มารำฉุยฉายโชว์ขอบ้านหวังเพียงว่าจะมีใครจะรับหนูบ้าง ด้วยรู้ตัวว่าตนสีนั้นไม่สวยเหมือนอย่างใครเขา

เพราะเพียงชีวิตที่เกิดมาเป็นแมวจรที่ต้องอดทนอยู่แอบตามอาศัย โดยซึ่งไร้แม้ที่จะหลับนอนยามดึกและด้วยชีวิตที่เลือกไม่ได้จึงทำได้เพียงแค่เข้ามาอ้อนวอนเข้าหาผู้คน ด้วยรู้ตัวว่าตนนั้นกำลังตั้งท้องจึงต้องการเพียงที่อยู่เอาไว้ให้ลูกๆได้อยู่อย่างสุขสบาย เพราะแม้หัวอกแม่นั้นจะลำบากมาตลอด แต่ก็ยังมีความเป็นแม่อยู่เต็มอกด้วยรู้ว่าลูกของตนนั้นกำลังจะได้เกิดมา เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Blue Suchada ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องรางของเจ้าเหมียวสามสีตัวนี้ ที่เธอนั้นได้พบน้องเข้ามาอ้อนซึ่งน้องนั้นเป็นแมวจรที่ไร้บ้านและก็ไม่แน่ใจว่าน้องตั้งท้องอยู่ด้วยหรือป่าว แต่ที่แน่ๆบริเวณที่นอนได้อยู่อาศัยนั้นมีตัวเงินตัวทองค่อนข้างมาก เธอจึงกลัวว่าน้องจะได้รับอันตรายและหากเมื่อได้ให้กำเนิดลูกออกมาแล้ว โดยเมื่อเธอได้เจอกับน้องน้องก็ลงล้มตัวมานอนตุ๊บและพยายามที่จะอ้อนด้วยการนวดมือโชว์ ด้วยเธอเองก็ได้บอกเอาไว้ด้วยว่าน้องอ้อนเก่งมากๆใจดีสุดๆเป็นมิตรกับคน ด้วยรู้ตัวว่าตนกำลังจะให้กำเนิดลูกน้อยและต้องการบ้าน โดยเธอได้ระบุพิกัดที่น้องได้อยู่เอาไว้ที่ แถวฝั่งธน กรุงเทพมหานคร เพราะสัญชาติญาณของหัวอกคนเป็นแม่แล้วรู้ว่าตนต้องการสิ่งไหนเพื่อที่จะให้ลูกของตนนั้นได้อยู่อย่างปลอดภัย อีกทั้งน้องเองก็คงจะรู้ตัวดีว่าสนของตนนั้นไม่ได้สวยเหมือนอย่างใครเขา จึงได้เฝ้าตามหาและอ้อนมนุษย์เพื่อที่จะขออยู่อาศัย แต่ในทางกลับกันแล้วถ้าเป็นต่างประเทศสีของน้องนั้นจะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากและแอดมินเองก็มองว่าสีของน้องสวยมากๆด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนพอจะมีพื้นที่เหลือให้เหมียวสามสีตัวนี้ได้คลอดลูกอย่างปลอดภัยก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Blue Suchada

ถูกเขาพรากแม่ไปจากอก แม้นมยังไม่ทันหย่าตายังไม่ทันลืม ก็นำมาใส่กล่องเอาไว้ด้วยใจที่เรียกหาว่าแม่จ๋านั้นอยู่ไหน

เพราะมนุษย์เรานั้นล้วนแต่มีจิตใจที่แตกต่างกันออกไป ด้วยสภาพวะของการเติบโตเลี้ยงดูหรือแม้แต่ครอบครัวเองซึ่งหากได้เลี้ยงดูหรือได้เติบโตมาร่วมกับสัตว์เลี้ยงแล้วสภา่พของจิตใจที่มีเมตตาต่อสัตว์ของพวกเขานั้นก็จะยิ่งดีมากขึ้นไป แต่หากในบางบ้านที่ปลูกฝังลูกมาแบบผิดๆ ตั้งแต่เล็กแต่น้อยความมีเมตตาหรือหัวใจที่อ่อนโยนก็ย่อมที่จะเห็นสัตว์เหล่านี้ไร้ค่า เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Narongdech Wongsankworasak ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยสองตัวนี้หลังจากที่เธอได้พบน้องถูกคนใจร้ายนำมาเทเอาไว้ ที่ข้างบ้านซึ่งตั้งอยู่ที่ ถนนประชาอุทิศ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ซึ่งน้อยทั้งสองตัวนั้นมีอายุเพียงแค่ไม่เกินสองสัปดาห์เท่านั้นและยังไม่สามารถที่ระบุเพศของน้องได้แต่อย่างใด แต่จากการสนิษฐานของผู้โพสต์ได้ระบุว่าคาดว่าน้องทั้งคู่น่าจะเป็นเพศผู้ และด้วยสภาพขาที่อ่อนแรงยืนยังไม่ทันจะแข็งไร้แม้เรี่ยวแรงจะคลานไหว นมก็ยังไม่สามารถที่จะกินเองได้ แต่ก็ต้องถูกนำมาเทเอาไว้ไร้แม้เยื้อใยหรือหัวใจจะเมตตา ด้วยทว่าคิดถึงแม่จ๋าสุดหัวใจแต่ก็ทำได้เพียงนอนกกกันไว้ให้ความอบอุ่น และด้วยทางผู้โพสต์เองก็ไม่สามารถที่จะรับน้องไว้เลี้ยงเองได้เนื่องจากตัวเขานั้นแพ้ขนแมวและที่บ้านก็ยังเลี้ยงแมวอีกด้วย เขาจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อที่จะตามหาบ้านให้กับน้องเพราะเนื่องด้วยพวกน้องนั้นยังเล็กมากๆถ้าหากปล่อยเอาไว้แล้วมีหมาจรหรือใครที่ใจร้ายไปเจอก็คงจะไม่รอด ประกอบกับแมวที่มีอายุเพียงแค่นี้หากร่างกายขาดความอบอุ่นหรือต้องอดนมแม่แล้วก็คงจะอยู่ได้แค่ไม่กี่วันเพียงเท่านั้น จึงอยากฝากไปถึงเพื่อนๆด้วยว่าหากคิดจะนำไปปล่อยไว้แบบนี้ให้คำนึงถึงการมีชีวิตรอดของพวกเขาด้วย เพราะถ้าเป็นแบบนี้เท่ากับคุณเองนั้นแหละที่เป็นคนเลือกจะปิดชีพของพวกเขา ขอขอบคุณข้อมูลจาก Narongdech Wongsankworasak

เดินลากขาแบกสังขารมาแอบขดอยู่กับสายไฟ ด้วยความกลัวตัวยังสั่นเพียงตัวนั้นเป็นเพียงจรจึงไรใครจะรักษา

ด้วยชีวิตที่เกิดมาไร้ซึ่งผู้คนจะต้องการจึงต้องเกิดมารับกับสภาพวะที่ได้เป็นอยู่ ด้วยว่าเลือกเกิดไม่ได้จึงไม่สามารถที่จะเกิดมามีที่กินที่อยู่อย่างสุขสบายอย่างใครเขา ด้วยตัวเราเป็นเพียงจรตัวน้อยๆที่คอยหาจะมีแม้ชีวิตต่อในแต่ละวันต่อๆมา ใครจะหาพาช่วยเหลือหรือคอยบรรเทา เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nuttaporn Satheawsavat ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่ทำให้เธอนั้นต้องน้ำตาตกหลังจากที่เธอได้พบน้องนั่งพิงอยู่กับขดของสายไฟ ซึ่งเมื่อพอน้องได้เห็นเธอน้องก็วิ่งหนีเธอ เธอตกใจมากเพราะขาหลังของน้องนั้นไปโดนอะไรไม่รู้มา ได้แต่นั่งลากขาไปกับพื้นเพื่อที่จะวิ่งหนีด้วยความกลัว เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีเธอเครียดมากเครียดแต่เช้าเลย ซึ่งน้องนั้นได้แอบอาศัยอยู่ที่แถวเจริญนคร 37-39 เธอเองก็ติดหยุดยาวและจะต้องกลับไปต่างจังหวัดหลายวัน แต่ในสิ่งที่เธอทำได้ในตอนนั้นก็คือหาลังมาหนึ่งใบและใส่น้องเอาไว้ด้วยเพราะที่เธอจะต้องรีบไปทำงาน ประกอบกับการที่เธอต้องปาดน้ำตาและเลือกที่จะต้องปล่อยน้องเอาไว้แบบนั้นเพราะด้วยไม่มีเวลาจะเลือกเลย เธอจึงตัดสินใจรอให้คลีนิกเปิดตอน 10 โมงเพื่อที่จะพาน้องไปรักษายังคลีนิค เธอกลับไปหาน้องอีกครั้งเมื่อคลีนิกได้เปิดแล้ว แต่เมื่อเธอได้ไปถึงกลับไม่พบน้องอีกต่อไปแล้วเธอเดินหาพร้อมกับการกลัวในใจด้วยสั่นคลอน กลัวว่าจะไม่ได้พบน้องอีกต่อไป จนในที่สุดเธอก็เดินหาน้องอยู่ประมาณร่วมชั่วโมงได้เธอรู้สึกผิดจากใจ ด้วยการที่เธอเลือกจะปล่อยน้องเอาไว้แบบนั้น และเธอก็ได้พบน้องและนำน้องส่งไปรักษาตัวกับทางคลีนิคในเวลาต่อมา เธอจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือเพราะด้วยสภาพอาการของน้องนั้นก็ค่อนข้างที่จะหนักทำให้เธอเป็นกังวลใจอีกทั้งประกอบกับเหตุการณ์์ที่เธอได้พบเจอจึงอยากให้เพื่อนๆในกลุ่มช่วย ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะติดตามเรื่องราวของน้องเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก...

เหล่าทาสรีบไปเช็คอิน เกาะไข่แมวที่มีแมวอยู่เต็มเกาะกับประสบการณ์จกพุงฟินๆที่หาได้ง่ายๆใกล้แค่เอื้อม

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Sittidech Mahapo ได้เผยเรื่องราวและแหล่งท่องเที่ยวที่เหล่าทาสแมวพอได้รู้แล้วต่างเช็คอินกันรัวๆ ใครหลายคนอาจรู้จักเกาะแมวที่ประเทศญี่ปุ่นที่มีแมวอยู่เต็มเกาะ แต่ที่ไทยของเราก็มีเกาะแมวเหมือนกับที่ญี่ปุ่นด้วย แถมการเดินทางไปยังเกาะก็ง่ายนิดเดียวเพียง 20 นาทีจากท่าเรือ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มาแล้วจ้า "เกาะไข่แมว" สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน ที่หาได้ง่ายไม่ห่างจาก ภูเก็ต ที่เหมาะกับทาสแมวตัวจริง เอาจริงๆเจ้าเกาะแห่งนี้คือเกาะไข่นอก ซึ่งอยู่ในเขตปกครองของจังหวัดพังงา แต่เจ้าเกาะนี้มันห่างจากจังหวัดภูเก็ต หากเดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ทก็จะใช้เวลาแค่ 20 นาทีเท่านั้นเอง แรกเริ่มเดิมแล้ว หมู่เกาะไข่ จะมีสามเกาะครับ...

แอบอาศัยนอนตามใต้ท้องรถด้วยเพียงเป็นจร อดมื้อกินมื้อประทังความหิว ไม่วายเขายังบอกไว้ถ้าเจอ

เพราะด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้หลายๆชีวิตต้องเกิดมาทนทุกข์ อีกทั้งในบางครั้งสีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆไม่สามารถที่จะมีบ้านหรือเจ้าของที่ตนรักเป็นของตัวเองได้ เพราะด้วยความเชื่อหรือหลักที่เป็นมา จึงต้องอดทนทุกข์ยากลำบากต่อชีวิตที่ได้มี เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวตัวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Napassanan Kulrach ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ที่เธอได้เรียกน้องว่าเจ้าดำน้อย หลังจากที่ได้พบน้องแอบอาศัยอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่งด้วยคำสั่งล่าสุด จากนิติของทางคอนโด โดยเขาได้สั่งมาว่าให้เอาน้องไปปล่อย โดยล่าสุดก็ได้มีคนใจร้ายเอ่ยปากว่าถ้าเจอหรือพบน้องเมื่อไหร่ก็ตาม จะปลิดชีพให้สิ้นใจคามือ เธอจึงได้บอกว่าแค่เป็นเพียงจรนั้นก็น่าสงสารมากเพียงพอแล้ว ถ้ายังจะต้องมาพบเจอกับชะตากรรมเช่นนี้อีกก็ช่างจะเกินบรรณยาย ด้วยชีวิตนึงที่ได้เกิดมาเป็นเพียงแค่จรที่มีสีดำก็ว่ายากยิ่งถ้าต้องพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้จะหาทางเอาชีวิตรอดได้อย่างไรหากไร้แม้ใครจะช่ว่ยเหลือ ด้วยดำน้อยนั้นเป็นจรที่อาศัยนอนตามใต้ท้องรถที่อยู่แถวใต้คอนโด เสี่ยงแม้รถจะทับหรือเฉี่ยวชนเอาได้แถมยังอันตรายรอบๆด้าน เธอจึงอยากจะหาบ้านที่ปลอดภัยให้กับเจ้าดำน้อย ด้วยน้องดำน้อยนั้นมีอายุเพียงแค่ 3-4 เดือน นิสัยเชื่องขี้อ้อนพูดเก่งและน่ารักมากเห็นในภาพหรือคลิปก็คือการที่เธอนั้นเข้าไปหาน้องในครั้งแรกซึ่งน้องเป็นมิตรกับทุกๆคน จึงอยากจะฝากเพื่อนๆคนไหนที่มีจิตรใจเมตตาสามารถจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ระบุพิกัด D condo รัตนาธิเบศร์ ขอขอบคุณข้อมูลจาก...

อิเเหววเจ๊ใหญ่คุมซอย นอนกระดิกหางเฝ้ารถมอเตอร์ไซค์ ทุกคนที่มาจอดเป็นค่าผ่านทาง

ด้วยชีวิตที่เลือกไม่ได้หากโชคดีมีใครเขานำมาเลี้ยงก็ถือเป็นบุญที่ได้ทำเอาไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว แต่ถ้าหากเกิดไม่ได้มีใครรับเลี้ยงเขาก็ต้องอดทนใช้ชีวิต เพราะด้วยเป็นเพียงจรที่ไร้ใครแม้จะสนใจหรือไม่สามารถที่จะเลือกได้ แต่ถ้าเกิดถูกเลี้ยงดูมาแต่กลับถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพังเพราะเขาไม่ต้องการ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Karin Nakngoen ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ที่เขานั้นได้ไปพบน้องเข้าหลังจากที่เขากำลังจะไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในจังหวัดลำบาง โดยก่อนหน้านี้เขาก็ได้แปลกใจกับน้องไปแล้วรอบนึง เพราะด้วยสภาพของน้องที่เกาะนอนตัวติดอยู่กับเบาะของรถมอเตอร์ไซค์ไม่กระดิกไปไหน หรือไม่แม้แต่จะกลัวผู้คนที่ได้ผ่านไปมา ซึ่งทางผู้โพสต์จึงได้ไปสอบถามกับชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวว่าน้องเป็นแมวของใครทำไมถึงมานอนไม่สนใจโลกหรือสนใจใครเช่นนี้ ซึ่งเขาก็ได้สืบสาวราวเรื่องและได้พบว่าน้องนั้นชื่อว่า แหวว โดยคุณลุงยามได้เป็นคนเล่าให้ฟังว่าน้องเป็นแมวที่เคยมีเจ้าของแต่เขาไม่สนใจและปล่อยให้แหววนั้นเผชิญชีวิตลำพังหลังย้ายไปแล้ว และก็ได้มีชาวบ้านและคุณลุงยามคอยให้อาหารกับแหววอยู่เป็นประจำ ด้วยผู้คนในบริเวณนั้นก็เอ็นดูรักใคร่แหววเป็นอย่างมากและก็ไม่มีใครเดือดร้อนเลยที่แหววชอบมานอนคุมรถมอเตอร์ไซค์แบบนี้ เพราะแหววนั้นเป็นแมวที่ดีที่สามารถจะอุ้มหรือจับได้ทุกส่วน อีกทั้งแหววก็ยังเป็นเจ๊นังเลงคุมซอยอยู่ที่นี่อีกด้วย ซึ่งหากใครที่ได้มาจอดรถหรือผ่านไปมาในสวนสาธารณะแห่งนี้แล้วก็คงจะต้องรู้จักและรักแหววเป็นอย่างดี โดยทั้งนี้่เราก็มีคลิปวิดีโอที่ทางผู้โพสต์ได้ไลฟ์สดถ่ายแหววไว้ให้ดูอีกด้วย ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนอยากจะดูเรื่องราวของแหววต่อก็สามารถรับชมได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Karin Nakngoen และชมคลิป https://www.facebook.com/surat.nak.5/videos/1604497853059569/

เดินขากระเผลกมาส่งเสียงร้องขอให้ช่วย ด้วยเนื้อตัวที่เปียกปอน ด้วยเป็นเพียงจรจึงไร้ใครเขาจะสนใจ

ด้วยยังมีอีกหลายๆชีวิตที่เลือกที่จะเกิดมาไม่ได้ จึงต้องก้มหน้ารับกับสิ่งที่ต้นได้พบเจอไม่ว่าอุปสรรค์นั้นจะยากเย็นแสนเข็นมากเพียงใด แต่ก็จะต้องต่อสู้เพื่อที่จะให้มีกินมีอยู่ได้ใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้ เพราะชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้จึงทำได้เพียงแค่รับกับสภาพที่ต้องพบเจอ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คทีใช้ชื่อว่า แพรสุวรรณ เนตรนรินทร์ ได้พบเจอเจ้าเหมียวพันธุ์วิเชียรมาศรายนี้เดินขากระเผลกมาร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งคาดว่าน้องน่าจะเป็นแมวจรที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นหรืออาจจะเคยมีเจ้าของมาก่อน เพราะจากสภาพของน้องเป็นแมวพันธุ์ แต่กลับมีสภาพที่ยับเยินแถมเดินขากระเผลกไร้แม้เรี่ยวแรงจะยืนหรือเดินต่อไหว ด้วยเพราะไม่มีใครเขานั้นจะสนใจเพราะชีวิตนั้นไซต์ใครเขาจะมาเหลียวแล เธอจึงได้นำมาโพสต์ลงยังในกลุ่ม ทาสแมว เพื่อที่จะหาคนใจดีที่มีเมตตาเข้าช่วยเหลือน้อง เพราะหากปล่อยเอาไว้น้องก็คงจะต้องตกอยู่ในสภาพเดิมอีก หากว่าเพียงแค่นำมารักษาแล้วปล่อยให้อยู่ในที่เดิมๆ อีกทั้งเธอก็ยังเคยโพสต์เพื่อที่จะหาบ้านให้กับน้องมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็กลับถูกเขายกเลิก มาตลอดจนต้องนี้น้องขาเจ็บจนเดิมแทบไม่ไหวแล้ว เธอจึงได้ถ่ายคลิปและมาลงซ้ำอีกรอบเพื่อว่ารอบนี้จะมีใครที่อยากจะได้หรือต้องการน้องจริงๆ ซึ่งเธอก็ได้บอกเอาไว้ว่าถ้าใครอยากที่จะรับน้องไปจริงๆก็สามารถติดต่อไปได้ที่เธอเลยเพราะเธอสงสารน้องมากๆ ด้วยพิกัดที่น้องได้อยู่นั้นอยู่ที่ อ่อนนุช กรุงเทพ และอีกทั้งเธอเองก็ไม่สามารถที่จะรับน้องไว้ดูแลเองได้เพราะเธอนั้นอยู่หอพักและทางหอพักก็ไม่อนุญาติให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ขอขอบคุณข้อมูลจาก แพรสุวรรณ เนตรนรินทร์

ถูกเขาขังมานานแรมปี ไม่เคยได้ออกไปวิ่งเล่นมาตั้งแต่เกิด แต่ก็ต้องอดแม้นอนเลอะอึเลอะฉี่ของตัวเอง

เพราะด้วยความอยากจะได้อยากจะมีของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับหนึ่งชีวิตน้อยๆ ซึ่งนั่นก็คือความอยากจะเลี้ยงในตอนแรกที่อยากจะได้มา แต่ไม่นึกถึงว่าชีวิตนี้นั้นจะอยู่ต่อไปอย่างไร เพราะการไม่เตรียมความพร้อมมาในตั้งแต่ตอนแรกหรือการอยากที่จะนำมาเลี้ยงด้วยไม่คำนึงถึงสิ่งใด ทำให้ชีวิตนี้ต้องอดทนอยู่ต่อสู้กับสิ่งที่เรียกความไร้อิสระ เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เยล' ลี่ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องรางของเจ้าไซบีเรียนฮัสกี้ตัวนี้ หลังจากที่เธอนั้นได้ขับรถผ่านในบริเวณดังกล่าวอยู่ในทุกวันและได้พบกับน้องไซตัวนี้ที่ต้องอยู่แต่ในกรงแบบนี้มานานหลายแรมปี ด้วยไม่เคยจะมีโอกาสแม้สักครั้งที่ได้ออกมาวิ่งเล่น หนำซ้ำยังต้องทนนั่งกินนอนกินอยู่กับอึกับฉี่ของตัวเอง เพราะด้วยทางผู้เป้นเจ้าของนั้นนำมาเลี้ยงตั้งแต่แรกแต่กลับไม่มีเวลาแม้จะดูแลหรือพาไปไหนมาไหน จึงได้เฝ้าดูเฝ้ามองเขาไปไป ชีวิตนี้จะทำอย่างไรถ้ามีค่าเพียงเท่านี้ เธอจึงได้พยายามที่จะเข้าช่วยเหลือน้องโดยที่ในวันนั้นเธอตัดสินใจที่จะลงไปคุบกับทางผู้เป็นเจ้าของ โดยทางเธอเองได้ไปขอเพื่อที่จะนำน้องมาเลี้ยงแต่ทางผู้เป็นเจ้าของกลับไม่ยอมและได้บอกกับเธอว่าเขาจะขายให้เธอในราคา 5 พันบาท ซึ่งเธอก็ไม่มีทุนพอและก็อยากที่จะช่วยให้น้องได้อยู่อย่างอิสระ เธอจึงได้นำเรื่องราวมาลงยังกลุ่ม Husky Family Gang : แกงค์คนรักไซบีเรียนฮัสกี้ เพื่อที่จะหาคนใจดีเข้าช่วยเหลือ ด้วยหนึ่งชีวิตที่ต้องอดทนอยู่แต่ในที่แคบไม่เคยได้มีแม้แต่สิ่งที่เรียกว่าการวิ่งเล่น...

หนุ่มขอขมายกใหญ่ หลังเหมียวสุดป่วนแอบย่องตะบปหน้าหมาไซบีเรียน หยามถึงหน้าบ้าน

หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงแมวหรือได้สัมผัสกับพวกเขาจริงๆก็จะเข้าใจดี ว่าแท้ที่จริงแล้วพวกเขานั้นฉลาดมากกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้เยอะมาก เพราะด้วยสมองอันหลักแหล่มและด้วยความฉลาดที่พวกเขานั้นมีในแมวบางตัวนั้นก็เรียกได้ว่ามากกว่าสุนัขหลากหลายเท่าเลยก็ได้ แต่ก็อาจจะขึ้นอยู่กับว่าพวกเขานั้นเลือกที่จะแสดงออกมาให้กับพวกเราได้เห็นมากน้อยเพียงใดเท่านั้นเอง เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า ส่งรัก แมวพันธ์x ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดแซบซึ่งเป็นแฟนเพจของเจ้าเหมียวเอง โดยได้เล่าว่าเขาผู้เป็นเจ้าของเจ้าเหมียวรายนี้ที่มีชื่อว่า ส่งรัก แมวพันธ์x ต้องขอโทษเพื่อนบ้านของเขาในไลน์กลุ่มอย่างยกใหญ่ ที่แมวของตนนั้นได้แอบย่องไปตะปบหน้าเจ้าตูบสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ถึงหน้าบ้าน ซึ่งเจ้าเหมียวส่งรักนั้นได้แอบหนีออกไปเที่ยวและไปป่วนไปหยามถึงหน้าบ้านเขาถึงที่ เขาจึงได้ออกมาขอโทษลงในไลน์กลุ่มที่รวมลูกบ้านเอาไว้ด้วยกัน และได้มาโพสต์เพื่อที่จะขอโทษกับทางเพื่อนบ้านลงในเฟสอีกช่องทางหนึ่ง เพราะด้วยเจ้าเหมียวสุดป่วนนี้ไม่สนไม่แคร์โลกใดๆ แม้จะเป็นไซถ้าไม่สงบก็ล่อไปตบเขาถึงที่แถมยังไปส่องบ้านเขาอีกทำให้ผู้เป็นเจ้าของนั้นปวดหัวเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ผู้เป็นเจ้าของเองก็สัญญาว่าจะอบรมตัวเองให้ดีกว่านี้ เพื่อที่เจ้าส่งรักจะได้ไม่แอบย่องไปตบหน้าไซบี้แบบนี้ถึงหน้าบ้านอีก เพราะด้วยจะอบรมแมวนั้นคงจะยากกว่าเลยเลือกว่าน่าจะอบรมตัวเองน่าจะเป็นการดีที่สุด ซึ่งเราก็เห็นใจผู้เป็นเจ้าของรายนี้แต่เจ้าไซเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดด้วยอาจจะเป็นแค่การตักเตือนเพียงชั่วขณะเพียงเท่านั้น และก็อยากจะฝากเอาไว้ให้ดูแลเจ้าเหมียวของตัวเองให้ดีเพราะหากเพื่อนๆเลี้ยงพวกเขาแล้วไซข้างบ้านก็อาจจะต้องโดนแบบนี้บ้างก็เป็นได้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก ส่งรัก แมวพันธ์x

ติดอยู่บนเกาะทางแยก ไร้แม้ผู้คนจะช่วยเหลือด้วยตัวเป็นเพียงจร ได้แต่นอนมอบในพุ่มไม้

ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างตามมีตามเกิดเพราะเป็นเพียงแค่จร ใครเค้าจึงมองว่าไม่มีค่าในสายตาของผู้อื่น ซึ่งหากว่าในวันนี้เราท้อถอยกับปัญหาที่ได้พบอยากให้ลองมองย้อนดูหลายๆชีวิตที่ได้เกิดมาไม่มีผู้คนที่จะมานั่งสนใจเพราะเพียงไม่รู้จะทำยังไงหากต้องเจอกับปัญหา เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pakpoom Noppakun ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่มีคนพบน้องติดอยู่ตรงเกาะกลางถนนซึ่งตรงกับทางแยกจะหันซ้ายหันขวาก็เจอแต่รถโดยไม่รู้ว่าน้องนั้นถูกนำมาปล่อยหรือเป็นจรที่พลัดหลงมา แต่ทว่าน้องก็ทำได้เพียงแค่นอนหมอบในพุ่มไม้ด้วยไม่มีทางไหนที่ตนจะไปได้เลย ซึ่งก็ได้มีผู้คนใจดีพยายามที่จะเข้าช่วยเหลือแต่ทว่าน้องก็หวาดกลัวและไม่ยอมให้ช่วย อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บโดยผู้โพสต์ได้ระบุพิกัดที่น้องอยู่ไว้ที่ เกาะทางแยกถนนบรมราชนนี ใกล้ๆกับปั้มปตท ตลิ่งชัน และก็ไม่รู้ว่าต้องทนใช้ชีวิตแบบนั้นมานานมากเพียงใด แต่ที่แน่ๆคงจะไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเพราะด้วยถนนหลายเลนส์ในบริเวณดังกล่าวจึงไม่สามารถทำให้น้องไปไหนได้เลยเพราะถนนดังกล่าวมีรถสัญจรไปมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทางผู้โพสต์เองจึงได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ยังโลกออนไลน์เพื่อที่จะหาคนเข้าช่วยเหลืออีกแรง และในภายหลังจากที่ได้โพสต์เรื่องราวไปแล้วก็ได้มีผู้คนใจดีมาอัพเดทเพิ่มเติมว่าในตอนนี้น้องได้หายตัวไปแล้วไม่รู้ว่ามีคนมาช่วยเหลือแอบหลบไปที่ไหน แต่จากสภาพน้องไม่น่าจะเป็นแมวจรที่คล่องแควว่องไว้หรือคุ้นชินกับสถานที่ดังกล่าวจึงอยากฝากเพื่อนๆเอาไว้ว่าหากมีใครที่อยู่ใกล้ๆกับพิกัดดังกล่าวรบกวนช่วยสอดส่องดูแลเพื่อที่ว่าจะได้พบน้องและเข้าช่วยเหลือ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pakpoom Noppakun