โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : จิระเดช เสนจันทร์ฒิไชย ได้เผยเรื่องราวพร้อมระบุข้อความเอาไว้ว่า ภารกิจตามหาน้องส้ม ท่ามกลางสายฝน น้องส้มเป็นแมวจรที่แม่พามาที่บ้าน วันนี้มีรถมาเกี่ยวข้าว ตอนเย็นหาน้องส้มแต่หายังไงก็ไม่เจอ ผมเลยไปตามหาคิดว่าน้องแกคงติดไปกับรถเกี่ยวข้าวแน่ๆ ผมได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้เป็นอะไรเลย

.

โทรไปถามคนเกี่ยวข้าวตอนเย็นเขาก็ไม่รับโทรศัพท์ จนประมาณหนึ่งทุ่ม เขารับสายและบอกว่าน้องติดไปด้วยตอนไปเกี่ยวข้าวเลยเอาทิ้งไว้ในทุ่งนา(นาขนาด 20 ไร่ ทิ้งน้องลงได้ยังไง) พอผมได้ยินตอนนั้นผมโกรธอยู่แต่ไม่ใช่เวลาต่อว่า ผมรีบวางสายแล้วออกไปตามหาน้องโดยทันที

เพราะตอนหัวค่ำฝนก็ตกหนักมากและตอนนี้ยังตกไม่หยุดเลยครับ ตอนนั้นผมไม่คิดอะไรเลยรู้แค่ว่าข่าวล่าสุดน้องยังไม่สิ้น ไม่สนฝนตกไม่สนว่ามืด ไม่สนว่ายุงมันจะเยอะ ลุยอย่างเดียวในนาฝนตกแบบนี้ขนาดเรายังลำบากน้องส้มจะอยู่ยังไง วันนี้ต้องหาให้เจอ ผ่านไปครึ่งชั่วโมงเห็นแสงดวงตาสะท้อนออกมา

ผมรู้เลยว่าเป็นน้องส้มดีใจที่ยังไม่สิ้นใจไปเสียก่อน แต่พอเข้าไปใกล้ น้องวิ่งหนีอย่างรวดเร็วและหายไปอีกรอบ ปรับแผนใหม่เดินกลับบ้านเอาอาหารไปล่อ เพราะคิดว่าถ้าหายไปตั้งแต่เที่ยงน่าจะหิวแต่ก่อนอื่นต้องหาให้เจอก่อนนะ สรุปเดินหาอีกชั่วโมงครึ่งครับ ผมเห็นแสงจากดวงตาสะท้อนตรงป่าหญ้าคาอีกครั้ง

น้องคงวิ่งหนีไม่ได้เพราะหญ้ามันหนาแน่นมาก เลยค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เขย่าถุงอาหาร เสียงที่คุ้นเคยที่น้องชอบกิน น้องเริ่มจำได้แล้วไม่หนี แต่เอื้อมมือเข้าไปหายากเพราะกลัวว่าถ้าใจร้อนน้องจะตกใจวิ่งหนีอีก สุดท้ายพอมือเอื้อมไปจะถึง น้องเอาหัวมาโหม่งแล้วถูๆมือครับ ตอนนั้นดีใจมากน้องจำได้และไม่หนีแล้ว

ผมเลยแหวกหญ้าเข้าไปทั้งตัวอุ้มน้องขึ้นมาเช็ดตัว น้องหนาวสั่นมากดีที่เอาผ้าไปด้วยเลยห่อตัวไว้ แล้วก็กอดอุ้มเดินกลับบ้าน พอน้องเห็นบ้านน้องดีใจจัดพยายามดิ้นจะลงไปวิ่งเข้าบ้านแบบนี้เราก็เบาใจละยังมีแรงอยู่ ผมใช้เวลาตามหาน้องประมาณสองชั่วโมง เหนื่อยนะแต่มันมีความสุขเหลือเกินตอนที่อุ้มเขาไว้ในอ้อมอกแล้วพากลับบ้าน

ที่มา จิระเดช เสนจันทร์ฒิไชย