อาศัยหลบอยู่ในศาลไม่ยอมไปไหนแม้ตัวหิว ทนฝืนใช้ชีวิตขอให้วันพรุ่งนี้ยังมีลมหายใจ

ชีวิตของแมวจรมันก็ไร้ทางเลือกมากนัก จะไปแอบหลบอาศัยอยู่ในบ้านคนก็ทำไม่ได้เดี๋ยวคนไม่ชอบจะไล่ออกเอา เหลือเพียงแค่ศาลนี่แหละที่พอจะเป็นที่พักพิงให้กับน้องแมวได้ แม้ตัวจะหิวแต่ก็ต้องยอมทนเพื่อให้ตนยังมีลมหายใจ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Vareeporn Khamla Khamsuk ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า คือเราผ่านมาตรงสมตึกเจมส์ สีลม เราได้พบเจอกับน้องแมวอยู่ในศาล 2 ตัว แต่ละตัวคือผอมน่าสงสารมาก น่าจะหลบอยู่แต่ในศาลแห่งนี้ไม่ยอมไปไหน เราขอร้องล่ะใครที่อยู่ใกล้ๆ ช่วยมารับเลี้ยงน้องหรือหาบ้านให้กับน้องได้มั้ยคะ เพราะเราอยู่ที่ต่างจังหวัดไม่สามารถช่วยน้องได้มากกว่านี้แล้ว ใครอยู่ไกล้รับไปหาบ้านให้ทีนะคะ กราบขอบพระคุณล่วงหน้า (ทั้งนี้ทั้งนั้นนิติเขาไม่ไล่แปลว่าเขาอาจจะให้อยู่แต่อนาคตไม่รู้ว่าจะโดนไล่มั้ยโปรดช่วยน้องๆที พิกัดตึกเจมส์ทาวเวอร์ถนนเจริญกรุงเขตสีลม โดยทั้งนี้ทั้งนั้นหากใครผ่านมาแล้วอยากช่วยน้อง โปรดรีบอุ้มกลับแล้วเอาไปดูแลได้เลยนะ ที่มา Vareeporn...

สองพี่น้องนอนกกกันไว้ไม่ยอมห่างกาย สายตาละห้อยคอยหาแม่ไม่มีวันกลับมา

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Suchanaree Boonrod ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า ตามหาบ้านที่อบอุ่นให้กับเด็กๆค่ะ (สะลิด=ชาย ขาวดำ=หญิง) ตอนนี้น้องเริ่มมีฟันกันแล้ว อายุน่าจะไม่เกิน2เดือนค่ะ . เราเจอเขาระแวกที่พักพอดีเลย คงหลงมา ได้สักพักแล้ว แถวนี้ก็มีแมวจรอยู่เยอะเลย แต่ถามดูแล้วก็ไม่มีใครเป็นคนดูแลเลยสักคนน่าจะโดนทิ้งหรือแม่แมวจรมาออกลูกไว้ เราอยากให้น้องมีบ้านค่ะ เพราะตอนนี้แอบเอาเด็กๆมาดูแลอยู่ในหอพักก่อน พากลับบ้านไม่ได้ด้วยเพราะมีเจ้าตูบสองตัวอยู่แล้ว เราอยากจะขอบ้านที่สามารถรับน้องทั้งสองตัวไปเลี้ยงด้วยกันได้ค่ะ ขอเป็นระบบปิด ดูแลสุขภาพทำหมั้นวัคซีนได้ น้องๆแข็งแรงน่ารักสุขภาพดีมากๆเลยค่ะ กำลังซุกซนตามวัยเลย อยากได้บ้านที่ไม่ต้องเลี้ยงเขาแบบหลบซ่อน ที่เขาไม่ต้องเสี่ยงออกไปเป็นแมวจรริมทางแบบนี้อีก ลายสะลิดขี้อ้อนติดคนมากค่ะ แต่ก็แอบติสแตกนิดนึงเหมือนกันนะ...

เกิดเป็นแมวพันธุ์แต่กลับไร้คนรักเหลียวแลดู แม้ต่างชาติจะให้ค่าแต่เหตุใดถึงมาเป็นจร

ถึงแม้ว่าชีวิตจะเป็นเป็นแมวพันธุ์วิเชียรมาศ แต่บ้านเราก็เห็นแมวพันธุ์นี้กันอยู่ชินตาอยู่แล้ว เห็นแล้วก็คิดคำนึงยังไงเสียแล้วมันก็เป็นเพียงแค่แมวจรตัวนึง ทำให้น้องแมวพันธุ์น้องต้องระหกระเหินเดินเร่ร่อนกันอยู่เป็นจำนวนมากยิ่ง . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : สบาย สบาย ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า น้องเป็นแมวจรเพศเมีย อายุประมาณ 7 เดือน เป็นแมวพันธุ์วิเชียนมาศ พิกัด อยู่แถวตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบนนะคะ น้องเป็นแมวอยู่ที่ใต้ห้องพักคนงานเวลาฝนตกน้ำไหลเข้าไปน้องอยู่ลำบากนะคะ และไม่ใช่แค่นั้นมันยังมีแมวตัวอื่นคอยมาฟัดน้องด้วยค่ะ อยากให้น้องมีบ้านอยู่นะคะจะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับชีวิตที่เลือกไม่ได้ เพราะชีวิตมันก็ขึ้นอยู่กับมนุษย์ว่าจะหยิบยื่นโอกาสดีๆให้กับน้องบ้างมั้ย หากท่านใดสนใจอยากจะรับเลี้ยงน้อง เอามาเลี้ยงเอามาดูแลก็ลองทักไปหาได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะ น้องยังรอคุณเสมอกับความหวังว่าจะมีบ้านสักครั้งในชีวิต ที่มา สบาย สบาย

สั่งอาหารให้พ่อกลัวว่าจะหิว แต่โรบินฮูดกลับอุ้มแมวมาให้ ได้ทั้งอาหารได้ทั้งแมว

โดยแฟนเพจเฟสบุ๊ก : นี่บ้านหรือสวนสัตว์ ได้โพสต์เรื่องราวลงในโลกออนไลน์อันมีใจความระบุว่า วันนี้มันวันอะไรกัน เมื่อตอนค่ำที่ผ่านมานี้ เราสั่งอาหารให้พ่อผ่าน Robinhood ก็มีคนรับออเดอร์พอสักพักน้องไรเดอร์ก็โทรมา . พี่ครับ ผมกำลังไปรับอาหารนะครับแต่มันจะช้าหน่อยนะครับพี่ พอดีรถติด อ่ะ โอเคจ้า ไม่มีปัญหาแล้วเขาก็บอกอีกว่า “พี่ครับ มีอีกเรื่องนึง ” ในใจตอนนั้นคือ ไม่ใช่เอ็งเจอแมวกลางถนนนะ “ คือว่า ผมเจอลูกแมวที่กลางถนนจะโดนรถชนเอานะครับ เค้าก็หยุดรถกันยกใหญ่เลย ผมก็จอดรถวิ่งตามมันก็เข้าไปที่ใต้ท้องรถแท๊กซี่ครับ พอทุกคนช่วยกันได้แล้วก็แยกย้ายครับ”...

หายจากบ้านไปร่วม 2 เดือนตามหาจนท้อ วันนี้เดินกลับมาร้องส่งเสียงร้องที่หลังบ้านให้มาดูตัว

แม้ในการเลี้ยงดูแลสิ่งหนึ่งที่เราพยายามจะคอยเตือนทุกคนเสมอ ก็คือการเลี้ยงดูแลพวกเขาในระบบปิดมันจะปลอดภัยในตัวเธอและต่อดวงใจของเราเอง เพราะถ้าวันหนึ่งพวกเขาได้หายไปเราก็อาจจะต้องมานั่งโทษตัวเองและเสียใจไปตลอดชีวิตแม้อาจจะไม่มีสิทธิ์ที่จะได้พวกเขากลับคืนมาอีกเลย เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Jittima Pantong ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากเธอต้องเสียน้ำตามาเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือนแล้ว เพราะเมื่อสองเดือนที่แล้วเธอได้ประกาศตามหาน้องแมวชื่อว่าน้องมันนี่ แม้ยังมีการแจกใบปลิวโพสต์ลงกลุ่มแถวบ้าน ซึ่งเธอก็คาดว่าน้องน่าจะติดรถไป แล้วไปตกที่ไหนสักแห่งแม้ก็พยายามจะตามหาน้องจนท้อและคิดว่าคงจะไม่ได้เจอน้องอีกแล้วเพราะหายไปตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.65 แล้วเมื่อวานวันที่ 15 ต.ค.65 เวลาประมาณ 19.30 น้องก็ได้มายืนร้องเรียกอยู่ที่หลังบ้าน แม้ตอนแรกก็ไม่ให้จับน่าจะงงอยู่ แต่ที่บ้านเธอก็พยายามจะจับน้องมาไว้ในบ้าน ซึ่งตอนนี้น้องก็คุ้นแล้วเธอกับแม่ก็ยังงงว่าน้องกลับมาได้ยังไง เพราะเป็นเวลากว่า 2 เดือน...

หอบกระเตงลากขามาร้องหาความช่วยเหลือ หลังถูกทารุณเป็นเหยื่อขี้เมาสนานใจ

เพราะในชีวิตที่ตัวเองเกิดมาเป็นเพียงจรยามจะนอนยังไร้แม้ที่พึ่ง ไร้แม้ร่มเงาจะหลบแดดฝนตัวต้องทุกข์ทนหนาวจากยุงซ้ำยังต้องเจอกับคนใจร้าย แม้ต้องพยายามจะแบกสังขารลากตัวดิ้นรนทุรนทุราย ชีวิตไม่หายยังถูกเขาทำซ้ำจากโลกภัยนอกที่มากมายจนต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากคน เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kimutaku E-air ที่ได้โพสต์เรื่องราวหลังเมื่อวานเธอได้เจอกับน้องแมวจรตัวนี้ที่ได้คลานลากๆขามาหาแม้มีพาสเตอร์ติดอยู่ที่พุง และมีหมัดเต็มตัวแทบทุกอณูขนเยอะมากๆ ชาวบ้านแถวนี้ก็ได้บอกว่าน้องมักจะถูกแกล้งจากพวกขี้ยา ซึ่งเขาก็จะแกล้งน้องอยู่เป็นประจำด้วยการดึงหางเตะโยนลอยฟ้า ที่ขาลากๆก็ไม่รู้ว่าไอ้ขี้เมามันแกล้งหนักหรือถูกตีหรือรถทับมานะคะ ส่วนพุงของน้องที่มีพาสเตอร์เพราะหมากัดเพราะน้องลากหนีไม่ได้ เธอเลยไปซื้อยาหยดหมัดให้น้อง รพส.ก็ถามน้ำหนักตัวเลยเอารูปให้น้องดู รพส.วัฒน์สวนส้มสมุทรปราการ ซึ่งเจ้าหน้าที่จำได้เลยบอกว่าแมวตัวนี้เพิ่งมาเมื่อวันก่อน มีคนจับมาทำแผลหมากัดและ X-ray เจอว่าสะโพกหักน้องขาลากเพราะกระดูกเชิงกรานหัก ถ้าน้องไม่ได้ผ่าตัดจะใช้ชีวิตไม่ได้ เพราะฉี่เองอึเองไม่ได้เลย หรือลิ่มอุดตันและอาจจะต้องตัดขาทิ้ง รพส.นี้เค้าก็ได้ประเมินว่าค่าผ่าตัดราวๆ 2 หมื่น ซึ่งคนที่เขาพามาก็สู้ราคาไม่ไหวเลยไม่ขอรักษาน้องต่อ เลยให้แค่ทำแผลแล้วพาไปปล่อยไว้ยังที่เดิมที่น้องเคยอยู่...

ถูกส่งไม้ต่อถึง3ไม้เพื่อขอให้เอาไปทิ้ง แต่ไม้สุดท้ายกลับสงสารใครก็ได้ช่วยที

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Art Chawasri ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า ลูกแมวตกมาจากฝ้าในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ทางเจ้าของบ้านเขาก็ไม่ชอบแมวเอามากๆ เขาเคยจับแมวไปปล่อยมาแล้วครั้งนึง . พอครั้งนี้เอามาให้นิติบุคคลไปปล่อยแทน ทางนิติบุคคลก็ใช้ให้น้า รปภ. ไปปล่อยต่อ พอน้ารปภ. ทราบเข้าก็เกิดความสงสาร ลูกแมวตัวนิดเดียวด้วยปล่อยไปก็คงไม่รอดแน่ๆ แม่แมวก็หาไม่เจอไม่รู้ตอนนี้อยู่ไหน ถามไปถามมาได้ความว่าตอนแรกมี 6 ตัว แต่เอาไปปล่อยแล้วหรือวิ่งหนีหายไปไหนไม่รู้ 2 ตัว เจออยู่ในลังกระดาษแค่ 4 ตัว เพศอะไรไม่แน่ใจ...

เห็นนอนข้างถนนนึกสงสารกลัวโดนรถทับ ใจก็อยากช่วยแต่กลับเปลี่ยนใจกะทันหัน

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Tanawat Nawasakulkaidech ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า เพื่อหาครอบครัวที่อบอุ่นให้น้อง เนื่องจากผมและแฟนไม่สามารถเลี้ยงน้องได้ เพราะเราไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนเลยในชีวิต . และเราก็มีสุนัขอยู่แล้วตั้งสองตัว จึงอยากหาบ้านดีๆให้กับน้องแมวสักหลัง เพื่อให้เค้ามีชีวิตที่ดีในอนาคต น้องเป็นแมวจร ผมเจอน้องเค้าตรงถนนใหญ่ในกรุงเทพ ผมก็กลัวว่ารถจะชนหรือทับน้อง จึงนำน้องเค้ามาดูแลเป็นการชั่วคราวก่อน น้องเป็นแมวไทย มีนิสัยขี้กลัว ระแวง คนแปลกหน้า เค้าน่าจะเจอเรื่องที่กระทบด้านจิตใจมาพอสมควรทำให้น้องต้องเป็นแบบนี้ ด้านสุขภาพผมสังเกตว่าน้องปกติดี ไม่น่ามีปัญหาเรื่องของสุขภาพครับ หากท่านใดสนใจสามารถติดต่อผ่านทางแชทได้ตลอดเลยนะครับ ขอพื้นที่ดีๆให้น้องได้มีชีวิตใหม่ด้วยนะ เชื่อได้เลยว่าน้องหน้าตาน่ารักแบบนี้คงจะหาบ้านได้ไม่ยาก แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางผู้โพสต์กลับเปลี่ยนใจกะทันหัน โดยเขาได้บอกว่า...

หอบระหกมารักษาตัวเฝ้าหาเขาไม่มารับกลับ แม้เฝ้ารออยู่ทุกวันด้วยใจหวังว่าพ่อจะกลับมารับหนู

เพราะสิ่งที่สำคัญที่เราพยายามจะย้ำหรือคอยบอกว่าให้มีความพร้อมนอกจากเวลาแล้วยังต้องมีเงินทองมากพอที่จะสามารถรักษา ยามที่พวกเขาเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยเพราะชีวิตล้วนมีแต่คุณเป็นผู้ดูแลเปรียบเสมือนคนที่เป็นพ่อเป็นแม่แค่คนเดียว ซึ่งถ้าเกิดไม่มีความรักผิดชอบมากพอชีวิตของพวกเขาก็อาจจะต้องตกเป็นแมวจร หรืออาจจะต้องถูกเทเหมือนกับเรื่องราวนี้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า โรงพยาบาลสัตว์ หลังสวน ที่ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้ามิ้วตัวนี้เพื่อที่จะประกาศตามหาเจ้าของน้องแมวลงในแฟนเพจของทางโรงพยาบาลสัตว์ หลังน้องมีชื่อว่า เก้า ซึ่งเจ้าของคือคุณ พุทธิชา แผ่นโพน ซึ่งทางเจ้าของได้นำน้องแมวมารักษาตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2565 และน้องแมวก็มีอาการดีขึ้นตามลำดับ และทางโรงพยาบาลเองก็ได้ตกลงกับทางผู้เป็นเจ้าของว่าให้มารับน้องแมวกลับไปในวันที่ 6 ตุลาคม แต่ตั้งแต่ 6 ตุลาคมจนมาถึงวันนี้เวลา 16 ตุลาแล้วทางโรงพยาบาลก็ยังไม่สามารถที่จะติดต่อผู้เป็นเจ้าของน้องได้เลย ทั้งเบอร์โทรศัพท์ที่ทางผู้เป็นเจ้าของให้มาก็มีการปิดเครื่องไม่รับโทรศัพท์...

เห็นปวดท้องหนักถ่ายไม่ออกพาไปหาหมอ เอกซเรย์ดูน้ำตานองเจอต้นตอเป็นมุ้งลวด

แม้แต่การเลี้ยงเอาไว้ภายในบ้านเราเองผู้เป็นทาสก็ไม่สามารถที่จะปล่อยหรือไว้วางใจได้ เพราะพวกเขาก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเด็กตัวน้อยๆ ที่ไม่รู้เรื่องราวหรือไม่รู้ภาษาว่าอันไหนกินได้หรือทำไม่ได้ เราเองคนเป็นทาสก็จะต้องระวังทุกอย่างแม้จะต้องเก็บให้พ้นมือของพวกเขา เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า หมอต้า - คลินิกพอเพียงรักษาสัตว์ ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้ามิ้วตัวนี้หลังทางแฟนเพจได้นำมาลงไว้เป็นอุทาหรณ์อุทาใจเตือนใจสำหรับเพื่อนๆชาวทาสแมว เมื่อเคสนี้เป็นน้องแมวที่มาด้วยภาวะกินอะไรไม่ได้เลยมาร่วมเดือนแล้ว แม้ยังมีอาการถ่ายไม่ออกจนเนื้อตัวผอมลงเรื่อยๆ ทางเจ้าของเองก็รักษามาหลายที่แล้วแต่กลับไม่มีท่าทีที่น้องจะดีขึ้นเลย จึงได้ถูกนำตัวส่งมายังที่นี้แม้หมอก็ได้จับ X-ray เพื่อที่จะหาต้นเหตุและก็ได้พบกับสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปอุดตันกระเพาะอาหาร จนกระเพาะอาหารขยายขนาด ซึ่งน้องแมวเองก็มีภาวะท้องกางและตัวผอมมากด้วยน้ำหนัก 1.8 กิโล วันนี้เลยผ่ากระเพาะเจอต้นตอก็คือเจ้ามุ้งลวดจำนวนมากที่อัดแน่อยู่ในกระเพาะอาหารของน้อง และได้ทำการนำออกมาให้หมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้น้องก็ได้ออกจากห้องผ ่าตัดแล้วพักฟื้นอยู่ในตู้ ICU และรอติดตามอาการเป็นระยะ ซึ่งทางเพจของคุณหมอเลยได้นำมาลงเตือนเพื่อนๆทาสแมวเอาไว้ว่าแม้การที่เราเลี้ยงพวกเขาในระบบปิดแล้วก็ใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไปถ้าไม่ระมัดระวังให้ดี ที่มา หมอต้า...