หน้าแรก บล็อก หน้า 64

จะขอดูแลเธอจนกว่าจะหมดลมหายใจ หลังตนทนทุกข์จนน้ำหนักเหลือเพียง3โล

ทาสแมวอย่างเราๆเมื่อได้ดูแลแมวสุดที่รักสักตัวแล้ว เราคงไม่อยากให้น้องต้องจากไปเพียงลำพัง เขาจะทำทุกอย่างให้น้องมีชีวิต แม้ว่าจะต้องแลกมากับอะไรหลายๆอย่าง เหมือนกับชีวิตน้องแมวตนนี้ที่กำลังป่วยอยู่ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Rampai Meesuk ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า การรักษาลุงอ้วน แมวอายุ 17 ปี ที่ตนกำลังป่วยเป็นโรคไตระยะสุดท้าย จากน้ำหนักเกือบ 6 กก. แต่ตอนนี้เหลือเพียง 3 กก.เพียงเท่านั้น ลุงต้องฉีดน้ำเกลือใต้ผิวหนังทุกวัน เกือบ 1 เดือนแล้ว ค่ะ สลับกับฉีดโฮโมนเพื่อบำรุง ทางคุณหมอเขาก็แจ้งมาว่าน่าจะอยู่ได้อีกประมาณ 1 ปีค่ะ ต้องกินอาหารชนิดบำรุงอย่างเดียวทั้งชนิดเปียกและชนิดเม็ด...น่าสงสารมากๆ แต่จะดูแลคุณลุงให้ดีที่สุดเพราะคุณลุงก็อายุมากแล้ว จนเรื่องราวของคุณลุงอ้วนได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาให้กำลังใจกับทางเจ้าของและตัวคุณลุงเอง ขอให้คุณลุงอาการเริ่มดีขึ้นและกลับมาสดใสอีกครั้ง ที่มา Rampai Meesuk

ตกในน้ำมีเพียงกิ่งไม้พยุงตัวไร้ทางจะขยับ เพราะชีวิตที่ไร้คนรักเลยไร้ทางจะช่วยเหลือ

แม้ในสภาพชีวิตที่ทุกคนเห็นว่าพวกเขาเป็นแมวจรอย่างน้อยๆพวกเขาก็ยังมีข้าวหรือพอมีให้ประทังชีวิตให้ผ่านพ้นวัน แต่ความความเป็นจริงนั้นชีวิตมันไม่ได้ง่ายเหมือนดั่งฝันที่ทุกคนวาดไว้ เพราะกว่าจะได้ตกถึงท้องแม้ต้องหลบแอบจะทุกข์หรือภัย ต้องทนใช้ชีวิตให้รอดพ้นไปในแต่ละวันมันไม่ง่ายเลย เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Manerat Pu ที่ได้โพสต์เรื่องราวด้วยน้ำตาหลังจากที่เธอเจอน้องแมวตกน้ำตรงช่อง BTS ช่องนนทรีเธอก็พยายามที่จะเดินเลาะมาตามแนวของ BTS เพื่อที่จะหาบันไดขึ้นคลองแต่ก็ไม่พบเจอบันไดเลย เธอเลยได้มาโพสต์ถามลงในกลุ่มทาสแมว offcial เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ ว่าต้องแจ้งไปยังหน่วยงานไหนเพื่อให้เข้ามาช่วยน้องพอดีเธอเองก็รีบขึ้นไปทำงานด้วย แต่ก็อดสงสารที่จะปล่อยผ่านไปไม่ได้จริงๆ เพราะสภาพน้องเนื้อตัวเปียกปอนเต็มไปด้วยน้ำที่ได้ตกลงไปในคลองดังกล่าว และก็มีเพียงกิ่งไม้น้อยๆที่ลอยอยู่บนผิวน้ำและน้องก็พยายามที่จะประทังตัวให้รอดพ้นด้วยการทรงตัวแบบไม่ขยับไปไหน แม้เธอเองก็ไม่ได้อยู่จนถึงเวลาที่มีคนมาช่วยไว้เลยต้องทำใจเดินผ่านไปปาดน้ำตาตกในแม้จะไม่สบายใจเลย จนในภายหลังได้มีคนเข้ามาเห็นและคาดว่าน่าจะช่วยน้องขึ้นมาแล้ว เพราะหลังจากนั้นเธอได้มาอัพเดทว่าเธอลงมาดูน้องอีรอบแล้วและแจ้งกู้ภัยเพื่อให้มาช่วยเหลือน้องแต่ก็ไม่พบเจอน้องอีกเลย แม้ก็มีคนเข้ามาอัพเดทว่าได้ช่วยน้องขึ้นมาจากน้ำและนำไปไว้แถวๆนั้นซึ่งเป็นเกาะกลางถนน และก็ยังไม่มีใครพบเห็นน้องแมวอีกเลยก็ยังไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง ที่มา Manerat Pu

จำต้องยกแมวให้กับคนอื่นยกบ้าน เพราะด้วยความจำเป็นและไร้ทางเลือก

คนเลี้ยงแมวอย่างเราๆเวลาจะให้แมวกับใคร มันก็คงจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากทางจิตใจเป็นอย่างมาก เพราะแมวใครๆก็รัก ยิ่งเป็นแมวพันธุ์ด้วยแล้วคงไม่อยากยกให้กับคนอื่นๆเลย แต่สำหรับเรื่องราวดังกล่าวนี้มันกลับแตกต่างกันออกไป . เพราะเจ้าของเรื่องราวเองก็ไม่อยากยกแมวให้กับใคร แต่ด้วยความจำเป็นเค้านั้นต้องให้แมวพันธุ์กับคนอื่นยกบ้านเลย เด็กๆทั้งน่ารักและนิสัยดี ทาสแมวอย่างเราๆก็มีแต่คนเข้าไปให้ความสนใจอยากรับเลี้ยงน้องๆไปอยู่ด้วย โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : พรรณธิดา รักษาสัตว์ ได้โพสต์ลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า หาบ้าน ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เหตุที่ต้องยกเด็กๆไปทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าของต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เด็กๆเป็นแมวพันธุ์สก็อตติสโฟร์ ขอบ้านที่ดูแลน้องได้ น้องนิสัยดี น่ารัก ขี้อ้อน ทางทาสแมวเองก็แห่เข้ามาให้ความสนใจที่จะคิดรับเลี้ยงน้องไป แต่ทางเจ้าของเองก็ต้องคัดกรองกันอีกทีว่า สรุปแล้วเด็กๆทั้งหมดนี้ใครจะได้เอาไปครอบครอง หากท่านใดสนใจอยากรับเลี้ยงลองเข้าไปดูได้ที่ต้นโพสต์ได้เลย ที่มา พรรณธิดา รักษาสัตว์

แบกสังขารลากขากะเผลกมาขอประทังน่าเวทนาจิต แม้มีเจ้าของกลับปล่อยให้ขิตตามยถากรรมเขา

แม้ในความพร้อมที่เราพยายามจะบอกว่าต้องมีการจะรับหนึ่งชีวิตนี้มาเลี้ยงดูไว้ เพราะไม่ใช่แค่ความอยากจะได้อยากจะมีและหามาเลี้ยงเพื่อสนองตัวในยามอยาก เพราะหนึ่งชีวิตจะต้องอยู่กับเราไปตลอดแม้ในยามที่เราลำบากต้องคิดให้ได้ว่าเราจะสามารถดูแลพวกเขาไปได้ตลอดยามเจ็บป่วยไข้ เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Apinya Chotipunvitayakul ได้โพสต์เรื่องราวที่ทำให้ทาสแมวหลายคนต้องเสียน้ำตาเพราะน้องเป็นแมวพันธุ์เปอร์เซียซึ่งถูกรถชนมาแม้มีเจ้าของ แต่เจ้าของน้องกลับไม่สนใจทั้งๆที่เจ้าของก็มีตังที่พอจะพาน้องไปรักษาหรือหาหมอ น้องเลยต้องเดินลากขาไปร้องขออาหารเพื่อนบ้านกิน เธอเห็นแล้วก็เกิดเวทนาใจ ซึ่งตัวเธอเองก็อยากจะช่วยน้องหรือพาไปรักษาก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะน้องยังมีเจ้าของอยู่และเธอก็เป็นเพื่อนบ้านกันเลยไม่รู้จะช่วยยังไงดี แม้ล่าสุดเธอก็ได้เข้ามาอัพเดทว่าตอนนี้เจ้าของน้องพาน้องเข้าไปในบ้านแล้วนะคะ ตัวเธอเองก็พยายามเต็มที่แล้วและด้วยความที่เขามีเจ้าของ ถึงแม้ว่าเขาจะดูแลไม่ได้ดีอย่างพวกเรา เพื่อนก็พยายามเข้าไปดูอาการบ่อยๆแล้วแมวไม่สาหัสเธอก็โล่งใจมาก ขอให้เป็นแค่ซ้นหรือช้ำก็พอซึ่งในความเป็นจริงเธอก็อยากจะให้น้องไปหาหมอแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ เพราะทางผู้เป็นเจ้าของเขาก็ไม่ยอม เราก็อยากจะฝากไปถึงคนเลี้ยงแมวทุกคนว่าก่อนจะรับเข้ามาดูแลหรือรับหนึ่งชีวิตนี้มาดูแลไว้ ต้องดูความพร้อมของตัวเองเพราะชีวิตที่เลี้ยงเอาไว้พวกเขาก็มีเราเป็นเหมือนดั่งคนเป็นพ่อแม่ ยามเจ็บไข้ได้ป่วยเขาไม่สามารถที่จะหายเองได้เราต้องพาไปหาหมอไม่ใช่ปล่อยให้อยู่ตามยถากรรม ที่มา Apinya Chotipunvitayakul

นั่งเฝ้ากลางถนนตากแดดฝนเพราะรอเขา ชีวิตซ้ำเห็นแล้วเศร้าร่างกายผอมแห้งไร้เรี่ยวแรงจะยืนไหว

ไม่ใช่เพียงแค่สุนัขเท่านั้นที่พวกเขาจะมีความซื่อสัตย์และรักผู้เป็นเจ้าของ เพราะน้องแมวบางตัวที่เราเห็นยามที่เจ้าของเขาไม่อยู่เขาก็ได้แสดงออกมาถึงความเศร้าและเสียใจ เพราะแม้บางคนจะเคยบอกว่าแมวเป็นสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยจะรักหรือสนใจใคร แต่ความเป็นจริงอาจจะถูกซ่อนไว้ในวันที่พวกเขาได้จากไปแล้วเราอาจจะต้องเสียใจเอง เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า กัญญภัทร ได้โพสต์เรื่องราวด้วยน้ำตาหลังเข้ามาโพสต์เพื่อที่จะตามหาเจ้าของให้กับน้องแมวตัวนี้ เป็นน้องแมวเพศผู้ตัวผอมมาก ซึ่งน้องนั่งเฝ้าอยู่ที่กลางถนนแม้จะมีคนพยายามไล่ก็ไม่ยอมไปไหนไม่รู้ว่าใครพาน้องเอามาปล่อยไว้หรือน้องหลงมาเอง แม้ตอนนี้เขาก็ได้ให้ข้าวให้น้ำน้องกินประทังหิวไปแล้วแต่ก็ไม่สามารถที่จะเลี้ยงหรือดูแลเอาไว้เองได้ในชั่วคราวเพราะที่บ้านของเธอก็เลี้ยงหมากับแมวเยอะแล้วเกินกำลังที่จะรับน้องไว้ได้ เลยอยากจะพยายามตาหาบ้านให้กับน้องหรือตามหาผู้เป้นเจ้าของให้ เพราะเห็นแล้วก็สุดแสนจะอนาจใจเพราะสภาพที่เห็นอยู่ผอมแห้งมากจนแทบจะไร้เรี่ยวแรงยืนไหวเลย พิก ัดอยู่ที่แถวโรงแรมไอยรารีสอร์ทหรือก่อนถึงหมู่บ้านสุภวรรณ ซึ่งถ้าใครคิดว่าเป็นเจ้าของน้องก็สามารถที่จะติดต่อไปหาเธอได้เลย ที่มา กัญญภัทร

สาวโพสต์อุทาหรณ์พาแมวไปทำหมัน หลังเจอหมอกรีดสะบัดกลับหันมาบอกว่าทำไม่ได้

เพราะในความรักที่เลี้ยงดูแลมาเหมือนกับคนเป็นลูก ยามจะพาไปไหนเราก็ต้องคอยใส่ใจหรือแม้แต่การจะตัดสินใจที่จะทำอะไรกับพวกเขาก็ต้องคอยศึกษา เพราะถ้าเกิดดูไม่ดีหรือไม่ค่อยตรวจดูความเรียบร้อยหรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา อาจจะทำให้ต้องเสียน้ำตาแม้ไม่มีวันจะได้กลับมาหรือหวนคืน เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Aiyawee Jaowa ที่ได้โพสต์เรื่องราวที่ต้องเสียน้ำตาและเสียใจไปตลอดชีวิต หลังจากได้มาโพสต์เตือนทุกคนในกลุ่มว่าอุทาหรณ์ของคนที่จะเอาแมวไปทำหมันนะคะ เพราะเมื่อวานเธอได้พาน้องแมวไปทำหมัน ได้งดข้าวกับน้ำ5-6ชม. แต่พอถึงคลีนิคคุณหมอก็ให้เธอช่วยจับน้องแมวเพื่อที่จะฉีดยาสลบให้โดยไม่ตรวจร่างกายแมวอะไรเลย พอแมวสลบหมอก็เอาแมวขึ้นเตียงแล้วทำการเอาม ีดกร ีดที่ท้องแมว แล้วทำการคว้านท้องแมวสักพักก็หันมาบอกเธอว่าน้องอ้วนเกินไป ไขมันเยอะหาไม่เจอ แม้ตอนนั้นเธอก็เสียใจไปแล้ว เพราะลูกของเธอต้องกรีดอผลเพิ่ม เพื่อที่จะคว้านท้องอีกรอบพออีกซักพักหมอก็หันมาบอกว่าหมอถอดใจแล้วทำต่อไปไม่ได้แล้ว ใจเธอตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้วสงสารลูกจับใจเลย จนผู้ช่วยบอกน้องหายใจไม่ดีแล้วหมอถึงได้เย็บแผลน้องแล้วให้น้องกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ซึ่งในขณะนั้นเธอก็ได้แต่สงสารลูกพอเสร็จหมอก็ได้คิดค่ายาสลบเธอ 300 แล้วให้เธอกลับบ้าน ในใจแมร่งโครตจะโมโหหมอมากแต่คือทำอะไรไม่ได้แทนที่จะบอกแต่แรก ลูกต้องมาเจ็บตัวฟรีๆหมอทำหมันแมวที่ระยอง คนรักแมวทาสแมวก็คงจะเข้าใจดีถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะการจะทำหมันหรือการจะรักษาถ้าคนที่เลี้ยงแมวหรือเคยพาแมวไปหาหมอจะเข้าใจเลยว่าหมอจะตรวจค่าโ.ลห  ิดเพื่อที่จะอิงจากผลเป็นหลักแม้แต่การรักษาโรคเจ็บป่วยเล็กๆน้อยหรืออาการซึมไม่ยอมกินข้าวต่างๆหมอก็จะดูผลจากค่าตรงนั้นแต่ถ้าเจอในกรณ๊แบบนี้เรื่องของการทำหมันยิ่งแล้วใหญ่ถ้าไปที่ไหนแล้วเค้าไม่ยอมตรวจอะไรก็ขอให้ออกมาในทันทีเราจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง และเรื่องนี้ก็สอนให้รู้ว่าไม่มีใครรักเราไปกว่าลูกของเราเอง ที่มา Aiyawee Jaowa

ถ้ายังไม่สนใจกันชั้นจะงอนเธอแล้วนะ หลังไม่เจอหลายวันสายตากลับเปลี่ยนไป

แมวเป็นสัตว์ที่เอาแต่ใจ พวกเค้ามีความคิดเป็นของตัวเองและทำตัวเหมือนกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของเราอีกที พวกมันไม่เคยคิดเลยนะว่าตัวเองเป็นสัตว์เลี้ยง เหมือนกับเรื่องราวของน้องแมวดำตนนี้ที่เจ้าของพึ่งกลับมาต่างจังหวัดแล้วได้พบเจอกัน . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Rud Fairus ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า วันก่อนผมกลับมาจากต่างจังหวัด ผมเหนื่อยกับการเดินทางไกล พอขึ้นห้องปุ๊บไปกะว่าจะนอนให้หายเหนื่อยสักหน่อย กะว่าจะนอนบนเตียงสบายๆ เจ้าดำแมวที่เลี้ยงไว้ก็ตามขึ้นมาบนห้องเลยครับ เข้าใจแหละว่ามันคิดถึง ทำหน้าทำตาอ้อนไม้อ้อนมือ เราก็บอกมันไปว่าเหนื่อยพอเหนื่อยมาก ขอพ่อนอนก่อน ยังไม่เล่นด้วยนะแล้วหลังจากนั้น ทุกคนครับบบบ ดูมันทำหน้า เอออออ ยอมมม รู้สึกผิดเลยครับเล่นด้วยก็ด้ายยยย จากตอนแรกที่ทำสายตาอ้อนนะ แต่ตอนนี้ทำไมสายตาของน้องมันกลับเปลี่ยนแปลงไป นี่แหละหนาแมวเราไม่สามารถขัดใจน้องแมวได้จริงๆ 555 ที่มา Rud Fairus

ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าการพาลูกไปตัดขนที่ร้าน กลับทำให้ลูกต้องจากไปไร้คนรับผิดชอบ

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Arraya Mungsawat ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า ความตั้งใจที่จะพาลูกไปตัดขน แต่สิ่งที่ได้มันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเหมือนพาลูกไปสิ้นลม ร้านตัดขนสัตว์แห่งหนึ่งในซอยรามอินทรา 109 . ตัดเล็บกัสจังเข้าเนื้อทุกเล็บจนโลหิตออกทุกนิ้ว เราถ่ายคริปไว้ว่าน้องดุมาก บอกปล่อยให้น้องโวยวายจนเหนื่อย ใช่ลูกเราเหนื่อยและเหนื่อยมาก ถ้าตัดไม่ได้ก็ควรที่จะโทรมาแจ้งเจ้าของไม่สามารถตัดต่อได้ เราจะได้กลับไปรับน้องกลับมา แต่นี้จนลูกเราช็อคไป เราไปถึงร้านตอนบ่าย 3 ไปรับน้องประมาณ 6 โมงเย็น ช่างยังตัดไม่เสร็จเลยค่ะ เราเห็นลูกอาการไม่ดี ถามช่าง ช่างบอกน้องเหนื่อยปกติของแมวที่ตัดขนยังไม่ชิน น้องเหนื่อยจากการดิ้นมาก ไม่นานตัดสินใจเอาน้องออกมา เรารีบพาไปหาหมอในทันที คุณหมอรีบช่วยบอกน้องเข้าขั้นวิกฤตแล้ว ความร้อนทุกปรอท ตัวน้องร้อนมากถึงมากที่สุด ซึ่งหมอเขาก็บอกเราว่าน้องไม่ไหวแล้ว ปอดแข็งและลิ้นช้ำ แดง ปั๊มหัวใจอยู่สักพัก ใช่น้องจากเราไปแล้ว ฝากถึงช่างควรสังเกตให้มากกว่านี้ คือถ้าเราไม่ไปรับน้องก่อนช่างก็ไม่โทรหาเราเลย RIP กัสจัง 05/10/65 กลับไปอยู่ดาวแมวกับพี่ออดี้นะลูก ดวงใจของแม่ ร้านอาบน้ำตัดขนสัตว์ในรามอินทรา109 และท้ายที่สุดนี้ทางร้านเขาไม่รับผิดชอบค่ะ ที่มา Arraya Mungsawat

ระหกเร่หาต้วมเตี้ยมมาขาแง่งขิง เข้าไปหลบแอบในซอกเล็กแม้ค่าตัวร่วมครึ่งแสน

แม้ในทุกครั้งที่เราพยายามบอกให้เลี้ยงพวกเขาเอาไว้แต่ในบ้าน เพราะถ้าชีวิตของพวกเขาสำคัญต่อใจเราก็อย่าปล่อยให้ออกหรืออย่าเผลอ ด้วยชีวิตที่ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนดั่งลูกไม่สามารถจะดูแลตัวเองได้เลย ยามออกมาสู่โลกภายนอกก็จำต้องทุกข์ทนหรือลำบากเหมือนกับเรื่องราวนี้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ซัน' เดย์ ได้โพสต์เรื่อวราวของน้องแมวตัวนี้ที่ได้หายออกจากบ้านมาเพื่อที่จะตามหาผู้เป็นเจ้าของลงในกลุ่ม น้องอยู่พิก ัดกรุงเทพกำนันแม้น น้องไม่มีแม้ปลอกคอและเขาก็ได้พบเจอน้องในเวลาประมาณตี 1 ช่วงฝนตกแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะจับตัวน้องเอาไว้ได้ ซึ่งน้องได้เข้ามาหลบแอบในบ้านของเขาน้องเชื่องมากเกาคอได้ลูกหัวได้ และได้หลอกเขากินขนมแมวเลียไปแล้วหลายซองเลย แต่พอจะจับน้องจะงับและหนีไปอยู่ในป่าแม้มีพี่กู้ภัยมาช่วยกันจับก็ยังจับไม่ได้เลยเพราะน้องไวมาก แต่ยังอยู่ในซอยบ้านเขาแม้น้องก็ไม่ใช่แมวพันธุ์ปกติ เพราะขาสั้นและอ้วงมากแต่ก็วิ่งไวมากๆด้วย ซึ่งภายหลังเขาได้เข้ามาอัพเดทเพิ่มเติมว่าตอนนี้เจอน้องอยู่ในที่เก็บของของข้างบ้านเพื่อนบ้านกัน ซึ่งของก็เยอะมากน้องแอบเข้าไปข้างในที่เก็บของและเขาก็เอื้อมมือไปไม่ถึง ซึ่งพยายามเอาขนมแมวเลียล่อน้องก็เอาแต่นั่งมองไม่ยอมออก และคงคิดว่าน่าจะปลอดภัยสำหรับน้องคงต้องปล่อยน้องอยู่แบบนั้นไปก่อนจนกว่าจะยอมออกมาอีกครั้ง เลยอยากจะฝากเอาไว้ถ้าเจ้าของเจอโพสต์นี้ก็สามารถที่จะทักหาเขาได้เพื่อที่จะขอข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย ที่มา ซัน' เดย์

นอนไร้เรี่ยวแรงตาลอยอยู่หน้าคลังจังหวัด ไร้แม้คนรับทำได้เพียงรอหมดสิ้นลมหายใจ

เพราะยามในชีวิตคนเราเมื่อตกทุกข์ได้ยากยังมีคนที่คอยให้กำลังใจหรือคนช่วยเหลือ เพราะสามารถที่จะไปร้องขอหรือบอกใครได้ว่าตัวกำลังเดือดร้อน แต่พอเป็นชีวิตน้อยๆที่เกิดมาเป็นเพียงแค่แมวจรพวกเขากลับไม่สามารถที่จะไปร้องขอหรือบอกใครได้ เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ton Pakorn ที่ได้โพสต์เรื่องราวด้วยน้ำตาหลังได้พบเจอกับน้องแมวตัวนี้ที่ตกอยู่ในสภาพที่สุดแสนจะอนาถใจเพราะนอนป่วยอาการหมดเรี่ยวแรงแม้ใกล้หมดลมจะหายใจ แถมยังตาลอยใส่ขาก็ไม่มีแรงแม้จะลุกเดิน อยู่ที่หน้าคลังจังหวัดในจังหวัดอุดร เขาก็ทำได้เพียงมองและนำมาลงไว้เผื่อว่าจะมีคนเข้ามาช่วยเหลือน้องได้ เขาก็ยังไม่ได้ช่วยเพราะตอนนี้ได้ขี่รถออกมาแล้วช่วยได้แค่ถ่ายรูปแล้วนำมาลงไว้ เขาก็ขับรถออกมาไม่ได้นั่งเฝ้าน้องอยู่ไม่ต้องบอกให้เขาไปทำนั่นทำนี่ ลงไว้ก่อนเผื่อมีคนมาช่วยเหลือน้องได้ แม้จากวันที่เขาได้มาโพสต์ลงในกลุ่มคนรักน้องหมาอุดรจนมาถึงวันนี้ก็เข้าร่วมสองวันผ่านแล้ว เขาก็ได้มาอัพเดทว่าแม้ในตอนนี้น้องก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆจากใครเลยและไม่รู้ว่าป่านนี้น้องจะเป็นอย่างไรบ้างเราก็อยากจะฝากให้คนที่อยู่ใกล้หรือในพื้นที่ช่วยเหลือน้องที ที่มา Ton Pakorn