ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของคนไทยมาอย่างช้านาน และประเทศไทยของเราก็ดูแลช้างไม่ได้ด้อยไปกว่าต่างประเทศเลยด้วย แต่สำหรับในเคสนี้แล้วมันเกินคำบรรยายเหลือเกิน เพราะเจ้าช้างตัวดังกล่าวนี้ต้องว่ายน้ำข้ามประเทศเพื่อให้ตนมีชีวิตรอด

.

ในโลกออนไลน์แฟนเพจเฟสบุ๊ก : World Forum ข่าวสารต่างประเทศ ได้โพสต์ระบุว่า ในประเทศบังคลาเทศ ช้างตัวดังกล่าวนี้ต้องอหนีออกจากประเทศพม่าว่ายน้ำข้ามฝั่งเพื่อไปยังบังคลาเทศกว่า 4 วันที่ติดอยู่ในชายหาดและทะเล โดยตัวช้างเป็นตัวผู้ และตัวเมีย

ได้แยกออกจากโขลงในรัฐยะไข่ เขาทั้งคู่ว่ายน้ำข้ามไปบังคลาเทศ ทางที่เคยใช้อพยพข้ามไปมาถูกปิดไปจนหมดจากค่ายผู้ลี้ภัยโรฮิงญา และปัญหาชายแดนช้างสองตัวได้ว่ายข้ามแม่น้ำนาฟกว้าง 3 กิโลเมตร ปากอ่าวเบงกอลไปยังฝั่งพม่า และไปขึ้นฝั่งในบังคลาเทศคาดว่าพวกมันใช้เวลากว่า 20 ชั่วโมงที่ติดอยู่ในน้ำทะเลดังกล่าว

หลังจากขึ้นฝั่งมาได้ก็ติดอยู่ชายหาดไม่มีอาหาร ชาวบ้านกดดันไล่ออกไปเพราะคนในพื้นที่กลัวช้างช้างเคยกระทำต่อคนในพื้นที่ ช้างตัดสินใจว่ายน้ำออกทะเลในอ่าวเบงกอลอีกครั้งเพื่อหลบภัย เนื่องจากถูกคนเขาไล่และคนนับพันคนแห่มาดูช้าง ชาวประมงใจดี ใช้เชือกคล้องคอช้างในทะเลดังกล่าวนี้

และพวกเขาพยายามลากช้างเข้าฝั่งขณะที่ติดในทะเลและอ่อนแรง ชาวประมงให้อาหาร เพราะช้างขาดอาหารขณะเดินทางนานกว่า 4 วัน (30 มิ.ย.64)ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้รับช้าง 2 ตัวไปดูแลต่อไปแล้ว ช้างหนีจากพม่าเพราะปัญหาอาหารขาดแคลนพวกเขาทั้งคู่จึงทำทุกวิถึทางเพื่อให้ตนรอดชีวิตจากการบุกรุกป่าที่อยู่อาศัยของพวกมัน และถูกกระทำด้วยน้ำมือจากมนุษย์อย่างหนัก

ที่มา World Forum ข่าวสารต่างประเทศ