เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Patcha Charoenpong ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวของเธอดันไปข่วนหน้าลูก แต่ลูกของเธอก็เดินคอตกมาหาแม่ ไม่ร้องไห้สักนิดพร้อมกล่าวสำนึกผิดว่ามันเป็นความผิดของตัวเขาเอง แม้ลูกจะมีอายุเพียง 4 ขวบก็ตาม
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรื่องนี้ตั้งชื่อว่ากอดแมวแน่นไปหน่อย จนน้องโดนแมวข่วนหน้า เดินคอตกมาหาแม่ ไม่ร้องไห้สักนิดเดียว น้องเงยหน้าขึ้นมาและพูดประโยคแรก I think I hug him a little bit too tight (ผมว่าผมกอดเค้าแน่นไปหน่อย) แม่แกล้งทำเสียงตกใจ พลางเช็ดแผลทายาให้กับน้อง
(แม่คิดว่าแม่จะต้องเอาแมวตัวนี้ไปส่งศูนย์สงเคราะห์แล้วล่ะ) ฮาเปอร์ถึงกับน้ำตาไหลและเริ่มร้องไห้ ขอร้องล่ะแม่ อย่าทำแบบนั้นเลย ผมไม่เป็นไร มันเป็นความผิดของผมเองที่กอดแมวแน่นเกินไป แม่แกล้งทำจริงจัง ไม่มันไม่โอเค เค้าทำแบบนี้ไม่ได้ เค้าทำลูกแบบนี้ไม่ได้
ฮาเปอร์เริ่มร้องไห้ฟูมฟายหนักมาก ผมบอกว่าผมไม่เป็นไรครับ มันเจ็บแต่ผมก็ยังรักเค้าเสมอ เค้าไม่มีพ่อแม่ แล้วเราจะเทเค้าได้ยังไง ผมทำไม่ได้เค้าคือครอบครัวของผม แม่นี่ขำมากก็ได้ๆ แม่จะไม่เอาเค้าไปเท ฮาเปอร์หยุดร้องได้แล้วนะ แต่หน้าตาตึงเครียดพร้อมกับกล่าวขอบคุณครับ แต่ผมคิดว่าผมจะไม่นอนคืนนี้ เผื่อว่าแม่เอาเค้าไปเทไว้ที่อื่นตอนผมหลับ 3.20 AM ในที่สุดก็ยอมนอนสักที (เวลาท้องถิ่นประเทศออสเตรเลีย)
edit เพิ่มนิดนึงนะคะอาจจะมีบางท่านบางคอมเมนต์คิดว่าทางบ้านเราทำร้ายจิตใจน้องนะคะ ขออธิบายเพิ่มนิดนึงนะคะ ทางเราเข้าใจที่ทุกๆคนเป็นห่วงความรู้สึกน้องนะคะ ขอบคุณค่ะ และดีใจมากที่มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ทางมุมมองของบ้านเรา ในสถานการณ์นั้น เราพูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจที่เห็นลูกถูกทำกระทำ
เราอยากให้ลูกเข้าใจว่า เราไม่โอเคกับการกระทำของน้องแมว ซึ่งลูกก็บอกว่าเค้าไม่เป็นไรเค้าโอเค เราเลยบอกว่าแบบนี้ไม่โอเค การถูกกระทำไม่ใช่เรื่องโอเค และแม่ไม่โอเคที่ลูกเป็นแบบนี้ ทำให้ลูกอธิบายต่อว่า ทำไมเค้าถึงคิดว่าโอเคแล้วไม่ควรเทแมว เพราะเค้าเป็นคนไปกอดแมวแน่นเอง แมวจึงข่วนเข้าให้แล้วแมวไม่มีพ่อแม่
มีแต่เราที่เป็นครอบครัวของแมว นี่เป็นเหตุผลของเด็กอายุเพียง 4ขวบ ที่ตอบแม่ของเขาว่าเพราะอะไรแมวจึงไม่ควรถูกเท เราไม่ได้ล้อเล่นกับความรู้สึกลูกเพราะเอาสนุกนะคะ เราต้องการหารือกับลูกในกรณีที่เราไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ลูกคิดว่าโอเค ถ้าอยากให้แม่เห็นด้วยกับลูก ไหนลองพูดเหตุผลออกมา ซึ่งลูกก็บอกเหตุผลที่ทำให้เราโอเคที่จะเก็บแมวไว้
ทางเราก็ไม่ได้ยืดเรื่องเพื่อแกล้งลูก เราก็ตอบตกลงทันทีที่จะไม่เทแมว อาจจะดูเหมือนเล่นกับความรู้สึกของลูก แต่เราจำลองสถานการณ์ให้ลูกคิด และแก้ปัญหาว่าจะต้องทำยังไงเมื่อมีใครไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เค้าคิด ทางเรามั่นใจค่ะ ว่าฮาเปอร์ได้รับความอบอุ่น และมีจิตใจที่เข้มแข็งมากพอที่จะสอนเค้าด้วยวิธีนี้ค่ะ (กรณีแบบนี้แล้วแต่บ้าน แล้วแต่สภาพจิตใจของเด็กนะ) ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ยินดีรับฟัง
ที่มา Patcha Charoenpong
