หน้าแรก บล็อก หน้า 550

ไอ้แดงหมาจรวิ่งหนีเสียงพลุ ขึ้นมาหลบที่รถแถมขึ้นไม่ยอมลงเพราะอยากไปอยู่ด้วย

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nuu'Pond Nawapan ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับไอ้แดง หมาจรตัวหนึ่งที่จู่ๆก็วิ่งขึ้นมาบนรถแล้วไม่ยอมลง ไอ้แดงวิ่งหนีเสียงพลุมาแล้วก็มาหลบอยู่ที่รถมอเตอร์ไซค์อยู่อย่างนี้ และใครจะไปคิดว่าดวงของไอ้แดงจะสมพงษ์กับบ้านหลังนี้ด้วยนะ เพราะก่อนหน้านี้หมาของคุณพ่อเพิ่งเสียไปเมื่อวาน แล้วจู่ๆไอ้แดงก็โผล่มา ! . โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า น้องหมาหลงมา ขึ้นมานั่งรถแฟนเฉยเลย สอบถามทางพี่วิน น่าจะวิ่งหนีเสียงพลุ พาไปสอบถามพี่ๆแถวนั้น เค้ารู้จักมันชื่อ "ไอ้แดง" ชอบนั่งรถเที่ยว เป็นหมาไม่มีเจ้าของ ละคืนนี้นั่งรถถูกคันซ่ะด้วย แถมไม่ลงรถอีกต่างหาก พิกัดตลาดวงศกร สายไหม ท่านใดดูแลน้องอยู่ ติดต่อมารับน้องได้นะคะ และที่น่าแปลกก็คือเหมือนน้องหมามีดวงสมพงษ์กับบ้านหลังนี้เข้าไปอีกก็เพราะว่า ก่อนหน้านี้หมาบ้านคุณพ่อ เพิ่งเสียไปเมื่อวานตัวนึง ตอนนี้เหลือ 3 ตัว และคืนนี้จู่ๆไอ้แดงก็โผล่เข้ามาในชีวิต แปลกมากๆเลยค่ะ คงทำบุญร่วมกันมา พรุ่งนี้จะพาไอ้แดงไปหาหมอค่ะ สงสัยคงอยู่ยาวววว ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวยินดีของไอ้แดงต้อนรับปีใหม่เลยก็ว่าได้ ดวงของน้องจะมีบ้านอะไรก็ฉุดไม่อยู่เลยจริงๆ ขึ้นรถไม่ยอมลงเหมือนรู้อะไรบางอย่าง แถมหมาที่บ้านก็พึ่งเสียไปเมื่อวานอะไรมันจะบังเอิญปานนี้ ดีใจด้วยนะเจ้าแดงแกได้บ้านแล้วล่ะ ได้อยู่ยาวๆแล้วนะ ปีใหม่นี้ไม่ต้องจรอีกต่อไปแล้วลูกกกก ขอขอบคุณ : Nuu'Pond Nawapan

วิ่งหน้าตาตื่น มาหาด้วยความร้อนใจทำหน้าเหมือนให้ช่วยอะไร ที่ไหนได้มดกัดหูน้อง

เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นก็เหมือนกับการที่เรานำเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยง ซึ่งในบางครั้งพวกเขาเองก็คิดว่าพวกเรานั้นเป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเขาจริงๆ และเมื่อเวลาเด็กน้อยนั้นมีเรื่องให้ช่วยเหลือหรือบาดเจ็บก็มักจะวิ่งมาหาคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราๆเสมอ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Khun K-t ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของลูกชายหรือก็คือเจ้าเหมียวตัวส้มสีอ่อนที่เห็นในรูปนั่นเอง ซึ่งเจ้าเหมียวนั้นได้วิ่งหน้าตาตื่นมาหาผู้เป็นแม่หรือผู้เป็นเจ้าของด้วยความร้อนใจและทำหน้าทำตาเหมือนกับจะร้องไห้เหมือนว่าถูกใครรังแกมา ซึ่งในตอนแรกผู้เป็นเจ้าของเองก็ไม่ทราบว่าน้องเป็นอะไรเพราะด้วยความตกใจที่อยู่ๆน้องก็วิ่งมาหาเหมือนกับกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง โดยทันใดนั้นเจ้าของก็ได้เหลือบไปเห็นเจ้ามดแดงตัวหนึ่งกำลังงับหูน้องอยู่จึงได้รับรู้ว่าเจ้าเหมียวนั้นต้องการให้ช่วยเหลือและคงจะร้องไห้ด้วยความเจ็บ ซึ่งผู้เป็นเจ้าของก็เลยได้เอามดตัวนั้นออกจากหูน้องแต่น้องก็ยังคงทำหน้าตาเศร้าด้วยความเจ็บแล้วคงอยากที่จะฟ้องแม่ว่าตัวเองนั้นถูกเจ้ามดรังแกมา ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "ลูกชายวิ่งมาหาเหมือนจะบอกอะไร ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ที่ไหนได้มดกัดหู โอ๋ๆๆๆแค่มดกัดนิดเดียงเอง เพี้ยง!!เดี๋ยวก็หายเนอะ พี่ขุนทอง" ซึ่งจริงๆน้องก็คงจะเจ็บมากเพราะหูของแมวนั้นมีเส้นประสาทอยู่เป็นจำนวนมาและไวต่อความรู้สึกมากๆด้วยเช่นเดียวกันก็อยากจะฝากเจ้าของให้ระวังเจ้ามดตัวแสบเอาไว้ด้วย ขอขอบคุณข้อมูลจาก Khun K-t

ชาวเน็ตจวกยับ พบพระปลอมหากินกับผ้าเหลืองเดินธุดงค์ใช้วัวลากของให้ ห้ามไม่เคยฟังทำอยู่อย่างนี้มาหลายปีแล้ว

หากเพื่อนๆได้อยู่ในกลุ่มรักสัตว์หรือได้เล่นในโลกโซเชียลคงจะได้เคยเห็นข่าวของพระรูปหนึ่งที่ใช้สุนัขโกลเด้นลากเกวียนออกธุดงค์บิณฑบาต จนเป็นข่าวออกไปแล้วหลายครั้ง จนมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมาเข้าไปช่วยเหลือสุนัขเนื่องจากต้องลากเกวียนพร้อมออกเดินตามพระรูปนั้นทั้งๆที่แดดร้อนจัด จนเพื่อนๆหลายคนเห็นก็ว่าเหมือนเป็นการเอานำสุนัขมาตกระกําลําบาก โดยล่า ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า พิมพ์นารา ค่ะ ก็ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของพระรูปดังกล่าวลงในกลุ่มรักหมา ซึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่น้องหมาแต่อย่างใดแต่เป็นน้องวัวแทน ปีก่อนๆเคยเอาแพะมาเดินลาก ซึ่งพระรูปนี้นั้นเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้งคือเป็นการเดินบิณฑบาต ไปเรื่อยๆตามจังหวัดต่างๆ โดยมีรถตู้เป็นเป็นพาหนะ ไม่มีวัดอยู่จำวัดเป็นที่เป็นทางเดินสายบิณฑบาตไปเรื่อยๆโดยใช้สัตว์มาทำแบบนี้หลายครั้งหลายคราแล้วโดยข้อมูลดังกล่าวนั้นได้มาจากเพื่อนในโลกออนไลน์ที่ได้มาคอมเม้นต์บอกไว้จากโพสต์ดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์เองยังได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "ไม่เกี่ยวกับน้องหมาค่ะแต่ก็อดสงสารไม่ได้ ก้นน้องขนหลุดหมดเลยเพราะเดินลากของ เคยเห็นแต่ในข่าวพอมาเจอกับตัวเองสงสารวัวน้อยเจ็บใจ พอมีหน่วยงานไหนเมตตาช่วยเหลือสัตว์น้อยผู้น่าสงสารได้มั้ยคะ เมื่อเช้าที่ อ.เมือง จ.มุกดาหารค่ะ" "พอเราถามพระตนนี้ว่า มาจากไหนเค้าบอกมาจากโคราชแล้วพระตนนี้ก็รีบเดินไปเลยค่ะ คงไม่ใช่พระหรอกถ้าเป็นพระจริงคงไม่มาทำแบบนี้ ผิดกฏลบได้ค่ะเราแค่สงสารวัวน้อย" ซึ่งทั้งนี้ก็อยากจะวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้าตรวจสอบกับพระรูปนี้และดำเนินการตามที่จะสามารถเอาผิดได้เพราะเราได้เห็นพระรูปนี้ทำมาหลายครั้งหลายคราแล้ว ขอขอบคุณข้อมูลจาก พิมพ์นารา ค่ะ

สาวไม่เคยคิดเลี้ยงหมามาก่อน แต่ตัดสินใจรับลูกหมาจรมาเลี้ยงพอโตมามันกลายเป็นหนุ่มรูปงาม

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊ก : Papatsiri Tawan Parach ได้เผยเรื่องราวของเจ้าตูบที่อดีตเคยเป็นหมาจรนอนข้างถนน เธอไม่เคยคิดที่จะเลี้ยงหมามาก่อนเลยแต่ก็ตัดสินใจรับมันมาเลี้ยงเพราะความเอ็นดู แต่เมื่อพอเวลาผ่านไปจากหมาข้างถนนตอนนี้มันกลายเป็นหนุ่มรูปงาม แถมหุ่นดีสุดๆ   โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อว่า นี่คือหมาพันธุ์ข้างทางแท้100% เราไม่เคยคิดจะเลี้ยงหมาเลยเพราะที่บ้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างกลัวรถเข้าออกจะไปชนมันเข้า ติดตามเพจหมาแมวไปเรื่อยเพราะว่าน่ารักดีอยู่มาวันนึงมีคนโพสต์หาบ้านให้น้องหมาเราก็เลื่อนผ่านไปเจอกลุ่มเด็กน้อย 3-4ตัว ไม่รู้นึกยังไงตัดสินใจช่วยมาเฉยเลย สรุปตอนนี้น่ะเหรอ..ไม่เคยได้ออกไปลานจอดรถเลยเพราะหวงมากนอนด้วยตลอดรักอย่างกับลูกแท้ๆ..เข้าใจมากว่าคนรักหมาเป็นลูกอ่ะมันเป็นยังไง..ปล.ตั้งแต่เด็กจน 3 ขวบนางเป็นโรคมาแทบทุกโรคแล้ว แต่นางรอดมาได้ด้วยความรักล้วนๆค่ะ ขอให้ทุกคนรักหมาข้างทางบ้างนะคะทุกตัวก็มีส่วนน่ารักแตกต่างกันไป เขาพูดไม่ได้แต่เชื่อเถอะค่ะเค้ารักเราสุดหัวใจ หลายคนสอบถามเข้ามาว่าน้องชื่ออะไรน้องชื่อบัวจ้า เป็นผู้สาวเพศเมีย แต่ถูกทำหมันแล้วตอนนี้กลายเป็นทอม ฮ่าฮ่าฮ่า หล่อเข้มมาเชียว   ที่มา Papatsiri Tawan Parach

หนุ่มขายลูกชิ้นเจอหมาจรเป็นต้องจอดช่วย ให้ข้าวให้ของกินและจะรอกินจนหมดเพื่อรอเก็บกล่องโฟมกลับ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊ก : Ake Srisuwan ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอกับคนใจดีที่ควรยกย่อง อย่างพี่ชายขายลูกชิ้นท่านนี้ พี่ชายท่านนี้พอเขานั้นเห็นหมาจรนอนอยู่ เขาจะรีบจอดรถและเตรียมของกินให้กับน้องหมาทุกตัวที่ขี่ผ่าน . และตัวเขาเองจะยังไม่ไปไหน เขาจะรอจนกว่าน้องจะกินจนหมด แล้วจะเก็บกล่องโฟมกลับไปด้วย โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า วันนี่ไปนั่งชายหาดเห็นภาพประทับใจจึงขอแช๊ะภาพเอาไว้หน่อยนะ ชื่นชมจากใจจริงๆหนุ่มขายลูกชิ้น จอดรถแจกจ่ายอาหารให้กับหมาจรหน้าหาด และจะรอจนกว่าน้องจะกินหมด เพื่อเก็บกล่องโฟมกลับไปด้วย  จนผู้คนในโลกออนไลน์ต่างพากันแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวคำชื่นชมกับจิตใจที่ดีงามแบบพี่ชายท่านนี้ และพี่ชายไม่ได้ช่วยน้องหมาแค่ตัวเดียวนะ พอเขาเห็นหมาไม่ว่าจะเป็นตัวไหนก็ตามเขาก็จะนำกล่องโฟมพร้อมกับข้าวที่เตรียมมาให้น้องหมา เห็นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ การทำดีมีคนเห็นนะ ขอชื่นชมจากใจเลยจ้า   ที่มา  Ake Srisuwan

สาวเก็บแมวจรมาเลี้ยงโดนด่าบ้านแทบแตก ถึงขั้นหอบแมวหนีแต่พอเลี้ยงได้ไม่ถึงเดือนกลับรักยิ่งกว่าลูกแท้ๆ

เพราะการนำสุนัขหรือแมวมาเลี้ยงนั้นเป็นการเพิ่มภาระ อีกทั้งยังเพิ่มความผูกพันธุ์ให้กับมนุษย์อย่างเราๆ ซึ่งทั้งนี้โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ใหญ่หรือพ่อแม่ของเรานั้นมักจะไม่ชอบให้นำสัตว์เลี้ยงใหม่ๆเข้ามาในบ้าน แต่ทว่าก็อาจจะเป็นแค่ในช่วงแรกๆเพียงเท่านั้นเพราะเมื่อเวลาผ่านไปเหล่าเจ้าตูบหรือเจ้าเหมียวก็จะทำให้พวกเขานั้นหลงรัก เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเขาลงในกลุ่มทาสแมวตั้งแต่ปี 2016 แต่ทว่าเรื่องราวนั้นได้สร้างรอยยิ้มและความผูกพันธุ์มากมายให้กับครอบครัวของเขาเอง ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อสองปีที่แล้ว โดยเธอนั้นได้ระบุข้อความทั้งหมดเอาไว้ว่า "เมื่อ 2 ปีที่แล้วเรีาเจอแมวถูกทิ้ง หาคนเลี้ยงไม่ได้จึงพาเข้าบ้าน พอพ่อและแม่เห็นว่าเราแอบเอาแมวใส่กระเป๋ามา เท่านั้นแหละด่าบ้านแทบแตกไม่มีใครคุยกับเราเลย จนเราหอบแมวไปอยู่ที่อื่นเกือบ 2 อาทิตย์แล้วกลับมา เราขังแมวไว้ในห้องแมวยังเล็กและกลัวคน" "เลยได้แค่นอนหลบอยู่หลังตุ๊กตาตัวใหญ่ในห้อง พอพ่อแม่เริ่มมีทีท่าหายโกรธเราเลยปล่อยแมวออกมาวิ่งเล่นภายในบ้านบ้าง มันก็วิ่งหลบไปมา พ่อก็แอบยิ้มและแลดู (คงอยากเล่นมากแต่ยังวางเชิง) เวลาเราออกไปทำธุระนอกบ้านแม่ก็มีการแอบเปิดห้องเราเข้าไปดูแมว (มีความสนใจ...แม่บอกว่าอยากเห็นหน้าตายังไง)" "หลังจากนั้นพ่อและแม่ก็หลงรักแมวตัวนี้ โดยไม่รู้ตัวแม่กลายเป็นคนให้อาหาร อาบน้ำและทุกคืนถ้าแมวมานอนกับเรา พ่อกับแม่เหมือนจะนอนไม่หลับต้องตามกลับเอาไปนอนในห้องด้วยทุกครั้งและในภาพนี้(รูปบนสุด) ตอนแมวทำหมันพ่อสละผ้าห่มให้แมวและลงมานอนเฝ้า ทุกวันเวลาคุยกับแมว" "จะเรียกชื่อแทนตัวเองว่าตา วันไหนขนมแมวหมดก็รีบควักเงินให้ไปซื้อเพราะทนเสียงอ้อนไม่ไหว ที่จริงการที่พ่อแม่ด่าเรา ตอนเราเอาแมวเข้าบ้านเพราะก่อนหน้านั้น 2 ปีบ้านเราสูญเสียหมาอันเป็นที่รักไป พวกเราร้องไห้กันทั้งบ้านและตั้งใจว่าจะไม่เอาอะไรมาเลี้ยงอีกเพราะบ้านเราเวลารักคือรักสุดใจ" "รักเหมือนเขาเป็นสมาชิกคนหนึ่ง ตอนนี้แมวตัวนี้อายุ 2 ปีกว่านางเอาแต่ใจสุดๆประหนึ่งเป็นน้องคนสุดท้องไม่มีใครตีและพูดกับนางเพราะมากกก ขอบคุณที่เราได้เจอกันไม่น่าเชื่อแมวตัวเดียวทำให้พวกเรามีรอยยิ้มกันทั้งบ้าน น้องแพร์ โดนทำหมันในวันคริสต์มาสพอดี ปล.พิมพ์ยาวไปหน่อยขอบคุณที่อ่านนะคะ แต่เรายิ้มไปพิมพ์ไปค่ะ" ซึ่งเรื่องราวนี้ได้ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2016 แต่ทว่าก็ได้สร้างรอยยิ้มทุกครั้งให้กับผู้คนที่ได้อ่านซึ่งเราก็หวังว่าผู้ที่ได้อ่านเรื่องราวนี้ก็จะมีความสุขตามนะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kanok Khamwangphuek  

สาวขุนลูกแมวจรตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ชุบเลี้ยงอย่างดีจนเติบโตตามจีบมาเป็นเดือนแม้แต่แขนก็ไม่เคยได้จับ

หลายคนที่อยากจะเลี้ยงแมวก็อยากจะเลี้ยงจนแทบขาดใจ แต่ด้วยภาระและการที่ต้องเลี้ยงดูพวกเขานั้นหนักมากไปสำหรับบางคนจึงทำได้เพียงแค่ให้อาหารเหล่าน้องแมวจรไปวันๆ ก็เพียงพอต่อการเล่นหรือเลี้ยงเพื่อความเอ็นดูกันไป แต่มันก็มีข้อดีตรงที่ว่าเรานั้นไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงเวลาเราจะไม่อยู่บ้านหรือกลับจากต่างจังหวัดในช่วงปีใหม่ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Litar Su ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรในบริเวณบ้านของเขา หลังจากที่เขานั้นให้อาหารน้องตั้งแต่น้องๆยังอยู่ในท้องของแม่ซึ่งเป็นแมวจร โดยผู้ใช้เฟสบุ๊ครายนี้ก็ได้ทำการให้อาหารหรือเปย์มาโดยตลอดจนถึงตอนที่คลอดลูกออกมา ซึ่งเมื่อน้องๆคลอดออกมาจนเจริญเติบโตและน่ารักเขาก็อยากที่จะได้เหล่าเจ้าเหมียวมาเลี้ยงให้เป็นกิจจะลักษณะ แต่ทว่าเจ้าเหมียวน้อยๆทั้งหลายนั้นกลับไม่ให้แม้แต่สัมผัสร่างกายเลยแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าเสียเป็นแสนแขนก็ไม่ได้จับเลยก็ว่าได้น่ารักขนาดนี้แถมยังหยิ่งอีกซะด้วย โดยผู้โพสต์รายดังกล่าวนั้นได้เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดน่ารักนี้ลงในกลุ่มคนรักแมวอย่าง ทาสแมว ซึ่งหลังจากนั้นโพสต์ดังกล่าวก็ได้สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนออนไลน์เป็นอย่างมาก อาจจะด้วยหน้าตาของเจ้าเหมียวที่น่ารักเกินห้ามใจเหล่าทาสแมวทั้งหลายและเรื่องราวสุดน่ารักที่ผู้โพสต์นั้นได้เปย์หรือเลี้ยงดูน้องๆตั้งแต่ในท้อง โดยได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า "เสียเป็นแสนแขนไม่ได้จับ น้องแมวจรแถวบ้านขุนตั้งแต่อยู่ในท้องแม่จนโต ขอสัมผัสนิดเดียวยังไม่ได้เลย อยากได้น้องอยากร้องไห้" ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์เองก็ยังไม่ได้สัมผัสน้องๆแม้แต่ปลายเล็บเลยจริงๆเพราะพวกนางก็จะวิ่งหนีทุกครั้งที่เข้าใกล้ แถมวิ่งเร็วอีกด้วย และก็คงจะทำได้เพียงเปย์ให้กับพวกนางต่อๆไปและก็คงได้แค่เฝ้าดูพวกนางเติบโต แต่ถึงอย่างไรแค่ได้เห็น แค่ได้ให้ข้าวแค่นี้ก็มีความสุขแล้วเนอะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Litar Su

ห่านคู่ชีวิตบอกลากันเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเจ้าของจะนำไปเป็นของขวัญและยากที่จะกลับมาเจอกันได้อีก

ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่มีการรับชมมากถึง 12 ล้านครั้ง เมื่อเว็บไซต์ Weibo ได้เผยเรื่องราว การจูบอำลาเป็นครั้งสุดท้าย โดยห่านคู่นี้นั้นอยู่ร่วมครองคู่กันมาจนถึงวันหนึ่ง โดยห่านตัวเมียถูกคนเลี้ยงจับตัวเพื่อเอาไปเป็นของขวัญวันเกิดให้แก่ครอบครัวของเพื่อน เพื่อนำไปประกอบอาหาร โดยมีห่านตัวผู้เหมือนรู้ชะตากรรมคอยส่งอำลาเป็นครั้งสุดท้าย . โดยทางแฟนเพจได้แปลจากต้นฉบับภาษาจีนพร้อมระบุข้อความเอาไว้ว่า เมื่อห่านตัวเมียถูกมัดแล้วนำใส่ถุงซ้อนบนรถมอเตอร์ไซค์ ห่านตัวผู้คู่ของมันได้พยายามเข้ามาปลดปล่อยเพื่อนร่วมชีวิต มันพยายามส่งเสียงร้องต่อคู่รักของมัน แต่การกระทำของมันดูเหมือนจะขัดขืนอะไรไม่ได้เลย และมนุษย์มองพวกมันเป็นแค่อาหาร มันจึงทำได้แค่ยืนมองและร้องไล่ตามหลังมอเตอร์ไซค์ที่ขับพาคู่ของมันจากไป ชายผู้ที่นำห่านไปบอกว่า เมื่อตอนที่เขากำลังจะประกอบมันเป็นอาหาร ห่านตัวเมียตัวนั้น มันมีน้ำตาไหลออกมา หลังจากภาพห่านคู่นี้แพร่หลายบนโลกออนไลน์ ตัวเขารู้สึกละอายอย่างมากและกล่าวว่า ถ้าเขารู้ถึงความผูกพันธ์ของห่านคู่นี้มาก่อน เขาคงปล่อยให้พวกมันอายุยืนเป็นร้อยปี ห่านเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ต่อคู่รักของมัน อยู่ร่วมกันตลอดชีวิตและห่านจะปกป้องคู่ของมันอย่างสุดชีวิต แต่ในประเทศจีน ห่านเกือบ 300 ล้านตัวถูกนำมาเป็นอาหารในทุกๆปี ซึ่งสถานการณ์ไม่ได้ดีไปกว่าประเทศสหรัฐมากนัก รวมไปถึงเมนูอาหารที่ดังไปทั่วโลกอย่างฟัวกราส์ และการทำอุตสาหกรรมหมอนจากขนห่าน เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มต่างๆตัวคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง? คุณสามารถหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ หยุดนำเนื้อสัตว์มาเสริฟในงานแต่ง งานบวช หรือเลิกไหว้บรรพบุรุษด้วยเนื้อสัตว์ตามความเชื่อ งานเลี้ยง งานมงคลต่างๆ รวมไปถึงสินค้าเสื้อผ้าที่มาจากสัตว์ เพราะเราไม่รู้เลยว่าเนื้อที่กินมาจากการพรากลูกเมียใครมาบ้าง การหลีกเลี่ยงสาเหตุของเรื่องเศร้าแบบนี้เป็นเรื่องที่ใครก็ทำได้โดยเริ่มที่ตัวเราเอง ที่มา VEGAN Battle Teacher - Thailand

มุมอ่อนโยนของผู้กำกับ สภ.สามง่าม หลังมีหมาจรเดินมาขอข้าวกินท่านก็เลยแกะของกินให้ด้วยความเอ็นดู

ในชีวิตของสุนัขจรหลายๆตัวนั้นต้องเกิดมาอดทนนอนกลางแดดกลางฝน ซึ่งในบางวันก็ไม่ได้โชคดีเสมอไปเพราะหาอาหารไม่ได้ก็ต้องอดทนหิวให้ผ่านพ้นไปในแต่ละวัน แถมยังต้องเอาตัวรอดจากผู้คนใจ ร้าย หรืออันตรายจากรถที่มองไม่เห็นอีก แต่ทว่าจะดีแค่ไหนหากมีคนดีๆที่ยังมีจิตใจเมตตา คอยให้ข้าวให้น้ำให้ที่อยู่อาศัยแก่พวกเขา เหมือนกับเรื่องราวนี้ซึ่งกลายเป็นภาพที่คนรักน้องหมานั้นต่างประทับใจกันเป็นอย่างมาก เมื่อผู้ใช้แฟนเพจเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า สภ.สามง่าม ได้โพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบสุดน่ารัก ระหว่างที่คุณผู้กำกับ กับเจ้านางนวล สุนัขจรที่ชอบเดินไปเดินมาใกล้ๆบริเวณสถานีตำรวจแห่งนี้ จนทำให้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ โดยขณะทางแฟนเพจได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า "เมตตาธรรมค้ำจุนโลก แอบถ่ายเจ้านายครับ เมื่อช่วงเช้าขณะ ผู้กำกับเดินตรวจบริเวณรอบๆสถานี มีน้องหมาตัวนึงชื่อว่า นางนวล พอเห็นผู้กำกับก็รีบปรี่เดินเข้าหาในทันใด สัญชาตญาณรับรู้ได้ว่าคนๆนี้มีเมตตา (ไม่อดแล้วน้องหมาได้กล่าว) เครดิตภาพสายตรวจ 20 แอบถ่ายภาพเจ้านายไว้ได้" ซึ่งทั้งนี้หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นและชื่นชมเป็นอย่างมาก          จนผู้กำกับท่านนี้ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นใต้ภาพดังกล่าวอีกด้วยว่า "กำลังจะตำหนิลูกน้องอยู่เหมือนกันครับที่ถ่ายภาพไม่บอกกันก่อนเลย แต่เห็นหลายท่านชอบภาพเหล่านี้ว่าเป็นธรรมชาติดี ก็รู้สึกขอบคุณคนที่ถ่ายขึ้นมาทันที..." "แต่อย่างไรก็ตามความเมตตาที่เราทำอย่างนี้กับน้องหมากลุ่มนี้มานานแล้ว มันก็เลยทำให้เรารู้สึกสุขใจเหมือนเราเป็นผู้ให้เพราะเรามี "จาคะ" นะครับ...หลายท่านเองก็คงเลี้ยงน้องหมาเหมือนกันนะครับของผมมี 2 ตัวครับพันธุ์ไทย ตัวผู้ 1 ตัวและพันธุ์ปั๊ก 1 ตัวเป็นตัวเมีย อันนี้ชอบมาคลอเคลีย อยู่ตลอดครับเราเลี้ยงเราก็รักและเอ็นดูเขาครับ" ซึ่งทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวและภาพสุดประทับใจเหล่านี้ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับประชาชนที่พบเห็นในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เข้ามาชื่นกับความอ่อนโยนของผู้กำกับท่านนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากว่าสังคมไทยเรายังมีคนใจบุญมีเมตตาต่อสัตว์ร่วมโลกแบบนี้แล้วพวกเราเองก็คงจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ขอขอบคุณข้อมูลจาก smilesmine

สองตา,ยาย รีบขับรถมารับแมวกว่า 300 กิโลเพราะรู้ว่าปีใหม่นี้จะมีแมวมาอยู่ด้วยที่บ้าน

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Rana Deng ได้เผยเรื่องราวสุดน่ารักของคุณยายกับคุณตา และเจ้าเหมียวที่เธอได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเธอนั้นได้มาทำงานที่ต่างจังหวัดและอยากพาแมวกลับบ้านที่ต่างจังหวัดด้วย พอคุณตาคุณยายรู้ข่าวว่าจะเอาแมวมา ท่านทั้งสองตัดสินใจขับรถกว่า 300 กิโล เพื่อมารับเธอและแมวกลับบ้านไปด้วยกัน . แต่ก่อนหน้านี้ก่อนที่เธอจะมีแมว คุณตาคุณยายไม่ได้ขับรถมารับแบบนี้หรอกนะ เธอจะอาศัยนั่งรถตู้และขึ้นรถไฟกลับบ้านเองทุกครั้ง แต่พอมีแมวเท่านั้นแหละ คุณตากับคุณยายรีบขับรถมารับเลยจ้า..... โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า จุนตา จุนยาย มารับกลับบ้านช่วงปีใหม่ฮะ... นี่ทำงานต่างจังหวัด หยุดปีใหม่หลายวันก็ว่าจะพาแมวกลับไปด้วย ก็บอกที่บ้านว่าจะพากลับรถไฟ เพราะขึ้นรถอื่นไม่ได้ (ปกติเรากลับบ้านเองกับรถตู้)แต่บอกที่บ้านว่ามันตัวใหญ่มากแล้ว ตะกร้าเดิมแคบ นั่งรถไฟคงอึดอัดน่าดู... สองตายายรีบพูดเลยจ้า เดี๋ยวขึ้นไปรับเองถึงที่ กลัวแมวนั่งรถไฟลำบาก... แค่300กว่าโลเอง ยะลา-นครศรีธรรมราช  ขอบใจแกนะก้า ที่ให้เราติดรถกลับมาด้วย...เขาไม่ได้มารับเรา เขามารับแมว ฮ่าฮ่าฮ่า   ขอขอบคุณ : Rana Deng