราแล้วก็ร้องไห้ออกมา แล้วเค้าก็เอามือมาจับแก้มเราให้เราหันมองตาเค้า เค้าจับแก้มซ้ายแก้มขวา...

ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ หนูน้อยกอดแมวไม่ยอมปล่อยและพร้อมมอบความรักไว้แนบกายจนคนที่พบเห็นต่างยิ้มไม่หุบ

เราทุกคนล้วนถูกพ่อแม่ปลูกฝังมา บางคนก็มีสัตว์เลี้ยงตั้งแต่เรายังเป็นเด็กแต่สำหรับเด็กบางคนแล้วเกิดมาไม่เคยได้สัมผัสกับหมาแมวมาก่อนเลย แต่ด้วยหัวจิตหัวใจที่แตกต่างกันออกไปเวลาเราได้เห็นภาพเหล่านี้มันช่างดูอบอุ่นหัวใจซะเหลือเกิน . เหมือนกับผู้โพสต์ท่านนี้โดยคุณ : Kanyapon Suksai ที่ได้พบเจอและได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์อันมีใจความระบุว่า จะรักฉันอีกนานไมโปรดช่วยปล่อยเค้าไปทีเถอะ เจ้านั่งกอดกันนานมากน้องแมวก็อยากวิ่งเล่น ฮ่าฮ่าฮ่า และในภาพนี้ก็คือน้องชายของเธอเองที่กำลังกอดแมวด้วยความรักและความอ่อนโยน และเจ้าเหมียวสามสีตนนี้ก็ไม่ดิ้นไม่อะไรเลยนะ สมยอมใจให้น้องของเธอกอดอย่างสมอุรา จนภาพของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมยิ้มไม่หุบกับน้องของเธอ และความรักความอบอุ่นที่มอบให้เจ้าสามสีนั้นใครเห็นต่างก็ต้องตกหลุมรัก เพราะเด็กน้อยคนนักนะที่จะรักแมวและดูอบอุ่นหัวใจเหมือนกับน้องชายของเธอ ที่มา Kanyapon Suksai