หน้าแรก บล็อก หน้า 543

ตูบนั่งแทะพาสปอร์ตของขุนแม่ชาวไต้หวัน ก่อนวันเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นก่อนที่จะเกิดโรคระบาดเพียงไม่กี่วัน

สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าในเมืองอู่ฮั่นยังคงยังคงวิกฤติ เรียกได้ว่าคนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้ากันเลยทีเดียว หลายท่านอาจโชคดีที่ยังไม่ป่วย หลายท่านอาจโชคดีที่หายเองจากไวรัส แต่จะมีใครโชคดีไปกว่าสาวไต้หวันรายนี้ที่กำลังจะเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นเพื่อไปเที่ยวในวันตรุษจีน . เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้ทวิต : ChubbyShiro ได้เผยเรื่องราวของสาวไต้หวันท่านหนึ่ง สาวไต้หวันท่านนี้ได้จองตั๋วเครื่องบินที่จะเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นเพื่อไปเที่ยวในวันตรุษจีน แต่ก่อนที่จะเดินทางเพียงไม่กี่วันเจ้าหมาตัวแสบดันทำลายพาสปอร์ตของเธอจนพังยับไม่สามารถใช้เดินทางไปยังต่างประเทศได้ ในตอนแรกเธอรู้สึกโกรธหมาของเธอมาก เพราะเธอเตรียมการที่จะเดินทางไปยังอู่ฮั่นอยู่แล้ว เธอก็เลยโพสต์เรื่องราวตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2563 ซึ่งก็คือวันก่อนที่จะเกิดโรคระบาดในเมืองอู่ฮั่นเพียงไม่กี่วัน พอผ่านไปได้ไม่กี่วันเธอก็ต้องขอบคุณหมาของเธอเพราะเมืองอู่ฮั่นเกิดเหตุการณ์ไวรัสโคโรนาระบาด เรื่องบังเอิญของเจ้าหมาของเธอที่ทำลายพาสปอร์ต มันช่วยให้ตัวของเธอนั้นปลอดภัยจากโรคระบาดนี้ ไม่ต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงในพื้นที่อันตราย เธอจึงโพสต์เฟสบุ๊กอีกครั้งเพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าหมาคิม โดยเธอได้โพสต์ข้อความอีกครั้งลงในเฟสบุ๊กพร้อมระบุว่า พวกคุณจำเรื่องเจ้าคิมแทะพาสปอร์ตได้มั้ย กลายเป็นว่ามันช่วยปกป้องชีวิตของฉันเอาไว้ ชาวเน็ตหลายท่านต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า นี่ไงหมามันช่วยชีวิตคุณเอาไว้แท้ๆ บ้างก็บอกว่านี่เป็นการแทะพาสปอร์ตเล่นที่ตอนเริ่มอาจจบไม่สวย แต่พอตอนจบของเรื่องน้องกลายเป็นฮีโร่ของขุนแม่ซะอย่างนั้นเลย บ้างก็บอกว่าน้องอาจมีพลังงานบางอย่างที่เหมือนรู้ว่าที่ๆแม่จะไปจะเกิดเรื่อง น้องก็เลยหยุดเธอไว้ไม่ให้ไปไหนเพราะที่ๆจะไปมันไม่ปลอดภัย ฮ่าฮ่า นี่มันหมาฮีโร่ชัดๆ อยากจะกินอะไรขอให้บอกนะลูก แต่คราวหลังอย่าแทะพาสปอร์ตของแม่เล่นอีกนะ ขอขอบคุณ : ChubbyShiro

ตัวก็ยังเล็กตายังไม่ทันลืม จับใส่ตะกร้าโยนไว้กลางดึก ร้องทั้งคืนขอให้ใครสักคนเข้าช่วย

เพราะมนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เห็นแก่ตัว ซึ่งก็ไม่ได้เป็นกันทุกคนเสมอไปหรอกนะเพราะจิตใจของคนเรานั้นแตกต่างกันออกไปมีความอ่อนโยนในหัวใจแตกต่างกันอาจจะด้วยการเลี้ยงดูหรือสังคมสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา หล่อหลอมทำให้จิตใจของคนๆนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่และสภาวะแวดล้อม ซึ่งในบางคนเห็นสัตว์เหล่านี้มีค่าเทียบเท่ากับหนึ่งชีวิตเพราะได้เกิดมาบนโลกที่กว้างใหญ่ แต่บางคนกลับไม่สนใจชีวิตเล็กๆเหล่านี้ทำเหมือนไร้ค่าไม่มีราคาหรือมีลมหายใจเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ‎สุนิษา มอมแมม‎ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวทำให้ทาสแมวหลายคนต้องเศร้าสลดใจ ลงในกลุ่ม มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจรหลังจาากที่เขานั้นพบรถเก๋งสีดำขับเอาลูกแมวใส่ตระกร้ามาปล่อยเอาไว้ ตั้งแต่เมื่อวานเวลา 3 ทุ่ม ซึ่งสภาพของน้องๆแต่ละตัวนั้นยังคงเล็กมากๆ นมยังไม่ทันหย่าตายังไม่ทันลืมสนิท ไม่รู้ว่าจิตใจคนทำนั้นทำด้วยอะไรทำไมถึงปล่อยให้ชีวิตตัวเล็กเหล่านี้มาอยู่ในที่แบบนี้ได้ลงคอ ซึ่งทางผู้โพสต์เองก็ได้ทำการเข้าช่วยเหลือโดยในทีแรกก็คิดว่าคงจะมีใครมาช่วยน้องๆไปแล้วแต่ก็ยังคงเอะใจเลยวนรถกลับไปดูอีกรอบ สรุปว่าน้องๆยังอยู่ที่เดิม ซึ่งเด็กๆนั้นต้องทนหิวและส่งเสียงร้องกันมาทั้งวันทั้งคืนแถมลูกแมวเล็กยังต้องการความอบอุ่นต่อร่างกายให้เพียงพอมิเช่นนั้นคงจะสิ้นลม โดยผู้โพสต์เองก็ได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อที่จะหาคนรับน้องๆไปเลี้ยงเพราะเนื่องจากน้องๆยังเล็กและต้องการความดูแลอย่างใกล้ชิตโดยตัวผู้โพสต์เองก็ไม่สะดวกที่จะต้องดูแลน้องตลอดเวลา ซึ่งทั้งนี้ก็ยังเตรียมขอภาพจากกล้องวงจรปิดในระแวกใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบทะเบียนรถเก๋งสีดำต่อไป ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก ‎สุนิษา มอมแมม‎

ตาฝ้าฟางมองไม่ค่อยจะเห็น ร่างกายผอมโซแรงจะเดินแทบไม่มี เดินเร่รอนขอข้าวขอน้ำประทังชีวิตรอด

เพราะหลายๆชีวิตนั้นเลือกที่จะเกิดมาไม่ได้ ถ้าหากเลือกเกิดมาได้ใครๆก็คงอยากจะเกิดมามีชีวิตที่พบเจอแต่ความสุขสบายไม่ต้องปากกัดทีนถีบ อดหลายมื้อได้กินอิ่มในแต่ละมื้อนั้นถือเป็นโชคดี ยิ่งถ้าเป็นสุนัขหรือแมวจรแล้วยิ่งเข้าไปใหญ่วันไหนเจอคนใจดีให้ข้าวให้น้ำนับว่าเป็นโชคยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลใหญ่ หลังจากที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Kret Suttiwong ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายหนึ่งที่เขาได้พบเจอซึ่งเจ้าตูบนั้นอยู่ในสภาพที่สุดจะน่าสงสาร เพราะด้วยสภาพของน้องนั้นตาฝ้าฟางมองก็เกือบจะไม่เห็น ร่างกายก็ขาดสารอาหารผอมหิวโซเดินเรร่อนไร้แม้เรี่ยวแรงจะร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งเขาจึงเอาเรื่องราวของน้องมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์เผื่อว่ามีใครไปแถวบริเวณนั้นก็ฝากเอาข้าวไปให้น้องทีหรือหากมีเพื่อนๆท่านไหนสนใจอยากจะเข้าช่วยเหลือก็สามารถติดต่อไปยังต้นโพสต์ได้ ซึ่งเขาได้เล่าไว้ว่า น้องอยู่แถวสวนอุตสาหกรรมไฮเทค บริเวณหน้าโรงงานแคนนอนไฮเทค บริเวณเสาสัญญาณจะมีคูน้ำอยู่ภายในนั้นมีสุนัขอยู่หนึ่งตัวตาฝ้าฟางมองไม่ค่อยจะเห็น เห็นก็เห็นแบบเลื่อนลาง ร่างกายขาดสารอาหารผอมมากๆ ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะเดิน ซึ่งหากใครมีเพื่อนหรือทำงานอยู่ในบริเวณดังกล่าวก็ฝากให้ข้าวไปให้น้องที พิกัด นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค บ้านหว้าอยุธยา ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปเป็นเวลาเพียงไม่นานก็ได้มีคนใจดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือน้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วและกำลังนำตัวน้องส่งโรงพยาบาลรักษาสัตว์ในเวลาต่อมา ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะติดตามเรื่องราวต่อไปก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ อย่างน้อยๆน้องก็มีคนมาช่วยเหลือแล้วไม่ต้องอยู่แบบอดๆอยากๆอีกต่อไป ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kret Suttiwong 

หนุ่มพบลูกแมวใช้ชีวิตอยู่ที่ราวระเบียงบนตึกสูง อยู่อย่างนี้มาหลายวันแล้วกลัวน้องจะเป็นอันตราย

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Yuttana Toum ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอกับลูกแมวตัวหนึ่ง ลูกแมวตัวนี้ชอบเดินไต่ราวหน้าต่างแบบนี้มา 3-4 วันแล้ว ไม่รู้หลุดออกมาจากห้องไหน และเขาเองก็กลัวว่าน้องจะตกลงไปข้างล่างนะ ก็เลยเอาอาหารแมวล่อเข้าห้องไว้ก่อน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขอความเห็นหน่อยนะครับ ผมเห็นน้องเดินไต่ราวหน้าต่างมาแบบนี้ทุกวันเลยครับ เดินมา 3-4 วันแล้ว ไม่รู้มาจากห้องไหน กลัวน้องจะตกลงไปข้างล่าง น้องผอมมากเลยครับ ผมเลยให้อาหาร แล้วน้องมาอยู่ห้องผมวันนี้ผมควรทำยังไง จะไปตามหาเจ้าของก็ไม่รู้จะตามหายังไง จะเลี้ยงไว้ก็กลัวเขาว่าเราไปขโมยแมวเขามา น้องยังกลัวผมอยู่เลยครับ สงสารน้องครับ ด้านชาวเน็ตในกลุ่มทาสแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า ลองให้คุณผู้โพสต์ติดป้ายประกาศที่ทางขึ้นคอนโด ว่าประกาศแมวหายจากชั้นนี้ชั้นนี้ ถ้าไม่มีเจ้าของแมวมาแสดงตัวตนก็เลี้ยงเองเลยครับ บ้างก็บอกว่าชวนเล่นกับน้องไปสักพักเอาขนมแมวให้กินสักนิดหน่อย เดี๋ยวน้องก็สนิทกับคุณเองแหละ เพราะแมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่แพ้ขนมแมวเลีย เมื่อพวกเขาได้ลองพฤติกรรมของน้องก็จะค่อยๆเปลี่ยนไป ดูรูปสุดท้ายสินางนั่งแบบชิลๆมากเลยจ้า และอัปเดทเพิ่มเติมจากผู้โพสต์ว่า ตัวเขานั้นเอาน้องเข้ามาในห้องผมละครับ เอาข้าวคลุกปลาทูให้กิน ตอนนี้น้องสนิทกันมากขึ้นแล้วครับ แต่จะตามหาเจ้าของเขาในวันพรุ่งนี้ เจอไม่เจอยังไง หรือจะต้องเลี้ยงเองเราต้องมาติดตามกันอีกทีน้า แต่พี่ๆทาสแมวไม่ต้องเป็นห่วงนะ น้องปลอดภัยแล้วไม่ต้องอยู่ริมหน้าต่างอีกแล้ว ขอขอบคุณ : Yuttana Toum

หนุ่มทาสแมวได้แต่โทษตัวเอง ที่พรากแมวสุดที่รักด้วยน้ำมือของตัวเองเพราะการอาบน้ำ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Art November Rain ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เขานั้นได้เลี้ยงมันเอาไว้ โดยเรื่องราวนี้เป็นอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดีหลังเขานั้นได้อาบน้ำให้แมวและนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้แมวของเขาต้องสิ้นใจ แม้ว่าแมวของเขานั้นจะอาบน้ำจนเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วเพราะเขาอาบให้น้องทุกอาทิตย์ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขอเตือนเป็นอุทาหรณ์ในการอาบน้ำน้องแมวที่เรารัก ถึงแม้ว่าเราจะอาบน้ำให้เขามากว่า4ปีแล้วก็ตาม เเม้ว่าเราจะอาบน้ำให้เขาทุกอาทิตย์ เเม้ว่าเเมวของเราจะเเข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วยอะไรเลย แต่ใครจะรู้ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราอาบน้ำให้กับเขา ใครจะคิดว่าเขาจะช๊อคเเล้วสิ้นใจไป หลังจากอาบน้ำผมเช็ดขนเเล้วใช้ไดร์เป่าขนจนขนและตัวน้องเเห้ง เหมือนเดิมทุกๆครั้งที่ทำมาตลอด4ปี แต่หลังจากนั้นอาการเขากลับซึมลง หายใจติดขัด ผมได้พาเขาไปหาหมอทันทีที่เกิดเหตุการณ์ หมอบอกว่าน้องปอดชื้นมีโอกาสสิ้นใจสูง ทั้งให้ยาทั้งให้อ๊อกซิเจน แต่สุดท้ายน้องก็เสีย ใครจะรู้ว่าการอาบน้ำครั้งนี้ มันคือการที่เราพรากแมวที่เรารักมากที่สุด ด้วยมือของเราเอง โดยหนุ่มผู้โพสต์มีรอยสักรูปแมวพร้อมหัวใจเพราะเขาก็คือหนึ่งในทาสแมวที่รักแมวจริง ชาวเน็ตหลังได้อ่านเรื่องราวต่างพากันเข้ามาแสดงความเสียใจกับการจากไปของน้อง ด้านชาวเน็ตได้กล่าวว่าเคยคุยกับสัตวแพทย์ เขาไม่แนะนำให้อาบน้ำบ่อยจนเกินไปเพราะแมวไม่ถูกกับน้ำ การอาบน้ำทุกอาทิตย์อาจจะค่อยๆเก็บสะสมจนน้องร่างกายทนไม่ไหว สัตวแพทย์จากเดนมาร์กที่ชาวเน็ตเล่าให้ฟังเขาได้บอกว่าเขาไม่ให้เราอาบน้ำให้แมวเลย ถ้าแมวสกปรกมากให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น และค่อยๆเช็ดตัวให้กับน้องพอเช็ดเสร็จ ใช้ผ้าแห้งเช็ดจนกว่าขนจะแห้งสนิท อาบน้ำนานๆครั้งได้ เพราะธรรมชาติของแมวไม่ได้ถูกออกแบบมาให้อาบน้ำบ่อยๆเหมือนกับสุนัข เพราะเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่รักสะอาดอยู่แล้ว และเรื่องราวของน้องคงจะช่วยชีวิตแมวได้อีกมากมาย ของภัยร้ายจากการอาบน้ำบ่อยในครั้งนี้ RIP ขอแสดงความเสียใจกับผู้เป็นเจ้าของด้วยนะครับ ที่มา Art November Rain

ถูกเอามาปล่อยไว้เพียงลำพัง ตาก็มองไม่เห็นได้แต่หลบในที่มืดๆไม่กล้าแม้แต่จะเดินไปไหน

ยามเวลาอยากได้ก็พยายามสรรหาอยากได้มาเลี้ยงแต่เมื่อเวลาที่พวกเขาป่วยหรืออายุมากไม่น่ารักเหมือนแต่ก่อนก็นำมาปล่อย แบบไร้เยื่อใย ไม่สนใจแม้ว่าพวกเขานั้นจะมีชีวิตหรือใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไร เราจึงมักจะพูดบอกกับเพื่อนๆเสมอว่าการนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงแล้วจะต้องรับผิดชอบและเตรียมความพร้อมเพราะพวกเขานั้นจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต เช่นเดียวกับเจ้าเหมียวรายนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Soulking LivingLegend ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวลงในกลุ่ม หาบ้านน้องหมา น้องแมว หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องเขาซึ่งน้องนั้นยังเล็กและถูกนำมาปล่อยไว้อย่างไร้เยื่อใยแถมยังตามองไม่เห็นไปหนึ่งข้างมองเห็นแค่ข้างเดียว และอยู่ด้วยความกลัวเพราะยังเล็กและไม่รู้จักหนทางใดๆ ได้แต่เพียงแอบในซอกหลืบ ไม่รู้ว่ามีอะไรตกถึงท้องบ้างหรือยัง แต่ก็ยังโชคดีที่ได้เจอพี่รายนี้มาเจอหนูไว้ ไม่งั้นหมาก็จะฟัดเอาแย่เลย ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์รายดังกล่าวจึงได้นำเรื่องราวของน้องมาขอบ้านลงในกลุ่มดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งทางผู้โพสต์ได้ระบุพิกัดเอาไว้ด้วยที่ ตลาดเคหะเมืองใหม่บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะเข้าช่วยเหลือน้องหรืออยากที่จะรับเลี้ยงน้องก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ ขอเพียงบ้านที่อบอุ่นที่อยู่อาศัยในระบบปิดเพราะน้องมองเห็นแค่ข้างเดียว ขอเพียงข้าววันละมื้อสองมื้อให้ได้อิ่มท้องน้องคงไม่ดื้อไม่ซน โดยผู้โพสต์นั้นได้แจ้งเพิ่มเติมว่าไม่ทราบเพศน้องแน่ชัดเพราะน้องยังคงเล็กอยู่ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Soulking LivingLegend  

4 ชีวิตถูกปล่อยให้อดอยาก ร่างกายผอมจนทนไม่ไหวแต่เหมือนได้เกิดใหม่เมื่อมีคนเข้ามาเติมเต็มในชีวิต

เพราะชีวิตนั้นเลือกเกิดไม่ได้จึงทำให้หลายๆชีวิตต้องเกิดมาเพื่อดิ้นรนให้รอดชีวิตไปในแต่ละมื้อ ซ้ำยิ่งเกิดมาเป็นสัตว์จรหันหน้าไปทางไหนก็ไม่มีใครเค้าต้องการจึงต้องอยู่แบบตามมีตามเกิด อดทนจนเกือบจะสิ้นใจถ้าโชคดีหน่อยวันไหนได้อิ่มท้องรอดไปอีกมื้อก็ถือเป็นบุญวันไหนโชคร้ายไม่เจอผู้คนใจดีก็ต้องอดทนเดินหาข้าวหาน้ำประทังชีวิต เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังจากที่ดิ้นรนสู้ชีวิตเพราะถูกนำมาปล่อยให้อยู่กันเพียงลำพังตั้งแต่เล็กแต่น้อย วิธีหาข้าวหาปลาก็ยังไม่รู้จึงต้องอดทนจนผอมโซเรี่ยวแรงแทบไม่มีจะเดิน หลังจากผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้นำเรื่องราวของเจ้าตูบทั้ง 4 ชีวิตที่เคยถูกเอามาปล่อยจนผอมโซแต่ทว่าโชคชะตาก็เป็นใจไม่ทอดทิ้งพวกเขาหลังมีผู้ใจบุญรับไปเลี้ยง จนสภาพที่ได้เห็นในวันนั้นกลับในวันนี้ช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน ก่อนเคยอดทนจนเกือบจะสิ้นใจตอนนี้ได้อยู่กินอย่างสุขสบายมีที่ให้พักพิงกินอิ่มท้องนอนหลับสนิทหลบแดดหลบฝนในบ้านอันแสนอบอุ่น หลังจากที่ผู้บริหารเจ้าของบริษัทผู้ใจบุญได้รับเลี้ยงอุปการะเลี้ยงดูทั้งหมด 4 ตัวและในวันนี้ผู้ใจบุญก็ได้ส่งรูปมาให้กับผู้โพสต์ ซึ่งสภาพที่ได้เห็นทำเอาผู้โพสต์นั้นอิ่มใจเพราะสภาพของน้องๆต่างกันราวฟ้ากับดิน ทุกตัวได้อยู่กินอย่างสุขสบายในบ้านหลังใหญ่แถมมีรอยยิ้มที่แสนจะมีความสุข มีที่ให้วิ่งเล่น แถมอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเพราะน้องทั้งหมดนั้นเป็นสุนัขคอกเดียวกันหรือเป็นพี่น้องกันนั้นเอง โดยทั้งนี้ผู้โพสต์ก็ได้โพสต์ขอบคุณเพื่อนๆที่ช่วยกันหาบ้านจนเจอผู้ใจบุญรายนี้รับเลี้ยงน้องๆลงในกลุุ่ม รักหมา แถมผู้ใจบุญรายนี้ก็ส่งรูปน้องๆมาให้กับผู้โพสต์ดูอยู่เสมอว่าน้องๆได้อยู่กันอย่างสุขสบายหายห่วงเลยทีเดียว ซึ่งทั้งนี้ก็อยากจะฝากเพื่อนๆเอาไว้ด้วยว่าอย่ามองข้ามปัญหาสำหรับคนที่เขานั้นเดือดร้อนจริงๆเพราะสุนัขหรือแมวพวกนี้เค้าไม่สามารถพูดหรือร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้ หากเพื่อนๆได้พบหรือเจอน้องๆเดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือก็อยากจะให้ยื่นมือเข้าไปช่วยเพราะเชื่อว่าบุญกุศลที่เราได้ทำกับพวกเขาจะต้องนำพาสิ่งดีๆกลับมาหาเราอย่างแน่นอน ขอขอบคุณข้อมูลจาก สมพงษ์ ปัญญาวงค์

พี่เฮงจากแมวที่ไม่มีใครต้องการ นั่งตากฝนกว่า2วันเพราะนั่งรอเจ้าของ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Varu Varuknow ได้เผยเรื่องราวของพี่เฮง พี่เฮงเป็นอดีตแมวจรเคยนั่งตากฝนกว่า 2 วัน จนหนุ่มผู้โพสต์เปิดไปเจอน้องบนเว็บไซต์พันทิปที่มีคนเขียนเรื่องราวของน้องอยู่ว่าน้องถูกปล่อยเอาไว้ และน้องก็ยังคงไม่ไปไหนนั่งตากฝนเพื่อรอเจ้าของกลับมารับ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า “เมื่อก่อนผมไม่ชอบแมวเลยครับ แต่พอวันนึงเปิดไปเจอในเว็บไซต์พันทิป คนโพสต์ลงว่ามีแมวถูกปล่อยนั่งตากฝนไว้สองวันแล้ว เฮ้ย!!แถวที่ทำงานเลยนี่หว่า เราเลยเดินไปดูมีคนมุงแต่ไม่มีใครสามารถเลี้ยงน้องได้ เลยอุ้มๆมาก่อนค่อยว่ากันอีกที... แล้วตั้งแต่วันนั้นมา เราก็ไม่เคยแยกจากกันอีกเลย ตอนที่ได้เค้ามาเป็นช่วงที่มีแต่เรื่องแย่ๆเข้ามา แต่ในช่วงที่จิตใจอ่อนแอ แต่มันกลับแข็งแรงขึ้นในทุกๆวัน..เพราะต้องปั่นเงินเลี้ยงมันเนี้ย!” น้องมีชื่อว่าเฮงๆ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในกลุ่มทาสแมว จนเหล่าคนรักแมวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องราวสุดแสนน่ารักนี้ ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นขอบคุณที่เปิดโอกาสดีๆให้กับชีวิตของน้อง ถ้าไม่มีคุณเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าน้องจะต้องนั่งตากฝนอยู่อย่างนี้อีกกี่วัน เพราะคนที่ผ่านไปมาก็ได้แต่มุงดูกันไม่มีใครสามารถรับเลี้ยงน้องได้เลย ด้วยร่างกายที่แน่นใส่เสื้อฟิตเปรี๊ยะจนน้องเองกลายเป็นขวัญใจในกลุ่มทาสแมวไปแล้ว สามารถติดตามชีวิตของน้อง และรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มทาสแมวนะคร๊าบ แอดเองก็ต้องขอบคุณหนุ่มใจดีด้วยนะที่รับน้องไปดูแล ดูสิตอนนี้น้องเสื้อปริไปหมดแล้ว สงสัยช่วงนี้กินเยอะ เห็นแล้วน่ากอดสุดๆเลยจ้า   ขอขอบคุณ : Varu Varuknow

ปิดตำนานเฮียชม เฮียขอกลับไปยังดาวแมวหลังมีอาการป่วยมาหลายครั้งจนอาการทรุดลงจนน้องไม่ไหว

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563 แฟนเพจเฟสบุ๊ก : ชมแมวเพ็ตโฮม ได้เผยเรื่องราวพร้อมอัปเดทล่าสุดของพี่ชมกับวลีเด็ดที่ว่าถ้าจิตใจสะอาดน้ำก็ไม่จำเป็นต้องอาบก็ได้ แต่วลีนี้คงไม่มีจากตัวพี่ชมอีกแล้ว ด้วยอาการป่วยของพี่ชมทำให้พี่ชมเองต้องลาจากโลกนี้ไปอยู่บนดาวแมวท่ามกลางเหล่า FC ที่เข้ามาแสดงความเสียใจกับการจากไปในครั้งนี้ . โดยทางแฟนเพจได้เผยว่า RIPเฮียชมแมว @ตลาดใหม่สระหลวง จังหวัดพิจิตร เฮียมีอาการกระเพาะปัสสาวะอุดตันฉี่ (อาการนี้แมวหลายตัวก็เป็นคนเลี้ยงแมวต้องไม่นิ่งนอนใจนะ) ไม่ออกเหมือนที่เคยเป็นมา ซึงเฮียชมเองเคยเป็นแบบนี้มารอบนึงแล้ว เมื่อวานคุณตาก็เลยรีบพาส่งยังคลินิคเพื่อทำการรักษา โดยคุณหมอได้ทำการรักษาโดยการสวนท่อ แต่เฮียเองอาการไม่ดีขึ้นเลย เฮียมีอาการทรุดและจากไปเมื่อคืนนี้ ไปสู่ภพภูมิที่ดีไปอยู่กับคุณยายนะครับ ส่วนชาวเน็ตเหล่า FC ของเฮียชมต่างเข้ามาแสดงความเสียใจกับการจากไปในครั้งนี้ เพราะเฮียชมได้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ และรูปของเฮียก็กลายเป็นไวรัลที่ผู้คนต่างเรียกเฮียแกว่า ถ้าจิตใจสะอาดน้ำก็ไม่จำเป็นต้องอาบก็ได้ ภาพของเฮียชมพวกเราชาวทาสแมวจะขอจดจำไปตลอดทั้งชีวิต ขอให้เฮียเดินทางไปยังดาวแมวไปอยู่กับเพื่อนๆแมวตัวอื่นๆ อยู่บนดาวแมวเฮียอาจไม่ได้คลุกฝุ่นอีก เฮียน่ารักเสมอแม้ไม่ได้อาบน้ำก็ตาม #รักเฮียชม   ที่มา ชมแมวเพ็ตโฮม

อาศัยในป่าเดินมาขออาหารร่วมโล กินตุนอาหารเอาไว้ในท้องรีบวิ่งกลับมาอาเจียนให้ลูกได้กิน

หัวอกของคนเป็นแม่ เชื่อว่าเพื่อนๆทุกคนคงจะเข้าใจคำว่าแม่เป็นดีอย่างท่องแท้ เพราะแม้แม่ตกยากลำบากเพียงใดสิ่งที่ทำได้ก็ขอเพียงแค่ให้ลูกได้สุขสบายได้อิ่มท้องไม่ต้องอดทนลำบากก็มากเกินพอกว่าสุขไหนจะเทียบ และก็ไม่ใช่เพียงแค่แม่อย่างมนุษย์เราเท่านั้นแม้แต่สุนัขเองแล้วก็มีความเป็นแม่ไม่แพ้คนอย่างเราๆเลย เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คแฟนเพจที่ใช้ชื่อว่า มะหมาทะเล ได้โพสต์เล่าเรื่องราวทำให้คนรักหมาน้ำตาตกในหลังจากที่เขานั้นได้ให้อาหารกับสุนัขจรตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในป่าซึ่งน้องได้เดินออกมาหาอาหารโดยเป็นระยะทางที่ไกลมากๆ ซึ่งในตอนแรกผู้โพสต์ก็ทำได้เพียงแค่ให้ข้าวให้น้ำเพราะคิดว่าคงเป็นสุนัขจรที่เร่ร่อนหิวข้าวหิวน้ำโดยปกติ แต่ทว่าหลังจากที่เจ้าตูบตัวนี้กินข้าวเสร็จเธอก็ได้สังเกตุว่าเจ้าตูบนั้นน่าจะเป็นสุนัขแม่ลูกอ่อนจึงได้พยายามเดินตามเจ้าตูบไปดู และเมื่อได้เห็นสิ่งที่เจ้าตูบที่เดินทางไกลมากๆเพื่อที่จะกลับมายังที่ที่อาศัยอยู่ก็ทำเอาน้ำตาซึม เพราะเจ้าตูบนั้นเดินมาและอาเจียนให้กับลูกตัวน้อยๆได้กินในสิ่งที่เจ้าตูบนั้นกินข้าวไปทั้งหมด เรียกได้ว่าหัวอกแม่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด เพราะแม้ว่าตัวจะอดหรือต้องอาเจียนออกมาจนหมดแม่ก็ทนไหวขอเพียงให้พวกเจ้าได้อิ่ม ถึงแม่จะต้องยอมเดินไกลเพื่อจะได้อาหารในแต่ละมื้อแต่ถ้าแลกมาด้วยความปลอดภัยของลูกแล้วแม่ก็จะยอมทำ ซึ่งเรื่องราวนี้ทำให้ผู้คนโลกออนไลน์ได้เห็นความรักความซื่อสัตย์ต่อหัวอกแม่เพราะถึงแม้ตัวจะเป็นสุนัขแต่ก็มีความรักต่อลูกอย่างเปี่ยมล้น เพราะถึงขนาดยอมเดินไปกลับแล้วตัวต้องอดไม่มีอะไรตกถึงท้องแม่ก็ยอมทำให้ลูกๆได้เสมอ ทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องๆไปดูแลหรืออยากจะเข้าช่วยเหลือก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ แต่จริงๆก็อยากให้รับทั้งครอบครัวไปเลี้ยงพร้อมหน้าพร้อมตากันเลยเพราะเชื่อว่าแม่ตูบตัวนี้คงไม่อยากถูกพรากลูกพรากแม่เป็นแน่แท้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก มะหมาทะเล